ป.ป.ส.จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดหนีหมายจับ-ยึดทรัพย์กว่า 20 ล้าน

10 มิ.ย.-ป.ป.ส. ร่วมมือกับเมียนมา จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดหนีหมายจับตั้งแต่ปี 2557 ไปกบดานที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ก่อนขยายผลยึดทรัพย์ได้กว่า 20 ล้านบาท ส่วนอีกคดีตรวจยึดสารตั้งต้นผลิตยาบ้าลอตใหญ่ 15 ตัน


สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พร้อมเจ้าหน้าที่ ร่วมแถลงข่าวการทลายเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ โดยคดีแรกจับกุมตัวนายเจริญ เกียรติพรพานิช ผู้ต้องหาหนีหมายจับศาลอาญา ในคดียาไอซ์ 20 กิโลกรัม เมื่อปี 2557 ซึ่งทางการไทยร่วมกับเมียนมาจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก หลังหนีไปกบดานร่วม 4 ปี พร้อมของกลางที่ยึดได้ขณะหลบหนีเป็นเงินสด 4.2 ล้านบาท เงินสดสกุลจ๊าด 8.4 ล้านจ๊าด ทองรูปพรรณ 25 บาท และรถยนต์หรู หลังจากนั้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ขยายผลยึดทรัพย์เพิ่มเติม ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โฉนดที่ดิน และสิ่งของมีค่ารวมทั้งหมด 20 ล้านบาท

สำหรับนายเจริญเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญในคดียาเสพติด โดยเมื่อปี 2557 ทำหน้าที่เป็นบุคคลที่คอยเก็บรักษาและลักลอบนำส่งยาเสพติดให้ลูกค้า ส่วนพวกอีก 4 คน ถูกจับดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ และยึดทรัพย์ 35 ล้านบาท


ส่วนอีกคดีเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดสารโซเดียมไซยาไนด์ จำนวน 300 ถัง น้ำหนัก 15 ตัน ได้ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก พร้อมจับกุมนายสวัสดิ์ แก้วดา ผู้ต้องหาชาวไทย 1 คน ที่อ้างตัวเป็นคนขับรถบรรทุกสารดังกล่าว และระบุว่าจะนำไปใช้ในเหมืองทองคำ สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจากได้รับประสานจากด่านศุลกากรเชียงแสน ว่ามีการขออนุญาตส่งออกสารโซเดียมไซยาไนด์จากไทยไปเมียนมาผ่านแม่น้ำโขง เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ด่านศุลกากรไม่อนุญาต เพราะผิดข้อตกลงการเดินเรือ เนื่องจากสารดังกล่าวไม่สามารถลำเลียงทางแม่น้ำได้ จึงมีการนำไปเก็บไว้ในโกดังที่อำเภอเชียงแสน จากนั้นเมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา มีการนำสารดังกล่าวส่งออกไปจังหวัดท่าขี้เหล็ก ซึ่งด่านศุลกากรแม่สายได้ให้ผ่านออกไป เนื่องจากมีใบอนุญาตนำเข้า-ขนส่งจากกรมโรงงานฯ ถูกต้อง แต่ ป.ป.ส. ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่เมียนมาตรวจสอบซ้ำอีกครั้งจนพบว่าสารดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตให้นำเข้าเมียนมา อีกทั้งพบว่ามีเส้นทางลำเลียงผิดปกติ คาดว่าอาจถูกนำไปใช้เป็นสารตั้งต้นยาเสพติด จึงตรวจยึดและจับกุม

สำหรับสารโซเดียมไซยาไนด์มักใช้ในการทำเหมืองเพื่อแยกโลหะออกจากทองคำ สามารถนำไปเป็นสารตั้งต้นยาเสพติด โดยลอตนี้สามารถผลิตเป็นยาไอซ์ได้ถึง 5,900 กิโลกรัม หรือหากนำไปผลิตยาบ้าจะได้มากถึง 259 ล้านเม็ด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก