“อัจฉริยะ” เร่งรัดคดี “ทนายตั้ม” เรียกรับเงินผู้ต้องหาคดียาเสพติด

สมุทรสงคราม 12 พ.ย. – “อัจฉริยะ” บุกสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 7 เร่งรัดคดี “ทนายตั้ม” กับพวก ตกเป็นผู้ต้องหาหลอกเงินนักโทษคดียาเสพติด ว่าสามารถลดโทษได้ โดยผ่านมาแล้วเกือบ 4 ปี อัยการยังไม่สั่งคดี


ที่สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 7 อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้ายื่นหนังสือต่อนายณรงค์ชัย หิรัญรัตน์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อติดตามทวงถามความคืบหน้าคดีที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม กับพวก ตกเป็นผู้ต้องหาในคดี ที่ 100/2 หลอกลวงนายธีรวัฒน์ หรือออย ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ว่าสามารถลดโทษได้ หลังคดีดังกล่าวตำรวจภาคภูธรภาค 7 มีคำสั่งฟ้องทนายตั้มและพวก ตั้งแต่ปี 2563 แต่จนถึงขณะนี้อัยการยังไม่สั่งคดีแต่อย่างใด

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า คดีนี้ตนได้ร้องทุกข์กล่าวโทษเมื่อปี 2562 ซึ่งเป็นคดีที่ทนายตั้มร่วมกับพวกที่เป็นตํารวจหลอกลวงผู้ต้องหาในคดียาเสพติดว่าสามารถวิ่งเต้นคดีได้ ใช้ พ.ร.บ.มาตรา 100/2 ช่วยในการลดโทษ ทําให้ผู้ต้องหาหลงเชื่อ มอบเงินจํานวน 400,000 บาท ให้ทนายตั้ม


ต่อมาพนักงานสอบสวนตํารวจภูธรภาค 7 มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จากการตรวจสอบพบการกระทําผิดจริง โดยมีการบันทึกการจับกุมอันเป็นเท็จ พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับทนายตั้มกับพวก ในข้อหาใช้เอกสารราชการอันเป็นเท็จ จากนั้นมีการส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. และส่งกลับมาให้ตํารวจภูธรภาค 7 ดําเนินการสืบสวนสอบสวนและดําเนินคดีต่อจากการสืบสวน มีการสรุปสํานวนสั่งฟ้องไปให้อัยการทุจริตภาค 7 ตั้งแต่ปี 2563 แต่พนักงานอัยการขณะนั้นได้นําสํานวนดังกล่าวไปซ่อน โดยไม่มีการพิจารณาหรือให้ความเห็นทางสํานวนแต่อย่างใด

นายอัจฉริยะ ยืนยันว่าคดีนี้มีพยานหลักฐานชัดเจน โดยที่ผ่านมาตนสอบถามความคืบหน้าที่สำนักงานอัยการสูงสุด 2 ครั้ง และที่สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 7 แล้ว 2 ครั้ง ยังไม่ได้รับความคืบหน้าใดๆ ครั้งนี้จึงมาสอบถามเป็นครั้งที่ 3 หากยังนิ่งเฉยตนจะฟ้องเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ ภายหลังเข้ายื่นหนังสือนายอัจฉริยะ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า คดีนี้กลุ่มผู้ต้องหามีการร้องขอความเป็นธรรมมากกว่า 10 ครั้ง เพื่อประวิงเวลา แต่ล่าสุดอธิบดีอัยการทุจิรตภาค 7 คนใหม่ เล็งเห็นถึงความสําคัญ และวันนี้ จะเสนอเรื่องไปยังอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน พร้อมทิ้งท้ายว่า “หากสั่งฟ้องทนายตั้มเหนื่อยแน่” .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. เร่งสกัดลักลอบส่งกัญชาไปอังกฤษ ฝึกเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานไทยตรวจค้นกัญชา

ป.ป.ส. เร่งสกัดลักลอบส่งกัญชาไปอังกฤษ ฝึกเจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานไทยตรวจค้นกัญชา

พปชร. ขับ 20 สส.ก๊วนธรรมนัส​ ยันไม่มีข้อแลกเปลี่ยน

พปชร. ขับ 20 สส.ก๊วน​ผู้กองธรรมนัส​ พ้นพรรค​ อ้าง อุดมการณ์ไม่ตรงกัน​ ยันจากกันด้วยดี​ ไม่มีข้อแลกเปลี่ยนกับคดีคนใกล้ชิด​ “ลุงป้อม” ถูกกล่าวหา​ ภูนับดาว​ เตรียมเสนอที่ประชุมร่วม​กก.บห.-สส. ลงมติพรุ่งนี้

ผู้เสียหายร้องกองปราบฯ หวั่นไม่ปลอดภัย ถูก สส.พรรคใหญ่ ขับรถตามถึงหน้าบ้าน

ผู้เสียหายร้องกองปราบฯ หวั่นความปลอดภัย ถูก สส.ปทุมธานี พรรคใหญ่ ขับรถติดตามผู้เสียหายถึงหมู่บ้าน หลังโดนผู้เสียหายขับรถแซงเพราะคู่กรณีขับรถช้าแช่ขวา

ปิดพื้นที่เสี่ยง! หลังช้างป่าทำร้ายนักท่องเที่ยวบนภูกระดึงดับ 1

อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งปิดพื้นที่เสี่ยง เส้นทางน้ำตกเพ็ญพบใหม่ หลังช้างป่าทำร้ายนักท่องเที่ยว บนภูกระดึง เสียชีวิต 1 ราย พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและช่วยเหลือครอบครัวเต็มที่

ข่าวแนะนำ

ศาลไม่ให้ประกันตัว “โกทร” กับพวก คุมทั้งหมดส่งเรือนจำนครนายก

“โกทร” ปฏิเสธสั่งฆ่า “สจ.โต้ง” ลูกบุญธรรม พร้อมต่อว่าสื่อมวลชนตั้งคำถามบ้าบอ จะฆ่าทำไมรักเหมือนลูก ที่ผ่านมาช่วยเหลือมาตลอด ก่อนถูกตำรวจนำตัวไปฝากครั้ง ด้าน สจ.จอย ยื่นคำร้องคัดค้านการประกันตัว

“แพทองธาร” เปิดสัมมนาเพื่อไทย ขอร่วมมือไม่แบ่งขั้ว-อายุ

“แพทองธาร” เปิดสัมมนาเพื่อไทย บอกเป็นนิมิตหมายที่ดีมีนายกฯ มา 3 คน ขอ สส.ร่วมมือกัน ไม่แบ่งขั้ว-อายุ ยอมรับ 3 เดือนที่ผ่านมาโฟกัสงานรัฐบาล สัญญาจะปรับปรุงแบ่งเวลาให้ สส.-สภา

“บิ๊กอ้อ” เชื่อยิงดับ “สจ.โต้ง” มีการวางแผนล็อกเป้าล่วงหน้า

“บิ๊กอ้อ” ฟันธงหลังพา 3 ผู้ต้องหา ชี้จุดบ้านเกิดเหตุยิง “สจ.โต้ง” เสียชีวิต เชื่อมีการวางแผน ล็อกเป้าล่วงหน้า สั่งเพิ่มข้อหาหนัก “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน”

นักท่องเที่ยวเกือบ 900 ชีวิต ทยอยลงจากยอดภูกระดึง

เช้านี้นักท่องเที่ยวทยอยลงจากยอด “ภูกระดึง” หลังเหตุสลดช้างป่าทำร้ายนักท่องเที่ยวเสียชีวิต และอุทยานฯ ประกาศปิดชั่วคราว