กูรูชี้ทางรอด “ค้าขายออนไลน์” สู้วิกฤติโควิด-19 ได้

กรุงเทพฯ 7 พ.ค. 63 – ก.ล.ต. จัดสัมมนา แชร์ประสบการณ์จากสมาคมอี-คอมเมิร์ซ และผู้ก่อตั้งกรุ๊ปมาร์เก็ตเพลส  เห็นตรงกันช่องทางค้าขายสินค้าออนไลน์เป็นทางรอดในวิกฤตโควิด-19 


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. จัดเสวนา หาคำตอบธุรกิจ SME จะปรับตัวให้รอดและรุ่งได้อย่างไรในยุค COVID-19 เรื่อง “พลิกโฉมธุรกิจ SME: โอกาสใหม่ในยุค COVID-19” โดยนายธนาวัฒน์ มาลาบุปผา นายกสมาคม ผุ้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย ( E-commerce ) กล่าวว่ากลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 กลุ่มแรกๆ คือธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งในกลุ่มสตาร์ทอัพได้มีการช่วยเหลือกัน โดยการโยกย้ายพนักงานบางหน้าที่ ไปช่วยทำงานในบริษัทที่ยังเดินหน้าได้ ร่วมถึงการรับงานร่วมกันระหว่างบริษัท เพื่อเลี่ยงการปลดพนักงาน ขณะที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เป็นธุรกิจที่เติบโตได้ดีในภาวะวิกฤตตอนนี้ ซึ่งอีคอมเมิร์ซปัจจุบันไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางรอดของผู้ประกอบการธุรกิจ  พร้อมกับแนะนำการขายออนไลน์  คือ ให้มองตัวเอง ว่ามีความถนัดหรือทักษะด้านไหนเป็นพิเศษ ที่สามารถนำมาเป็นประโยชน์ต่อคนรอบข้าง เช่น เล่นกีต้าร์เก่งและเคยเล่นเป็นงานอดิเรก ก็สามารถนำทักษะมาใช้ในการสอนออนไลน์ได้  และให้มองภายนอกรอบๆ ตัวเอง โดยให้มองว่าคนบ่นอะไร และนำเสียงบ่นเหล่านั้นมาตั้งคำถามว่า เราสามารถสร้างสินค้าอะไรที่ตอบโจทน์คนเหล่านั้นได้บ้าง 


ขณะที่คนที่จะเริ่มขายสินค้าในช่วงนี้ ให้เริ่มขายสินค้าผ่านช่องทาง โซเซียลมีเดีย หรือ โซเซียลคอมเมิร์ซ เพราะเป็นช่องทางที่คนไทยมีการซื้อสินค้าออนไลน์ในสัดส่วนสูงถึง 40% ของมูลค่าซื้อขายสินค้าออนไลน์  เพราะเป็นช่องทางที่ผู้ซื้อรู้สึกว่าได้ซื้อสินค้าโดยตรงกับผู้ค้า เพราะสามารถโต้ตอบกันได้ รองลงมาคือช่องทางอีมาร์เก็ตเพลส เพราะจะมีการทำโปรโมชั่นดึงดูดผู้ซื้อ และช่องทางสุดท้าย คือการสร้างเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของตัวเอง แต่อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมคนไทยยังชอบการซื้อขายสินค้าผ่านทางหน้าร้าน หรือออฟไลน์ จึงจำเป็นต้องมีหน้าร้าน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ขณะที่ช่องทางออนไลน์ ลูกค้าส่วนใหญ่ 80%-90% จะใช้เป็นช่องทางในการหาข้อมูลสินค้า เพี่อตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อผ่านทั้งทางช่องทางออนไลน์และออฟไลน์


นางสาวภาวรินทร์ รามัญวงศ์ ผู้ก่อตั้งกรุ๊ปธรรมศาสตร์มาร์เก็ตเพลส ระบุว่า กลุ่มธรรมศาสตร์มาร์เก็ตเพลส ตั้งขึ้นมาได้ 1 เดือน  ปัจจุบันมีสมาชิก 170,000 คน  โดยกลุ่มเกิดจากการที่ผู้ค้าและผู้ซื้อไม่สามารถออกมาซื้อสินค้าได้ตามปกติ แต่ยังมีความต้องการซื้อขายกันอยู่ จึงตั้งเป็นกลุ่มซื้อขายสินค้าขึ้นมา เพื่อเป็นช่องทางในการซื้อขายสินค้ากัน ระหว่างผู้ที่เรียน เคยเรียน และบุคคลากรของมหาวิทยาลัยธรรมศาสาตร์  และเพื่อเป็นประโยชน์ในการทำธุรกิจร่วมกันในอนาคต  โดยกลุ่มจะเป็นแบบไพรเวท เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการ  ซึ่งผู้ที่ต้องการเข้ากลุ่มทั้งบุคคลภายในและภายนอกมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จะถูกคัดเลือก เพื่อลดการซื้อขายสินค้าผิดกฎหมายและการฉ้อโกงกัน และยังกำหนดให้ผู้ค้ามีการแท็คผู้ที่มีความเกี่ยวข้องกับธรรมศาสตร์ เพื่อเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ และเพิ่มการมองเห็น  

นายปาณพล จันทรสุกรี ผู้ก่อตั้งกรุ๊ปจุฬาฯมาร์เก็ตเพลส ระบุว่า กลุ่มนี้เกิดขึ้นจากการที่ได้เห็นเพื่อนขายสินค้าในกลุ่มไลน์หมู่บ้าน ซึ่งมียอดขายสูงพอๆกับการขายหน้าร้าน ในขณะที่มีสมาชิกในกลุ่มเพียง 400 คน จึงตั้งเป็นกลุ่มจุฬาฯมาร์เก็ตเพลสขึ้น ซึ่งปัจจุบันก่อตั้งได้เกือบ 1 เดือน มีสมาชิก 230,000 คน โดยจะมีการแชร์ประสบการณ์ระหว่างผู้ดูแลกรุ๊ปของธรรมศาสตร์และจุฬามาร์เก็ตเพลส เพื่อให้สามารถดูแลกรุ๊ปให้มีความรัดกุมและลดการฉ้อโกงในการซื้อขายสินค้า สำหรับสินค้าที่มีการซื้อขายจำนวนมาก จะเป็นพวกของกิน ขนม เบเกอรี่ และผลไม้ .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง”

ทำเนียบ 26 ก.ย.- “รมต.ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง” เผยหลังแถลงนโยบาย เตรียมคุยผู้บริหาร “อสมท-กรมประชาสัมพันธ์-องค์กรสื่อ” ผลักดันงานรัฐบาลให้เข้าถึงประชาชนตั้งแต่ครัวเรือนถึงรากหญ้า ในช่วงเวลา 4 เดือน ยังไม่ชัดมีรายการนายกฯ พบประชาชนหรือไม่ นางศุภมาศ อิสรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถือฤกษ์ 09:09 น. เข้าห้องทำงานบนตึกบัญชาการ 1 ก่อนจะถือฤกษ์ 09:45 น. ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล จากนั้นนางศุภมาศ ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากเข้ารับตำแหน่งแล้วจะมีนโยบายผลักดันในเรื่องใดบ้างในฐานะที่เข้ามากำกับดูแลด้านสื่อสารมวลชน ว่า เพิ่งจะได้รับทราบการแบ่งงาน ดีใจที่มีโอกาสได้เข้ามาดูแลงานประชาสัมพันธ์ให้กับรัฐบาล “ถือว่ากลองดี แต่ไม่ตีก็ไม่ดัง” เพราะรัฐบาลก็ทำดีอยู่แล้ว เพียงแต่ขาดการประชาสัมพันธ์ที่ทั่วถึงที่ข่าวสารที่จะไปถึงพี่น้องประชาชน โดยเราต้องทำให้นโยบายต่างๆ ทั้ง 4 ด้านที่ได้ประกาศออกไปถึงประชาชน และให้ได้รับประโยชน์จากนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลตั้งใจทำให้ นางศุภมาศ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ยังต้องรอการแต่งตั้งโฆษกรัฐบาล หากมีบุคคลเข้ามารับตำแหน่งแล้วก็จะมีการพูดคุยกับโฆษกรัฐบาลอีกครั้ง และมีโอกาสจะได้พบปะกับพี่น้องสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล และสื่อมวลชนทั้งหมด เพื่อที่เราจะช่วยกันวางแผน รวมถึงยังต้องขอความรู้ ความร่วมมือ และความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนที่จะทำอย่างไรให้นโยบายต่างๆ ที่เตรียมไว้ประชาสัมพันธ์ให้ถึงกลุ่มรากหญ้า และทุกครัวเรือน […]

กกต. จัดโรดโชว์ “ไม่ซื้อสิทธิ ไม่ขายเสียง” เลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ

ศรีสะเกษ 26 ก.ย.- กกต. จัดกิจกรรมโรดโชว์ “ไม่ซื้อสิทธิ ไม่ขายเสียง” เลือกตั้ง สส. เขต 5 ศรีสะเกษ “สันทัด” หวังคนออกมาใช้สิทธิด้วยความ สุจริต ลดบัตรเสีย นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ กรรมการการเลือกตั้ง เป็นประธานพิธีเปิด กิจกรรมโรดโชว์ (Road Show) “ไม่ซื้อสิทธิ ไม่ขายเสียง การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดศรีสะเกษ เขต 5 ที่สนามกีฬาวงกลม อำเภอขุนหาญ กิจกรรมโรดโชว์ในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อเพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการเลือกตั้ง สส. แทนตำแหน่งที่ว่าง และเชิญชวนให้ประชาชนอำเภอขุนหาญและภูสิงห์ ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายนนี้ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.00 น. โดยกิจกรรมดังกล่าว มีพิธีปล่อยขบวนรณรงค์ประชาสัมพันธ์ เพื่อเชิญชวนประชาชนออกไปแสดงพลังและใช้สิทธิเลือกตั้ง ภายใต้เจตนารมณ์ “ไม่ซื้อสิทธิ ไม่ขายเสียง การเลือกตั้ง สส. แทนตำแหน่งที่ว่าง” เพื่อร่วมกันรณรงค์ขับเคลื่อนประชาธิปไตย นายสันทัด […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ-อีสาน-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 26 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก โดยเฉพาะ จ.พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ จันทบุรี ตราด ส่วนภาคกลาง รวมทั้ง กทม.-ปริมณฑล มีฝนตกหนักบางพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดพิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ จันทบุรี และตราด ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย […]

ผู้ว่าฯ กทม. เผยเร่งเทปูน 500 ลบ.ม. อุดอุโมงค์ หวังฝนไม่ซ้ำเติม

กทม. 25 ก.ย.-ผู้ว่าฯ กทม. ชี้ “เขตภัยพิบัติ” เป็นประกาศตามเหตุการณ์ ไม่ได้ระบุระยะทาง เร่งเทปูน 500 ลูกบาศก์เมตร อุดอุโมงค์ หวังฝนไม่ซ้ำเติมจุดทรุด เตรียมกระสอบทราย-เครื่องสูบน้ำรับมือทันที นายชัชชาติ สิทธพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเหตุถนนสามเสนทรุดตัวของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ผ่านมาว่า นายกฯ ได้ติดตามสั่งการทุกหน่วยงานมาโดยตลอด ทำให้ทุกคนรู้หน้าที่ตัวเอง และได้รับความร่วมมือร่วมใจที่ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การประปานครหลวง และการไฟฟ้านครหลวง รวมถึงภาคส่วนเอกชนต่างๆ อีกด้วย ทำให้เหตุการณ์รอบนอกเข้าสู่ภาวะปกติได้เร็ว เหลือเพียงข้างในที่เป็นเรื่องเชิงเทคนิค นายชัชชาติ ยังบอกอีกว่า การลงพื้นที่ของนายกฯ หลังเกิดเหตุ 2 ครั้งที่ผ่านมาไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้ามาก่อน และไม่ได้สั่งให้เตรียมการต้อนรับแต่อย่างใด ท่านมาแบบตามสบาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากที่ท่านนายกฯ ได้แวะมาเยี่ยมเยียนพูดคุยให้กำลังใจกัน มีปัญหาอะไรก็คุยกัน นายชัชชาติ เปิดเผยอีกว่า วันนี้จะมีการเทปูนลง 500 ลูกบาศก์เมตรไปในถนนทรุด แต่สิ่งที่ต้องมีการประเมินต่อคือ ปูนไหลลงไปในอุโมงค์เท่าไร เนื่องจากยังอุดกระสอบทรายได้ไม่เต็มที่ จึงมีปูนบางส่วนที่ไหลไปในอุโมงค์หรือสถานี อุปสรรคคือการเทปูนไปแล้วไม่ลงตรงจุด เนื่องจากปูนจะไหลไปในจุดที่ต่ำสุดเช่นเดียวกับการไหลของดิน […]