ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

กรุงเทพฯ 22 ม.ค. – ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ


ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นที่มาของเหตุการณ์ที่นายเสรี หนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อน ขับรถเฉี่ยวชนกับนายฤทธิศักดิ์ ไรเดอร์ แล้วถูกนายฤทธิศักดิ์ขี่รถตามไปดักหน้า หวังให้ชดใช้ ทำให้นายเสรีโมโห ทำร้ายร่างกายนายฤทธิศักดิ์ ก่อนขับรถชนพุ่งชนจนร่างของนายฤทธิศักดิ์ถูกอัดกับเสาไฟจนเสียชีวิตคาที่ ขณะที่นายเสรีพยายามขับรถหนีไปจนมุมที่แยกนานา เหตุสลดในครั้งนี้นอกจากวงจรปิดยังมีคลิปจากพลเมืองดีที่บันทึกเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน เพราะเกิดขึ้นบริเวณถนนสุขุมวิท ใกล้แยกอโศก ซึ่งมีคนพลุกพล่าน

หนุ่มอินเดียหัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ยังอ้างเป็นอุบัติเหตุ
ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ตำรวจพยายามเค้นสอบปากคำผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่มีเจตนาฆ่าผู้ตาย มันเป็นอุบัติเหตุ โดยจังหวะที่ตำรวจคุมตัวออกมาจากห้องสอบ ผู้ต้องหาไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ต้องหาปฏิเสธ แต่ตำรวจยืนยันหลักฐานชัด แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น”


ญาติเยี่ยมหนุ่มอินเดีย-พ่อไหว้สื่อ “อย่ามายุ่งครอบครัว”
ขณะที่พ่อและญาติของผู้ต้องหา รวม 7 คน เดินทางมาเยี่ยมผู้ต้องหาที่ สน.ลุมพินี ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อ โดยเฉพาะพ่อของนายเสรี ผู้ต้องหา ยกมือไหว้ร้องขอว่าอย่ามายุ่งกับครอบครัว ก่อนที่ทั้งหมดจะหลบสื่อเข้าไปในห้องพนักงานสอบสวน

จากนั้นผู้ต้องหาถูกคุมตัวออกจากโรงพักไปขึ้นรถ เพื่อส่งศาลฝากขัง โดยผู้ต้องหาไม่พูดอะไรเลย มีสีหน้าเรียบเฉยและนั่งนิ่ง

ภรรยาลั่นผู้ต้องหาต้องรับผิดชอบ เยียวยาลูก 4 คน ต้องเสียพ่อ
ด้านนางสาวสายใจ ภรรยาผู้ตาย ซึ่งมา สน.ลุมพินี เพื่อรับเอกสารจากพนักงานสอบสวนนำไปประกอบการรับศพสามีออกจากนิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ยอมรับยังโศกเศร้าเสียใจ อยากให้ผู้ต้องหาได้รับโทษ และมารับผิดชอบกับการสูญเสียในครั้งนี้ เพราะลูก 4 คน ต้องมาสูญเสียพ่อที่เป็นเสาหลักของครอบครัวไป


แจ้ง 2 ข้อหา หนุ่มอินเดียหัวร้อน-ตรวจประวัติไม่ป่วยจิต
พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาจริง และไม่ยอมให้การใดๆ ในชั้นพนักงานสอบสวน อ้างว่าจะขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น และการฝากขังวันนี้พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง ส่วนการสอบพฤติกรรมผู้ต้องหาพบว่ามีอารมณ์ค่อนข้างร้ายและรุนแรง รวมถึงมีท่าทีนิ่งเฉยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งที่การตรวจประวัติการรักษาอาการป่วยทางจิต สารเสพติด และปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ไม่พบข้อบ่งชี้ที่จะนำไปสู่การมีพฤติกรรมในลักษณะนี้

ล่าสุดศาลอาญากรุงเทพใต้ พิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา พร้อมให้ติดกำไล EM โดยให้ทำสัญญาประกัน หากผิดสัญญาให้ปรับเป็นเงิน 600,000 บาท โดยศาลได้กำหนดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวห้ามผู้ต้องหาเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลด้วย

ขณะที่ช่วงบ่าย ภรรยา ลูกสาว และเพื่อนไรเดอร์ เดินทางมาติดต่อรับร่างของนายฤทธิ์ ที่นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดคลองเตยใน ซึ่งทันทีที่ลูกสาวคนรอง และญาติ เห็นร่างนายฤทธิ์ พากันร้องไห้โฮกอดกัน เพราะยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ภรรยาจุดธูป 1 ดอก เรียกดวงวิญญาณสามีให้เดินทางไปที่วัดคลองเตยใน

เวลา 14.00 น. ร่างของนายฤทธิ์ เดินทางถึงวัดคลองเตยใน ภรรยาพยายามจัดท่านอนให้สามี เนื่องจากสามีถูกชนจนร่างผิดรูป รวมถึงยังแกะมือของสามีที่กำหมัดไว้แน่น ระหว่างที่แกะมือภรรยาพูดกับสามีว่า “ไม่ต้องแค้นเขาแล้ว หลับให้สบาย”

ทีมข่าวพูดคุยกับน้องแพทและน้องพั้นช์ ลูกสาวคนรองและคนโตของผู้ตาย เปิดใจทั้งน้ำตาว่า ตนเป็นห่วงเรื่องคดี เพราะอยากให้พ่อได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงมาก ในฐานะคนเป็นลูก รับไม่ได้

ส่วนวันนี้ตอนที่ได้เห็นร่างของพ่อ ตนบอกกับพ่อว่า “ขอให้พ่ออโหสิกรรมให้กับหนู ทุกสิ่งทุกอย่างที่หนูได้ทำผิดพลาดหรือได้ทำไม่ดีกับพ่อ หนูอยากขอโทษพ่อ และสัญญาว่าจะดูแลน้อง พี่สาว และแม่ ขอให้พ่อไม่ต้องเป็นห่วง หลับให้สบาย”

ส่วนคลิปที่เกิดเหตุตนได้ดูแล้วรู้สึกรับไม่ได้ ไม่คิดว่าเขาจะใจร้ายทำกับพ่อรุนแรงขนาดนี้ ตนรู้สึกเสียใจมาก อยากถามเขาว่า “ไม่สงสารพ่อหนูเหรอ พ่อหนูเขามีลูก มีครอบครัวที่ต้องดูแล เป็นเสาหลักของครอบครัว และเขาไม่คิดบ้างเหรอ ถ้าหนูขาดพ่อจะรู้สึกอย่างไร”

เมื่อถามว่าหากคู่กรณีจะมาขอขมาศพพ่อวันนี้ จะยินดีหรือไม่ น้องพั้นช์ บอกว่า “หนูยินดี แต่ถึงแม้ว่าจะมาขอขมาศพ แต่หนูก็ไม่ให้อภัย ไม่อโหสิกรรมให้ ที่สำคัญพ่อเป็นโลกทั้งใบของหนู”

จากนั้น 14.30 น. ภรรยาได้เดินทางไปเชิญดวงวิญญาณสามีที่จุดเกิดเหตุ ถนนสุขุมวิท ระหว่างสุขุมวิทซอย 8 และซอย 10 โดยได้นิมนต์พระสงฆ์ 1 รูป เพื่อทำพิธี พร้อมกับนำรองเท้าและเสื้อผ้าตัวโปรดของสามีไปเป็นสื่อกลางในการเรียกดวงวิญญาณกลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดในคืนนี้ ซึ่งมีพิธีสวดพระอภิธรรมเป็นคืนแรก

นอกจากนี้ที่จุดเกิดเหตุมีกลุ่มเพื่อนไรเดอร์ของผู้ตาย รวมตัวกันจุดเทียน วางดอกไม้ เพื่อไว้อาลัยนายฤทธิ์ พร้อมกับเขียนป้ายข้อความเรียกร้องความเป็นธรรม ระบุว่า “ฆาตกรต้องไม่ลอยนวล The murderer must not go unpunished. #SaveRider” รวมถึงยังได้รวบรวมเงินเพื่อมอบให้ภรรยาของนายฤทธิ์ ช่วยเหลือจัดงานศพ

นายอดิเรก ตัวแทนเพื่อนไรเดอร์ บอกว่า ที่ต้องมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมเพราะเห็นว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนมีเงิน เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ยืนยันว่าผู้ตายไม่ใช่คนใจร้อน เลิกงานเที่ยงคืนก็กลับบ้าน ทำงานหาเงิน เพื่อมาดูแลครอบครัว เพราะเขาเป็นเสาหลัก จึงไม่อยากให้น้องตายฟรี และอยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

พ่อผู้ต้องหาชนไรเดอร์กราบขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต
นายคมสันต์ พ่อของผู้ต้องหา พร้อมภรรยา และทนายความ เดินทางมาขอขมาศพนายฤทธิ์ กราบขอโทษ พ่อและภรรยาของผู้เสียชีวิตทันที ก่อนจะออกมาเปิดใจว่า ลูกชายของตนไม่ได้เจตนา หลังจากศาลให้ประกันตัวออกมา ตนยังไม่ได้เจอหน้าเลย แต่เชื่อว่าอยากจะมาขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งตนได้พูดคุยกับครอบครัวผู้เสียชีวิตในเรื่องการเยียวยาแล้ว และจะเป็นเจ้าภาพในการสวดศพตลอด 3 คืน ก่อนจะเดินทางกลับในทันที

สำหรับงานสวดอภิธรรมศพของนายฤทธิศักดิ์ หรือ ริด จะสวด 3 คืน และจะทำพิธีฌาปนกิจในวันที่ 25 ม.ค.นี้ เวลา 17.00 น. ขณะที่นายรัชพล ศิริสาคร โพสต์เฟซบุ๊ก ยินดีเป็นทนายให้ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกรถชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]