ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

กรุงเทพฯ 22 ม.ค. – ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ


ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นที่มาของเหตุการณ์ที่นายเสรี หนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อน ขับรถเฉี่ยวชนกับนายฤทธิศักดิ์ ไรเดอร์ แล้วถูกนายฤทธิศักดิ์ขี่รถตามไปดักหน้า หวังให้ชดใช้ ทำให้นายเสรีโมโห ทำร้ายร่างกายนายฤทธิศักดิ์ ก่อนขับรถชนพุ่งชนจนร่างของนายฤทธิศักดิ์ถูกอัดกับเสาไฟจนเสียชีวิตคาที่ ขณะที่นายเสรีพยายามขับรถหนีไปจนมุมที่แยกนานา เหตุสลดในครั้งนี้นอกจากวงจรปิดยังมีคลิปจากพลเมืองดีที่บันทึกเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน เพราะเกิดขึ้นบริเวณถนนสุขุมวิท ใกล้แยกอโศก ซึ่งมีคนพลุกพล่าน

หนุ่มอินเดียหัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ยังอ้างเป็นอุบัติเหตุ
ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ตำรวจพยายามเค้นสอบปากคำผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่มีเจตนาฆ่าผู้ตาย มันเป็นอุบัติเหตุ โดยจังหวะที่ตำรวจคุมตัวออกมาจากห้องสอบ ผู้ต้องหาไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ต้องหาปฏิเสธ แต่ตำรวจยืนยันหลักฐานชัด แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น”


ญาติเยี่ยมหนุ่มอินเดีย-พ่อไหว้สื่อ “อย่ามายุ่งครอบครัว”
ขณะที่พ่อและญาติของผู้ต้องหา รวม 7 คน เดินทางมาเยี่ยมผู้ต้องหาที่ สน.ลุมพินี ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อ โดยเฉพาะพ่อของนายเสรี ผู้ต้องหา ยกมือไหว้ร้องขอว่าอย่ามายุ่งกับครอบครัว ก่อนที่ทั้งหมดจะหลบสื่อเข้าไปในห้องพนักงานสอบสวน

จากนั้นผู้ต้องหาถูกคุมตัวออกจากโรงพักไปขึ้นรถ เพื่อส่งศาลฝากขัง โดยผู้ต้องหาไม่พูดอะไรเลย มีสีหน้าเรียบเฉยและนั่งนิ่ง

ภรรยาลั่นผู้ต้องหาต้องรับผิดชอบ เยียวยาลูก 4 คน ต้องเสียพ่อ
ด้านนางสาวสายใจ ภรรยาผู้ตาย ซึ่งมา สน.ลุมพินี เพื่อรับเอกสารจากพนักงานสอบสวนนำไปประกอบการรับศพสามีออกจากนิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ยอมรับยังโศกเศร้าเสียใจ อยากให้ผู้ต้องหาได้รับโทษ และมารับผิดชอบกับการสูญเสียในครั้งนี้ เพราะลูก 4 คน ต้องมาสูญเสียพ่อที่เป็นเสาหลักของครอบครัวไป


แจ้ง 2 ข้อหา หนุ่มอินเดียหัวร้อน-ตรวจประวัติไม่ป่วยจิต
พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาจริง และไม่ยอมให้การใดๆ ในชั้นพนักงานสอบสวน อ้างว่าจะขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น และการฝากขังวันนี้พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง ส่วนการสอบพฤติกรรมผู้ต้องหาพบว่ามีอารมณ์ค่อนข้างร้ายและรุนแรง รวมถึงมีท่าทีนิ่งเฉยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งที่การตรวจประวัติการรักษาอาการป่วยทางจิต สารเสพติด และปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ไม่พบข้อบ่งชี้ที่จะนำไปสู่การมีพฤติกรรมในลักษณะนี้

ล่าสุดศาลอาญากรุงเทพใต้ พิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา พร้อมให้ติดกำไล EM โดยให้ทำสัญญาประกัน หากผิดสัญญาให้ปรับเป็นเงิน 600,000 บาท โดยศาลได้กำหนดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวห้ามผู้ต้องหาเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลด้วย

ขณะที่ช่วงบ่าย ภรรยา ลูกสาว และเพื่อนไรเดอร์ เดินทางมาติดต่อรับร่างของนายฤทธิ์ ที่นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดคลองเตยใน ซึ่งทันทีที่ลูกสาวคนรอง และญาติ เห็นร่างนายฤทธิ์ พากันร้องไห้โฮกอดกัน เพราะยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ภรรยาจุดธูป 1 ดอก เรียกดวงวิญญาณสามีให้เดินทางไปที่วัดคลองเตยใน

เวลา 14.00 น. ร่างของนายฤทธิ์ เดินทางถึงวัดคลองเตยใน ภรรยาพยายามจัดท่านอนให้สามี เนื่องจากสามีถูกชนจนร่างผิดรูป รวมถึงยังแกะมือของสามีที่กำหมัดไว้แน่น ระหว่างที่แกะมือภรรยาพูดกับสามีว่า “ไม่ต้องแค้นเขาแล้ว หลับให้สบาย”

ทีมข่าวพูดคุยกับน้องแพทและน้องพั้นช์ ลูกสาวคนรองและคนโตของผู้ตาย เปิดใจทั้งน้ำตาว่า ตนเป็นห่วงเรื่องคดี เพราะอยากให้พ่อได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงมาก ในฐานะคนเป็นลูก รับไม่ได้

ส่วนวันนี้ตอนที่ได้เห็นร่างของพ่อ ตนบอกกับพ่อว่า “ขอให้พ่ออโหสิกรรมให้กับหนู ทุกสิ่งทุกอย่างที่หนูได้ทำผิดพลาดหรือได้ทำไม่ดีกับพ่อ หนูอยากขอโทษพ่อ และสัญญาว่าจะดูแลน้อง พี่สาว และแม่ ขอให้พ่อไม่ต้องเป็นห่วง หลับให้สบาย”

ส่วนคลิปที่เกิดเหตุตนได้ดูแล้วรู้สึกรับไม่ได้ ไม่คิดว่าเขาจะใจร้ายทำกับพ่อรุนแรงขนาดนี้ ตนรู้สึกเสียใจมาก อยากถามเขาว่า “ไม่สงสารพ่อหนูเหรอ พ่อหนูเขามีลูก มีครอบครัวที่ต้องดูแล เป็นเสาหลักของครอบครัว และเขาไม่คิดบ้างเหรอ ถ้าหนูขาดพ่อจะรู้สึกอย่างไร”

เมื่อถามว่าหากคู่กรณีจะมาขอขมาศพพ่อวันนี้ จะยินดีหรือไม่ น้องพั้นช์ บอกว่า “หนูยินดี แต่ถึงแม้ว่าจะมาขอขมาศพ แต่หนูก็ไม่ให้อภัย ไม่อโหสิกรรมให้ ที่สำคัญพ่อเป็นโลกทั้งใบของหนู”

จากนั้น 14.30 น. ภรรยาได้เดินทางไปเชิญดวงวิญญาณสามีที่จุดเกิดเหตุ ถนนสุขุมวิท ระหว่างสุขุมวิทซอย 8 และซอย 10 โดยได้นิมนต์พระสงฆ์ 1 รูป เพื่อทำพิธี พร้อมกับนำรองเท้าและเสื้อผ้าตัวโปรดของสามีไปเป็นสื่อกลางในการเรียกดวงวิญญาณกลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดในคืนนี้ ซึ่งมีพิธีสวดพระอภิธรรมเป็นคืนแรก

นอกจากนี้ที่จุดเกิดเหตุมีกลุ่มเพื่อนไรเดอร์ของผู้ตาย รวมตัวกันจุดเทียน วางดอกไม้ เพื่อไว้อาลัยนายฤทธิ์ พร้อมกับเขียนป้ายข้อความเรียกร้องความเป็นธรรม ระบุว่า “ฆาตกรต้องไม่ลอยนวล The murderer must not go unpunished. #SaveRider” รวมถึงยังได้รวบรวมเงินเพื่อมอบให้ภรรยาของนายฤทธิ์ ช่วยเหลือจัดงานศพ

นายอดิเรก ตัวแทนเพื่อนไรเดอร์ บอกว่า ที่ต้องมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมเพราะเห็นว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนมีเงิน เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ยืนยันว่าผู้ตายไม่ใช่คนใจร้อน เลิกงานเที่ยงคืนก็กลับบ้าน ทำงานหาเงิน เพื่อมาดูแลครอบครัว เพราะเขาเป็นเสาหลัก จึงไม่อยากให้น้องตายฟรี และอยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

พ่อผู้ต้องหาชนไรเดอร์กราบขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต
นายคมสันต์ พ่อของผู้ต้องหา พร้อมภรรยา และทนายความ เดินทางมาขอขมาศพนายฤทธิ์ กราบขอโทษ พ่อและภรรยาของผู้เสียชีวิตทันที ก่อนจะออกมาเปิดใจว่า ลูกชายของตนไม่ได้เจตนา หลังจากศาลให้ประกันตัวออกมา ตนยังไม่ได้เจอหน้าเลย แต่เชื่อว่าอยากจะมาขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งตนได้พูดคุยกับครอบครัวผู้เสียชีวิตในเรื่องการเยียวยาแล้ว และจะเป็นเจ้าภาพในการสวดศพตลอด 3 คืน ก่อนจะเดินทางกลับในทันที

สำหรับงานสวดอภิธรรมศพของนายฤทธิศักดิ์ หรือ ริด จะสวด 3 คืน และจะทำพิธีฌาปนกิจในวันที่ 25 ม.ค.นี้ เวลา 17.00 น. ขณะที่นายรัชพล ศิริสาคร โพสต์เฟซบุ๊ก ยินดีเป็นทนายให้ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกรถชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ขอโทษทำเข้าใจคลาดเคลื่อน ปมเอกสารสิทธิ์ที่ดินบ้านหนองจาน

สระแก้ว 24 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว ขอโทษที่ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน กรณีเอกสารสิทธิ์ที่ดินบ้านหนองจาน ยืนยันพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในราชอาณาจักรไทย ให้ประชาชนผู้มีหลักฐานยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินได้ วันที่ 23 ส.ค.68 เพจ สวท.สระแก้ว เผยแพร่สารจากผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ชี้แจงกรณีเอกสารสิทธิ์ชาวบ้านหนองจาน อ.โคกสูง ระบุว่า ผมกราบขอโทษพี่น้องประชาชนทุกท่าน ที่ทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกรณีพื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง ทั้งนี้ ผมขอยืนยันว่า พื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง อยู่ในราชอาณาจักรไทย ประชาชนผู้มีหลักฐานแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) ใบจอง (ส.ค.2) และหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) บริเวณบ้านหนองจาน และบริเวณหลักเขตแดนที่ 45-49 สามารถยื่นคำขอออกโฉนดที่ดิน ต่อเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดสระแก้ว สาขาอรัญประเทศได้ โดยเจ้าหน้าที่จะดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชนที่มีสิทธิทุกราย ภายใต้อำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด.-สำนักข่าวไทย

พายุ “คาจิกิ” แนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น เตือน 24-27 ส.ค. ฝนหนักหลายพื้นที่

กทม. 24 ส.ค.-กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 7 พายุ “คาจิกิ” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น เตือน 24-27 ส.ค.68 ไทยฝนเพิ่มมากขึ้น ตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่กับมีลมแรง บริเวณอีสานตอนบน ภาคเหนือ กลาง ตะวันออก และใต้ฝั่งตะวันตก รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 7 เรื่อง พายุ “คาจิกิ” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (24 ส.ค. 68) พายุโซนร้อนกำลังแรง “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 570 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของเมืองดองฮอย ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 17.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.0 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 112 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น […]

กู้ซากคานสะพานลอยคนข้ามพังถล่ม เปิดการจราจรแล้ว

23 ส.ค. – เจ้าหน้าที่เร่งหาสาเหตุคานสะพานลอยคนข้ามขนาดใหญ่ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท พังถล่มลงมากีดขวางถนน สาย 317 จันทบุรี–สระแก้ว ล่าสุดกู้ซากคานสะพานลอย ออกจากถนน และเปิดการจราจรได้ตามปกติแล้ว เหตุคานสะพานลอยถล่ม บริเวณพื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา เหตุดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบ สภาพการจราจรติดขัด ตลอดช่วงสายและบ่าย เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้ พยายามเร่งกู้ซากสะพานลอย ประสาน นำเครื่องจักรกลหนักทั้ง รถแบ็กโฮ 3 คัน รถแบ็กโฮหัวขุดเจาะ 2 คันและรถเครนใหญ่อีก 1 คัน ระดมลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยบริษัทผู้รับเหมา ต้องใช้รถหัวขุดเจาะ 2 คัน ทำการขุดเจาะกระแทกแผ่นคอนกรีตให้แตก จนเหลือแต่เส้นเหล็กจากนั้นได้ใช้ชุดเชื่อมทำการใช้ไฟแก๊สตัดเหล็ก แยกชิ้นส่วนของคานคอนกรีตออก […]

ตามล่านักโทษชายหลบหนีเรือนจำนนทบุรี

นนทบุรี 23 ส.ค. – นักโทษเรือนจำนนทบุรีหลบหนี ขณะออกมาทำงานนอกเรือนจำ เจ้าหน้าที่พบชุดนักโทษ ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม กล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ ช่วงบ่ายวันนี้ หลังตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับเเจ้งว่ามีนักโทษชายหลบหนีจากร้านหับเผย อ.เมือง จ.นนทบุรี ตรวจสอบเบื้องต้นทราบชื่อ นช.อนุชิต อายุ 29 ปี เป็นผู้ต้องขังกองนอกประจำร้านหับเผย ของเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ชุดที่หลบหนีสวมชุดสีส้มของเรือนจำ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเรมเบสต้า สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร หลบหนี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบชุดที่นักโทษสวมใส่ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม สำหรับ นช.อนุชิต สุขสด ถูกตำรวจ สภ.บางบัวทอง จับกุมเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ข้อหาพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำผิด หลังจับกุม สภ.บางบัวทอง นำตัวส่งเรือนจำกลางจังหวัดนนทบุรี วันที่ 27 ธันวาคม 2567 ศาลตัดสินโทษจำคุก 1 ปี โดยจะพ้นโทษในวันที่ในวันที่ […]