ญาติ “น้องหญิง” แห่โลงศพขอความเป็นธรรมกองปราบฯ


กทม. 30 ก.ค.- ญาติหญิงสาวที่เสียชีวิตปริศนาจากเหตุตกรถเทรลเลอร์ ริมถนนสายเอเชีย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา แห่โลงศพขอความเป็นธรรมกับตำรวจกองปราบปราม

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วยครอบครัวของน้องหญิง ที่เสียชีวิตปริศนาจากเหตุตกรถเทรลเลอร์ ริมถนนสายเอเชีย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา นำโลงศพน้องหญิงขึ้นรถกระบะเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับตำรวจกองปราบปราม พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.สิรินาถ รอบรัมย์ (เป็ด) และนายสุรพล ดาราคำ (อ๊อฟ) และนายท็อป ยังไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง ในข้อหาร่วมกันทำให้น้องหญิงถึงแก่ความตาย ในลักษณะฆาตกรรมอำพราง


นายอัจฉริยะ ระบุว่า ผลการชันสูตรศพน้องหญิง ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ระบุชัดเจนว่า กะโหลกศีรษะแตก จากการถูกกระแทกด้วยของแข็งไม่มีคม โดยเฉพาะบริเวณท้ายทอยด้านขวา แต่ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.บางปะอิน กลับไม่ดำเนินคดีใดๆ กับผู้เกี่ยวข้อง นับตั้งแต่เกิดเหตุวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา และบอกให้ครอบครัวน้องหญิงไปหาพยานหลักฐานเอง กระทั่งมีการร้องเรียนชมรมฯ และสื่อมวลชน ทางตำรวจ สภ.บางปะอิน จึงดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง ข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ทั้งที่ไม่เคยสอบปากคำฝ่ายผู้เสียหายแต่อย่างใด ซึ่งวันพรุ่งนี้ (31 ก.ค.) ตนและครอบครัวน้องหญิงจะร้องขอความเป็นธรรมกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจ สภ.บางปะอิน ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

ขณะที่นายสุบิน ยาวิราช บิดาน้องหญิง ยอมรับว่า ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของน้องหญิงตั้งแต่แรก ซึ่งคู่กรณีอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุจากการที่น้องหญิงกระโดดลงมาจากรถเอง แต่ตำรวจ สภ.บางปะอิน ไม่เคยสอบปากคำญาติ รวมถึงตรวจที่เกิดเหตุ โดยมองแค่ว่าเป็นคดีอุบัติเหตุ พร้อมให้ญาติไปหาพยานหลักฐานเอง จนพบกับคลิปเสียงที่น้องหญิงโทรขอความช่วยเหลือกับเพื่อนขณะเกิดเหตุ รวมถึงผลชันสูตรศพที่ออกมาชัดเจน ตำรวจจึงนัดสอบปากคำวันที่ 31 กรกฎาคมนี้. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง