ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

กรุงเทพฯ 22 ม.ค. – ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ


ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นที่มาของเหตุการณ์ที่นายเสรี หนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อน ขับรถเฉี่ยวชนกับนายฤทธิศักดิ์ ไรเดอร์ แล้วถูกนายฤทธิศักดิ์ขี่รถตามไปดักหน้า หวังให้ชดใช้ ทำให้นายเสรีโมโห ทำร้ายร่างกายนายฤทธิศักดิ์ ก่อนขับรถชนพุ่งชนจนร่างของนายฤทธิศักดิ์ถูกอัดกับเสาไฟจนเสียชีวิตคาที่ ขณะที่นายเสรีพยายามขับรถหนีไปจนมุมที่แยกนานา เหตุสลดในครั้งนี้นอกจากวงจรปิดยังมีคลิปจากพลเมืองดีที่บันทึกเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน เพราะเกิดขึ้นบริเวณถนนสุขุมวิท ใกล้แยกอโศก ซึ่งมีคนพลุกพล่าน

หนุ่มอินเดียหัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ยังอ้างเป็นอุบัติเหตุ
ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ตำรวจพยายามเค้นสอบปากคำผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่มีเจตนาฆ่าผู้ตาย มันเป็นอุบัติเหตุ โดยจังหวะที่ตำรวจคุมตัวออกมาจากห้องสอบ ผู้ต้องหาไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ต้องหาปฏิเสธ แต่ตำรวจยืนยันหลักฐานชัด แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น”


ญาติเยี่ยมหนุ่มอินเดีย-พ่อไหว้สื่อ “อย่ามายุ่งครอบครัว”
ขณะที่พ่อและญาติของผู้ต้องหา รวม 7 คน เดินทางมาเยี่ยมผู้ต้องหาที่ สน.ลุมพินี ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อ โดยเฉพาะพ่อของนายเสรี ผู้ต้องหา ยกมือไหว้ร้องขอว่าอย่ามายุ่งกับครอบครัว ก่อนที่ทั้งหมดจะหลบสื่อเข้าไปในห้องพนักงานสอบสวน

จากนั้นผู้ต้องหาถูกคุมตัวออกจากโรงพักไปขึ้นรถ เพื่อส่งศาลฝากขัง โดยผู้ต้องหาไม่พูดอะไรเลย มีสีหน้าเรียบเฉยและนั่งนิ่ง

ภรรยาลั่นผู้ต้องหาต้องรับผิดชอบ เยียวยาลูก 4 คน ต้องเสียพ่อ
ด้านนางสาวสายใจ ภรรยาผู้ตาย ซึ่งมา สน.ลุมพินี เพื่อรับเอกสารจากพนักงานสอบสวนนำไปประกอบการรับศพสามีออกจากนิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ยอมรับยังโศกเศร้าเสียใจ อยากให้ผู้ต้องหาได้รับโทษ และมารับผิดชอบกับการสูญเสียในครั้งนี้ เพราะลูก 4 คน ต้องมาสูญเสียพ่อที่เป็นเสาหลักของครอบครัวไป


แจ้ง 2 ข้อหา หนุ่มอินเดียหัวร้อน-ตรวจประวัติไม่ป่วยจิต
พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาจริง และไม่ยอมให้การใดๆ ในชั้นพนักงานสอบสวน อ้างว่าจะขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น และการฝากขังวันนี้พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง ส่วนการสอบพฤติกรรมผู้ต้องหาพบว่ามีอารมณ์ค่อนข้างร้ายและรุนแรง รวมถึงมีท่าทีนิ่งเฉยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งที่การตรวจประวัติการรักษาอาการป่วยทางจิต สารเสพติด และปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ไม่พบข้อบ่งชี้ที่จะนำไปสู่การมีพฤติกรรมในลักษณะนี้

ล่าสุดศาลอาญากรุงเทพใต้ พิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา พร้อมให้ติดกำไล EM โดยให้ทำสัญญาประกัน หากผิดสัญญาให้ปรับเป็นเงิน 600,000 บาท โดยศาลได้กำหนดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวห้ามผู้ต้องหาเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลด้วย

ขณะที่ช่วงบ่าย ภรรยา ลูกสาว และเพื่อนไรเดอร์ เดินทางมาติดต่อรับร่างของนายฤทธิ์ ที่นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดคลองเตยใน ซึ่งทันทีที่ลูกสาวคนรอง และญาติ เห็นร่างนายฤทธิ์ พากันร้องไห้โฮกอดกัน เพราะยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ภรรยาจุดธูป 1 ดอก เรียกดวงวิญญาณสามีให้เดินทางไปที่วัดคลองเตยใน

เวลา 14.00 น. ร่างของนายฤทธิ์ เดินทางถึงวัดคลองเตยใน ภรรยาพยายามจัดท่านอนให้สามี เนื่องจากสามีถูกชนจนร่างผิดรูป รวมถึงยังแกะมือของสามีที่กำหมัดไว้แน่น ระหว่างที่แกะมือภรรยาพูดกับสามีว่า “ไม่ต้องแค้นเขาแล้ว หลับให้สบาย”

ทีมข่าวพูดคุยกับน้องแพทและน้องพั้นช์ ลูกสาวคนรองและคนโตของผู้ตาย เปิดใจทั้งน้ำตาว่า ตนเป็นห่วงเรื่องคดี เพราะอยากให้พ่อได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงมาก ในฐานะคนเป็นลูก รับไม่ได้

ส่วนวันนี้ตอนที่ได้เห็นร่างของพ่อ ตนบอกกับพ่อว่า “ขอให้พ่ออโหสิกรรมให้กับหนู ทุกสิ่งทุกอย่างที่หนูได้ทำผิดพลาดหรือได้ทำไม่ดีกับพ่อ หนูอยากขอโทษพ่อ และสัญญาว่าจะดูแลน้อง พี่สาว และแม่ ขอให้พ่อไม่ต้องเป็นห่วง หลับให้สบาย”

ส่วนคลิปที่เกิดเหตุตนได้ดูแล้วรู้สึกรับไม่ได้ ไม่คิดว่าเขาจะใจร้ายทำกับพ่อรุนแรงขนาดนี้ ตนรู้สึกเสียใจมาก อยากถามเขาว่า “ไม่สงสารพ่อหนูเหรอ พ่อหนูเขามีลูก มีครอบครัวที่ต้องดูแล เป็นเสาหลักของครอบครัว และเขาไม่คิดบ้างเหรอ ถ้าหนูขาดพ่อจะรู้สึกอย่างไร”

เมื่อถามว่าหากคู่กรณีจะมาขอขมาศพพ่อวันนี้ จะยินดีหรือไม่ น้องพั้นช์ บอกว่า “หนูยินดี แต่ถึงแม้ว่าจะมาขอขมาศพ แต่หนูก็ไม่ให้อภัย ไม่อโหสิกรรมให้ ที่สำคัญพ่อเป็นโลกทั้งใบของหนู”

จากนั้น 14.30 น. ภรรยาได้เดินทางไปเชิญดวงวิญญาณสามีที่จุดเกิดเหตุ ถนนสุขุมวิท ระหว่างสุขุมวิทซอย 8 และซอย 10 โดยได้นิมนต์พระสงฆ์ 1 รูป เพื่อทำพิธี พร้อมกับนำรองเท้าและเสื้อผ้าตัวโปรดของสามีไปเป็นสื่อกลางในการเรียกดวงวิญญาณกลับมาบำเพ็ญกุศลที่วัดในคืนนี้ ซึ่งมีพิธีสวดพระอภิธรรมเป็นคืนแรก

นอกจากนี้ที่จุดเกิดเหตุมีกลุ่มเพื่อนไรเดอร์ของผู้ตาย รวมตัวกันจุดเทียน วางดอกไม้ เพื่อไว้อาลัยนายฤทธิ์ พร้อมกับเขียนป้ายข้อความเรียกร้องความเป็นธรรม ระบุว่า “ฆาตกรต้องไม่ลอยนวล The murderer must not go unpunished. #SaveRider” รวมถึงยังได้รวบรวมเงินเพื่อมอบให้ภรรยาของนายฤทธิ์ ช่วยเหลือจัดงานศพ

นายอดิเรก ตัวแทนเพื่อนไรเดอร์ บอกว่า ที่ต้องมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมเพราะเห็นว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนมีเงิน เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ยืนยันว่าผู้ตายไม่ใช่คนใจร้อน เลิกงานเที่ยงคืนก็กลับบ้าน ทำงานหาเงิน เพื่อมาดูแลครอบครัว เพราะเขาเป็นเสาหลัก จึงไม่อยากให้น้องตายฟรี และอยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

พ่อผู้ต้องหาชนไรเดอร์กราบขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต
นายคมสันต์ พ่อของผู้ต้องหา พร้อมภรรยา และทนายความ เดินทางมาขอขมาศพนายฤทธิ์ กราบขอโทษ พ่อและภรรยาของผู้เสียชีวิตทันที ก่อนจะออกมาเปิดใจว่า ลูกชายของตนไม่ได้เจตนา หลังจากศาลให้ประกันตัวออกมา ตนยังไม่ได้เจอหน้าเลย แต่เชื่อว่าอยากจะมาขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งตนได้พูดคุยกับครอบครัวผู้เสียชีวิตในเรื่องการเยียวยาแล้ว และจะเป็นเจ้าภาพในการสวดศพตลอด 3 คืน ก่อนจะเดินทางกลับในทันที

สำหรับงานสวดอภิธรรมศพของนายฤทธิศักดิ์ หรือ ริด จะสวด 3 คืน และจะทำพิธีฌาปนกิจในวันที่ 25 ม.ค.นี้ เวลา 17.00 น. ขณะที่นายรัชพล ศิริสาคร โพสต์เฟซบุ๊ก ยินดีเป็นทนายให้ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกรถชน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้