ศาลายา4พ.ค.-ถอดบทเรียนเด็กตกตึก นักวิชาการเผยในรอบ 5 ปี พบเด็กเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเพิ่มสูงขึ้น เหตุถูกปล่อยทิ้งให้อยู่ลำพัง ด้วยฐานะครอบครัว พ่อแม่ต้องทำงาน แนะใช้ระบบคุ้มครองเด็กจากคนในชุมชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา และอนาคต ก.ศึกษาฯ เพิ่มหลักสูตรฝึกทักษะให้เด็กตั้งแต่ปฐมวัย
รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงบทเรียนกรณีเด็กตกตึกและเด็กตายในเนอสเซอรี่ ว่า ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุกับเด็กปฐมวัยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการปล่อยปละละเลยเด็กไว้เพียงลำพัง ซึ่งเกิดขึ้นกับครอบครัวที่มีฐานะยากจนร้อยละ90 และเกิดในสังคมเมืองที่มีการแข่งขันสูง พ่อแม่ต้องทำงาน ครอบครัวมีขนาดเล็กลง ทำให้ขาดคนดูแลเด็ก
รศ.นพ.อดิศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตามหลักการแล้ว เด็กที่จะสามารถอยู่ได้ด้วยตนเองต้องมีอายุประมาณ 12 ปีขึ้นไปและต้องได้รับการฝึกทักษะ Home Alone ตั้งแต่อายุ10 ปีขึ้นไป จากเหตุการณ์ที่เด็ก 4คนพลัดตกจากระเบียง สะท้อนให้เห็นว่าเด็กยังมีวุฒิภาวะไม่เพียงพอ ผู้ปกครองไม่ควรปล่อยให้อยู่เพียงลำพัง ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 แต่กรณีนี้ถือว่าครอบครัวทำดีที่สุดแล้ว แต่อาจมีความรู้สึกที่ว่า เขาไม่ต้องการให้หน่วยงานรัฐเข้าไปช่วยเหลือ
สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเด็กในปัจจุบัน คนในชุมชน ควรตระหนักถึงระบบคุ้มครองเด็ก ที่ทุกคนสามารถช่วยกันเป็นหู เป็นตาดูแลเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปีอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิด ซึ่งเป็นระบบของสังคม เมื่อครอบครัวได้ทำหน้าที่อย่างเต็มศักยภาพแล้ว คนในชุมชนสามารถร้องขอความช่วยเหลือเพียงโทรแจ้ง1300 ทันที เจ้าหน้าที่รัฐก็จะทำหน้าที่ประเมินสถานการณ์หาแนวทางช่วยเหลือต่อไปและในอนาคตกระทรวงศึกษาธิการ ควรเพิ่มหลักสูตรในการฝึกทักษะให้กับเด็กตั้งแต่ปฐมวัย จนถึงอายุ15 ปี เช่น ทักษะการว่ายน้ำ ป้องกันเด็กจมน้ำ การดูแลตัวเองเมื่อต้องอยู่เพียงลำพัง และการดูแลผู้อื่น เป็นต้น .-สำนักข่าวไทย