หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

กรุงเทพฯ 21 ม.ค. – หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้า ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา


เมื่อเวลา 12.30 น.วันนี้ (21 ม.ค.) ร.ต.ท.จรินทร์ รัตนสุวรรณชัย รอง สว.(สอบสวน) สน.ลุมพินี รับแจ้งเหตุรถเก๋งไล่ชนคนขี่รถ จยย.เสียชีวิต บริเวณหน้าโครงการก่อสร้างเท็นท์ อเวนิว ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาฯ และอาสาฯ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุบนฟุตบาทข้างเสาเหล็กติดตั้งกล้องวงจรปิดของ กทม.พบศพนายฤทธิศักดิ์ อายุ 49 ปี อาชีพไรเดอร์ นอนหงายจมกองเลือด ใกล้กันพบกล่องเก็บพัสดุและหมวกกันน็อกของผู้เสียชีวิต ห่างไป 10 เมตร บนถนนชิดขอบฟุตบาทพบรถ จยย.ฮอนด้า อีวี เดลิเวอรี่ สีน้ำเงินขาว ล้มตะแครงสภาพด้านซ้ายพังยับ ถัดไปพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีทอง สภาพกระจกมองข้างด้านขวาหัก กันชนหน้ามีรอยเฉี่ยวชน ส่วนคนขับทราบชื่อคือ นายเสรี อายุ 31 ปี ลูกชายเจ้าของร้านขายผ้าแห่งหนึ่ง ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.ลุมพินี จับกุมตัวไว้ได้ในที่เกิดเหตุ ซึ่งนายเสรี ไม่ยอมให้การใด ๆ จึงได้นำตัวไปควบคุมที่ สน.ลุมพินี


จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายเสรี ขับรถเก๋งคันก่อเหตุมาจากทางแยกอโศก มุ่งหน้า แยกเพลินจิต แล้วได้เกิดเฉี่ยวชนกับรถ จยย.ของนายฤทธิ์ศักดิ์ แล้วไม่ยอมลงมาเจรจาค่าเสียหาย แต่ได้ขับรถออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทำให้นายฤทธิ์ศักดิ์ ขี่รถ จยย.ตามมา จนถึงหน้าร้านสยาม 2 นวดเพื่อสุขภาพ โดยนายฤทธิศักดิ์ ได้ขี่ จยย.จอดขวางหน้ารถของนายเสรี ในช่องทางขวาสุด แล้วนายฤทธิศักดิ์ ก็ลงมาจากรถ จยย. ยืนขวางหน้ารถของนายเสรี แล้วเรียกให้นายเสรีลงมาเจรจาเรื่องค่าเสียหาย แต่นายเสรี พยายามขับรถเดินหน้าเพื่อชนนายฤทธิ์ศักดิ์แล้วเบี่ยงหน้ารถไปทางเลนกลางเพื่อหลบหนี นายฤทธิ์ศักดิ์ จึงใช้มือทุบกระจกที่ด้านคนขับ 2-3 ครั้ง ซึ่งนายฤทธิศักดิ์ คิดว่านายเสรีจะหลบหนีไปได้ จึงขึ้นค่อมรถ จยย. เพื่อจะขี่ตาม แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นตามคาด นายเสรีกลับเปิดประตูลงมาชกหน้านายฤทธิ์ศักดิ์ จนล้มลงพื้นพร้อมรถ จยย. และนายเสรี ได้กระทืบร่างของนายฤทธิ์ศักดิ์ ซึ่งนายฤทธิศักดิ์ คิดว่าสู้ไม่ได้ จึงได้ขี่รถ จยย.พยายามหลบหนี นายเสรียังไม่หายแค้นขับรถตามไปในเลนขวา ส่วนนายฤทธิศักดิ์ ขี่รถอยู่เลนซ้าย มาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ได้ขับรถปาดจากเลนขวาเข้ามาชนรถ จยย.ของนายฤทธิศักดิ์ ร่างของนายฤทธิศักดิ์กระเด็นไปฟาด กับเสาเหล็กกล้องวงจรปิดของ กทม. เสียชีวิตทันที

ต่อมานางสายใจ อายุ 40 ปี พร้อมด้วยบุตรสาวของนายฤทธิศักดิ์ ทราบเรื่องจึงได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นสภาพศพสามีถึงกับร่ำไห้ เป็นลมทรุดลงกับพื้น เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้น จนได้สติ ก่อนสอบสวนได้ความว่า สามีเป็นเสาหลักหาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว โดยครอบครัวตนมีลูก 4 คน ตนอยากถามคนขับรถเก๋ง ว่า จิตใจทำด้วยอะไร ถึงได้ทำกับสามีตนได้ขนาดนี้ อยากให้ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้ให้ถึงที่สุด เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา และขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย นำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้านนายเสรี คนขับรถเก๋ง ยังคงให้การปฏิเสธ ตลอดการสอบปากคำนานกว่า 4 ชั่วโมง ระบุว่า ไม่มีเจตนา ฆ่าผู้ตาย แต่มันเป็นอุบัติเหตุ ขณะที่บรรยากาศที่ สน.ลุมพินี ในช่วงเย็นวันนี้ เพื่อนร่วมอาชีพไรเดอร์ทุกค่าย ซึ่งเห็นเหตุการณ์ ได้เข้ามาปักหลักรวมตัวกันอยู่ที่บริเวณด้านหน้า สน.ลุมพินี ขณะที่ บริเวณด้านหน้าห้องสืบสวน สน.ลุมพินี บรรดาญาติพี่น้องของนายเสรี ก็เข้ามาสังเกตการณ์การสอบปากคำด้วย. -414-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

ทหารม้าคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา ในพื้นที่ซำแต หลังยอมจำนน

ศรีสะเกษ 29 ก.ค.-ทบ. เผยคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา หลังทหารม้า เข้ากวาดล้างที่มั่นเขมร พื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ หลังยอมจำนน จนท.ปลดอาวุธ ยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลเคร่งครัด ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท […]