ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

กรุงเทพฯ 22 ม.ค. – ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ


ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นที่มาของเหตุการณ์ที่นายเสรี หนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อน ขับรถเฉี่ยวชนกับนายฤทธิศักดิ์ ไรเดอร์ แล้วถูกนายฤทธิศักดิ์ขี่รถตามไปดักหน้า หวังให้ชดใช้ ทำให้นายเสรีโมโห ทำร้ายร่างกายนายฤทธิศักดิ์ ก่อนขับรถชนพุ่งชนจนร่างของนายฤทธิศักดิ์ถูกอัดกับเสาไฟจนเสียชีวิตคาที่ ขณะที่นายเสรีพยายามขับรถหนีไปจนมุมที่แยกนานา เหตุสลดในครั้งนี้นอกจากวงจรปิดยังมีคลิปจากพลเมืองดีที่บันทึกเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน เพราะเกิดขึ้นบริเวณถนนสุขุมวิท ใกล้แยกอโศก ซึ่งมีคนพลุกพล่าน

หนุ่มอินเดียหัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ยังอ้างเป็นอุบัติเหตุ
ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ตำรวจพยายามเค้นสอบปากคำผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่มีเจตนาฆ่าผู้ตาย มันเป็นอุบัติเหตุ โดยจังหวะที่ตำรวจคุมตัวออกมาจากห้องสอบ ผู้ต้องหาไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ต้องหาปฏิเสธ แต่ตำรวจยืนยันหลักฐานชัด แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น”


ญาติเยี่ยมหนุ่มอินเดีย-พ่อไหว้สื่อ “อย่ามายุ่งครอบครัว”
ขณะที่พ่อและญาติของผู้ต้องหา รวม 7 คน เดินทางมาเยี่ยมผู้ต้องหาที่ สน.ลุมพินี ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อ โดยเฉพาะพ่อของนายเสรี ผู้ต้องหา ยกมือไหว้ร้องขอว่าอย่ามายุ่งกับครอบครัว ก่อนที่ทั้งหมดจะหลบสื่อเข้าไปในห้องพนักงานสอบสวน

จากนั้นผู้ต้องหาถูกคุมตัวออกจากโรงพักไปขึ้นรถ เพื่อส่งศาลฝากขัง โดยผู้ต้องหาไม่พูดอะไรเลย มีสีหน้าเรียบเฉยและนั่งนิ่ง

ภรรยาลั่นผู้ต้องหาต้องรับผิดชอบ เยียวยาลูก 4 คน ต้องเสียพ่อ
ด้านนางสาวสายใจ ภรรยาผู้ตาย ซึ่งมา สน.ลุมพินี เพื่อรับเอกสารจากพนักงานสอบสวนนำไปประกอบการรับศพสามีออกจากนิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ยอมรับยังโศกเศร้าเสียใจ อยากให้ผู้ต้องหาได้รับโทษ และมารับผิดชอบกับการสูญเสียในครั้งนี้ เพราะลูก 4 คน ต้องมาสูญเสียพ่อที่เป็นเสาหลักของครอบครัวไป


แจ้ง 2 ข้อหา หนุ่มอินเดียหัวร้อน-ตรวจประวัติไม่ป่วยจิต
พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาจริง และไม่ยอมให้การใดๆ ในชั้นพนักงานสอบสวน อ้างว่าจะขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น และการฝากขังวันนี้พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง ส่วนการสอบพฤติกรรมผู้ต้องหาพบว่ามีอารมณ์ค่อนข้างร้ายและรุนแรง รวมถึงมีท่าทีนิ่งเฉยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งที่การตรวจประวัติการรักษาอาการป่วยทางจิต สารเสพติด และปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ไม่พบข้อบ่งชี้ที่จะนำไปสู่การมีพฤติกรรมในลักษณะนี้

ล่าสุดศาลอาญากรุงเทพใต้ พิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา พร้อมให้ติดกำไล EM โดยให้ทำสัญญาประกัน หากผิดสัญญาให้ปรับเป็นเงิน 600,000 บาท โดยศาลได้กำหนดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวห้ามผู้ต้องหาเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลด้วย

ขณะที่ช่วงบ่าย ภรรยา ลูกสาว และเพื่อนไรเดอร์ เดินทางมาติดต่อรับร่างของนายฤทธิ์ ที่นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดคลองเตยใน ซึ่งทันทีที่ลูกสาวคนรอง และญาติ เห็นร่างนายฤทธิ์ พากันร้องไห้โฮกอดกัน เพราะยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ภรรยาจุดธูป 1 ดอก เรียกดวงวิญญาณสามีให้เดินทางไปที่วัดคลองเตยใน

เวลา 14.00 น. ร่างของนายฤทธิ์ เดินทางถึงวัดคลองเตยใน ภรรยาพยายามจัดท่านอนให้สามี เนื่องจากสามีถูกชนจนร่างผิดรูป รวมถึงยังแกะมือของสามีที่กำหมัดไว้แน่น ระหว่างที่แกะมือภรรยาพูดกับสามีว่า “ไม่ต้องแค้นเขาแล้ว หลับให้สบาย”

ทีมข่าวพูดคุยกับน้องแพทและน้องพั้นช์ ลูกสาวคนรองและคนโตของผู้ตาย เปิดใจทั้งน้ำตาว่า ตนเป็นห่วงเรื่องคดี เพราะอยากให้พ่อได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงมาก ในฐานะคนเป็นลูก รับไม่ได้

ส่วนวันนี้ตอนที่ได้เห็นร่างของพ่อ ตนบอกกับพ่อว่า “ขอให้พ่ออโหสิกรรมให้กับหนู ทุกสิ่งทุกอย่างที่หนูได้ทำผิดพลาดหรือได้ทำไม่ดีกับพ่อ หนูอยากขอโทษพ่อ และสัญญาว่าจะดูแลน้อง พี่สาว และแม่ ขอให้พ่อไม่ต้องเป็นห่วง หลับให้สบาย”

ส่วนคลิปที่เกิดเหตุตนได้ดูแล้วรู้สึกรับไม่ได้ ไม่คิดว่าเขาจะใจร้ายทำกับพ่อรุนแรงขนาดนี้ ตนรู้สึกเสียใจมาก อยากถามเขาว่า “ไม่สงสารพ่อหนูเหรอ พ่อหนูเขามีลูก มีครอบครัวที่ต้องดูแล เป็นเสาหลักของครอบครัว และเขาไม่คิดบ้างเหรอ ถ้าหนูขาดพ่อจะรู้สึกอย่างไร”

เมื่อถามว่าหากคู่กรณีจะมาขอขมาศพพ่อวันนี้ จะยินดีหรือไม่ น้องพั้นช์ บอกว่า “หนูยินดี แต่ถึงแม้ว่าจะมาขอขมาศพ แต่หนูก็ไม่ให้อภัย ไม่อโหสิกรรมให้ ที่สำคัญพ่อเป็นโลกทั้งใบของหนู”

จากนั้น 14.30 น. ภรรยาได้เดินทางไปเชิญดวงวิญญาณสามีที่จุดเกิดเหตุ ถนนสุขุมวิท ระหว่างสุขุมวิทซอย 8 และซอย 10 โดยได้นิมนต์พระสงฆ์ 1 รูป เพื่อทำพิธี พร้อมกับนำรองเท้าและเสื้อผ้าตัวโปรดของสามีไปเป็นสื่อกลางในการเรียกดวงวิญญาณกลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดในคืนนี้ ซึ่งมีพิธีสวดพระอภิธรรมเป็นคืนแรก

นอกจากนี้ที่จุดเกิดเหตุมีกลุ่มเพื่อนไรเดอร์ของผู้ตาย รวมตัวกันจุดเทียน วางดอกไม้ เพื่อไว้อาลัยนายฤทธิ์ พร้อมกับเขียนป้ายข้อความเรียกร้องความเป็นธรรม ระบุว่า “ฆาตกรต้องไม่ลอยนวล The murderer must not go unpunished. #SaveRider” รวมถึงยังได้รวบรวมเงินเพื่อมอบให้ภรรยาของนายฤทธิ์ ช่วยเหลือจัดงานศพ

นายอดิเรก ตัวแทนเพื่อนไรเดอร์ บอกว่า ที่ต้องมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมเพราะเห็นว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนมีเงิน เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ยืนยันว่าผู้ตายไม่ใช่คนใจร้อน เลิกงานเที่ยงคืนก็กลับบ้าน ทำงานหาเงิน เพื่อมาดูแลครอบครัว เพราะเขาเป็นเสาหลัก จึงไม่อยากให้น้องตายฟรี และอยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

พ่อผู้ต้องหาชนไรเดอร์กราบขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต
นายคมสันต์ พ่อของผู้ต้องหา พร้อมภรรยา และทนายความ เดินทางมาขอขมาศพนายฤทธิ์ กราบขอโทษ พ่อและภรรยาของผู้เสียชีวิตทันที ก่อนจะออกมาเปิดใจว่า ลูกชายของตนไม่ได้เจตนา หลังจากศาลให้ประกันตัวออกมา ตนยังไม่ได้เจอหน้าเลย แต่เชื่อว่าอยากจะมาขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งตนได้พูดคุยกับครอบครัวผู้เสียชีวิตในเรื่องการเยียวยาแล้ว และจะเป็นเจ้าภาพในการสวดศพตลอด 3 คืน ก่อนจะเดินทางกลับในทันที

สำหรับงานสวดอภิธรรมศพของนายฤทธิศักดิ์ หรือ ริด จะสวด 3 คืน และจะทำพิธีฌาปนกิจในวันที่ 25 ม.ค.นี้ เวลา 17.00 น. ขณะที่นายรัชพล ศิริสาคร โพสต์เฟซบุ๊ก ยินดีเป็นทนายให้ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกรถชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

ครูสาวเขียนจดหมายระบายความอัดอั้น ก่อนคิดสั้น-ศธ.สั่งสอบข้อเท็จจริง

บุรีรัมย์ 17 มิ.ย. – ครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เขียนจดหมายระบายความอัดอั้น “งานครูหนักและเครียดมากจนทนไม่ไหว” ก่อนตัดสินใจคิดสั้น ด้าน ศธ. สั่งสอบข้อเท็จจริง ยอมรับครูรับภาระหนัก ตำรวจพร้อมกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบร่างของครูมัท วัย 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ โดยครูตัดสินใจลาโลกด้วยตัวเอง ข้างร่างของครูมีจดหมายลาที่เขียนถึง 5 หน้ากระดาษ หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยหน้าที่ 1-4 ผู้ตายเขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่ ส่วนหน้าที่ 5 เขียนถึงการทำงาน ถึงสาเหตุที่ลาโลกใบนี้ เพราะไม่สบายกายและไม่สบายใจ มีปัญหาเรื่องการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งพอกพูนจนแก้ไขได้ยาก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะครูมัทเพียงคนเดียว เกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน ทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง สุดท้ายนิ่งเฉย ไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเองจนหัวจะระเบิด เป็นไมเกรนแทบทุกวัน […]

สาวโพสต์ถูกไฟดูดจากตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดัง

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สาวโพสต์ถูกไฟตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดังดูดมือ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ทำงานไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ชีวิตพัง ห้างโยนภาระให้เดินเอกสารเบิกกับโรงพยาบาลเอง สาวโพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา กำลังขับรถเข้าลานจอดรถห้างฯ แห่งหนึ่ง แล้วลดกระจกเอามือโบกระบบเซ็นเซอร์เพื่อรับบัตรจอด ปรากฏว่าถูกไฟดูดทั้งที่มือไม่ได้แตะโดนเครื่อง เพราะระบบเซ็นเซอร์ไม่ต้องสัมผัสโดน แค่โบกหน้าเครื่อง ตนเองรู้สึกไฟดูด แขนชา จี๊ดขึ้นหัว และชาลงไปถึงขา บัตรก็ไหลออกมาจากเครื่อง แต่ไม้กั้นรถไม่เปิด คาดว่าไฟฟ้าในเครื่องน่าจะขัดข้อง และไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นเลย จะกดปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือที่ตัวเครื่องก็ไม่กล้า เพราะกลัวถูกไฟดูดรอบ 2 จึงพยายามบีบแตรเรียกหลายครั้งกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาหา พอเจ้าหน้าที่มาตนก็บอกว่าถูกไฟดูด แต่เจ้าหน้าที่มาเปิดไม้กั้นให้และไม่พูดอะไรต่อ เลยรีบเอารถเข้าไปในลานจอด จากนั้นรีบเดินไปที่จุดบริการลูกค้า เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นชาไปครึ่งตัว เจ้าหน้าที่พาไปห้องพยาบาล เอาเจลเย็นมาประคบอยู่นานก็ไม่รู้สึกดีขึ้น แขนเริ่มไม่มีแรงยก เจ้าหน้าที่เห็นอาการหนักเลยพาไปโรงพยาบาลที่มีสัญญากับห้าง หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตรวจเลือดแล้วค่าปกติดี หมอสั่งยาและให้กลับบ้าน ทั้งที่ยังไม่หายชา ถึงขนาดแขนไม่มีแรงแม้แต่จะเซ็นเอกสาร หมอบอกว่าคุณไม่เคยข้อศอกกระแทกโต๊ะเหรอ ชาๆ เหมือนกัน เดี๋ยวก็หายเอง ตนเองจึงตั้งคำถามว่าจะหายเองจริงเหรอ เพราะยังทำอะไรไม่ได้เลย ตอนกลางคืนลองยกแขนนิ้วยังสั่นอยู่เลย กินยาคลายกล้ามเนื้อก็ไม่มีอะไรดีขึ้น […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 40% ส่วนมากช่วงบ่ายถึงค่ำ

กรุงเทพฯ 18 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

สยองหนุ่มลำปางเสียชีวิตบนรถทัวร์ พบติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อ

ลำปาง 17 มิ.ย.- จากเหตุหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิตในรถทัวร์จากโคราชกลับบ้านที่ลำปางโดยที่เพื่อนร่วมทางไม่รู้ ผลชันสูตรพบติดเชื้อในกระแสเลือดจากโรคแบคทีเรียกินเนื้อ ที่เคยระบาดในญี่ปุ่น ซึ่งญาติยืนยันผู้ตายไม่มีโรคประจำตัว แต่เคยเป็นงูสวัดจนลามไปที่หูและพบอาการขาบวมไม่ถึง 2 สัปดาห์ก่อนเสียชีวิต ขณะที่แพทย์ระบุหากเกิดแผลมีโอกาสรับเชื้อแบคทีเรียจนเนื้อเน่าได้โดยเฉพาะกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ .-สำนักข่าวไทย

วันแรกห้ามคนไทยไปทำงาน “กาสิโน-สถานบันเทิง” ปอยเปต

กัมพูชา 17 มิ.ย. – ติดตามบรรยากาศวันแรกของการยกระดับมาตรการคุมเข้มการเดินทางข้ามไปที่กาสิโนฝั่งกัมพูชา ที่ด่านคลองลึก จ.สระแก้ว ด่านที่มีมูลค่าการค้าสูงสุดระหว่างไทยและกัมพูชา สำหรับวันแรกของมาตรการยกระดับตามคำสั่งกองกำลังบูรพาที่ห้ามไม่ให้คนไทยข้ามไปบ่อนและคาสิโนฝั่งกัมพูชาทั้งคนที่จะข้ามไปทำงานและเล่นการพนัน ในช่วงเช้าก่อนที่จะทราบมาตรการ พบมีคนไทยจำนวนมากนั่งต่อแถวยาวเหยียดตั้งแต่หน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองยาวไปจนถึงตลาดโรงเกลือระยะทาง 2 กิโลเมตร แต่เมื่อมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงมาตรการที่มีการยกระดับและให้คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินปรากฏว่าคนไทยที่นั่งต่อแถวได้แยกย้ายไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้หลังการยกระดับคำสั่งของกองกำลังบูรพาพบว่าจากเดิมที่มีคนไทยข้ามไปฝั่งปอยเปตเฉลี่ยวันละ 4,000-5,000 คน วันนี้ปรากฏว่าเป็นคนไทยเดินทางข้ามไปเป็นความบังเอิญที่ตัวเลขทั้งข้ามไปโดย Flowing Pass หรือบัตรผ่านแดนชั่วคราวและข้ามไปโดยพาสปอร์ตมีตัวเลขตรงกันคือมีข้ามไปเพียงอย่างละ 196 คนเท่านั้น โดยมีรายงานว่าสำหรับคนที่ไม่ได้ข้ามไป ถ้าเป็นคนในพื้นที่ที่เคยข้ามไปทำงาน บางส่วนก็กลับไปที่บ้านพัก แต่สำหรับคนไทยที่ต้องการเดินทางข้ามไปกาสิโนฝั่งกัมพูชา บางส่วนก็เดินทางกลับต้นทาง แต่บางส่วนที่หวังว่า อาจมีการผ่อนคลายมาตรการ ก็เปิดรีสอร์ตหรือห้องพักต่างๆ ใกล้เคียงด่านเป็นที่พำนัก ทำให้ขณะนี้รีสอร์ตและโรงแรมต่างๆ ในอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว มีผู้เข้าพักเต็มในหลายที่ด้วยกัน พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว เปิดเผยว่าได้รับคำสั่งจากกองกำลังบูรพาตั้งแต่ค่ำวานนี้และถือปฏิบัติตั้งแต่เวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา ดังนั้นประชาสัมพันธ์ถึงคนไทยที่อยู่ในฝั่งปอยเปตให้รีบเดินทางกลับมายังฝั่งไทยส่วนคนไทยที่จะเดินทางข้ามไปอย่างกัมพูชาหากไม่จำเป็นขอให้งดการเดินทาง ทั้งนี้สำหรับการรองรับหลังมีการควบคุมบริเวณด่านพรมแดนไม่ข้ามไปยังบ่อนกาสิโนฝั่งกัมพูชา พบว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะตำรวจตระเวนชายแดนและทหารพรานคุมเข้มตั้งแต่ต้นน้ำ และมีรายงานว่ามีการวางกำลังตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาในเขตจังหวัดสระแก้วเช่น เพื่อป้องกันการลักลอบใช้ช่องทางธรรมชาติเพื่อเข้าไปยังประเทศกัมพูชา.-สำนักข่าวไทย

บอร์ดค่าจ้างเคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท กทม.-บางกิจการ ตจว.

กทม. 17 มิ.ย.-แรงงานเฮ! ก.แรงงาน ขับเคลื่อนสำเร็จ “ปลัดบุญสงค์” เผยบอร์ดค่าจ้างเคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท พื้นที่กรุงเทพฯ และบางกิจการในต่างจังหวัด เริ่ม 1 ก.ค.นี้ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง (ไตรภาคี) ชุดที่ 22 ครั้งที่ 6/2568 มีมติเห็นชอบให้ปรับขึ้น ค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท ในหลายพื้นที่และกลุ่มกิจการทั่วประเทศ โดยถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการยกระดับรายได้ให้กับแรงงานไทย ตามแนวทางนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ ที่มุ่งให้แรงงานไทยมีค่าจ้างที่เป็นธรรม และสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน มติของที่ประชุมในวันนี้ ซึ่งประกอบด้วยกรรมการจากฝ่ายนายจ้าง ฝ่ายลูกจ้าง และฝ่ายรัฐบาล รวม 15 คน มีเสียงเห็นชอบ 2 ใน 3 โดยกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ ดังนี้•พื้นที่กรุงเทพมหานคร ปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวัน ทั่วพื้นที่•ต่างจังหวัด ปรับค่าแรง 400 บาท […]