รร.อโนมา 24 ก.ค. – กรมศุลกากรย้ำนำสินค้าพักเขตฟรีโซนยกเว้นภาษีนำเข้า หวังดันไทยเป็นศูนย์กลางขนส่งสินค้าภูมิภาค
นายกิตติ สุทธิสัมพันธ์ รองอธิบดีกรมศุลกากร กล่าวในงานสัมมนา “พิธีการศุลกากรสำหรับเขตปลอดอากร : การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ” ว่า พ.ร.บ.กรมศุลกากรฉบับใหม่ มาตรา 152 กำหนดเขตปลอดอากรพื้นที่สำคัญ ได้แก่ สนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดน เช่น อ.แม่สอด ด้วยกำหนดให้การนำเข้าสินค้าเข้ามาพักเก็บไว้ในเขตฟรีโซนดังกล่าวไม่ต้องผ่านพิธีการศุลกากรยื่นสำแดงภาษี เมื่อต้องการนำเข้าสินค้ามาพักไว้ในประเทศ จากนั้นนำส่งออกไปยังประเทศที่ 3 หรือประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อนำเข้ามาพักไว้จากเดิมต้องขออนุญาตกับหลายหน่วยงาน เพื่อออกใบอนุญาตสินค้าตามพิกัด ตามกฎหมายใหม่จะได้รับการยกเว้น เพื่อให้ส่งออกผ่านไปได้เลย เว้นแต่จะนำสินค้าจากเขตฟรีโซนไปใช้ในประเทศจึงขออนุญาตและเสียภาษีนำเข้าตามปกติ
ทั้งนี้ เพื่อหวังให้ไทยเป็นศูนย์กลางกระจายการขนส่งสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ยอมรับว่าแม้รายได้ภาษีของรัฐจะลดลง แต่จะมีรายได้ทางอ้อมเกิดขึ้นตามมา ทั้งการบริการขนส่งสินค้าของภาคเอกชน ค่าบริการเรื่องที่พัก ร้านอาหาร ธุรกิจโลจิสติกส์จะขยายตัวเกิดขึ้นอีกหลายเท่าตัว สำหรับสินค้าที่ได้รับการยกเว้น เช่น วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร วัตถุดิบ เม็ดพลาสติกใช้ผลิตเก้าอี้ หรือนำเก้าอี้สำเร็จรูปมาเก็บไว้เพื่อรอการส่งออกไปยังประเทศที่ 3 การยกเว้นในเขตฟรีโซนดังกล่าว เพื่อรองรับการค้าในตลาดอี-คอมเมิร์ซ เพราะการค้าออนไลน์จากเว็บไซต์เริ่มได้รับความนิยม ทำให้ขณะนี้สินค้าที่สั่งพักไว้ในเขตฟรีโซนเริ่มขยายตัวมากขึ้น ปัจจุบันมีเอกชนให้บริการในเขตฟรีโซน 516 ราย เพื่อให้บริการขนส่งสินค้า. – สำนักข่าวไทย