ตร. 26 ก.ค. – นายกรัฐมนตรีสั่งการถอดบทเรียนดูแลความปลอดภัยตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ ย้ำร่วมมือกัมพูชาแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานการประชุม คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.ครั้งที่ 6/2567 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงในเวลาประมาณ 14.30 น. จากนั้นได้เดินทางขึ้นไปประชุมทันที
ก่อนเริ่มการประชุมนายกรัฐมนตรีได้กำชับเรื่องการสนับสนุนอุปกรณ์ รักษาความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอย่างเพียงพอ รวมถึงยุทธวิธีในการเข้าปฏิบัติหน้าที่ให้มีความปลอดภัย เนื่องจากช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายที่เสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งการปิดล้อมตรวจค้นผู้ค้ายาเสพติดใน จ.เชียงใหม่ และการระงับเหตุชายมีอาวุธ และจับครอบครัวเป็นตัวประกันในพื้นที่ สน.ท่าข้าม พร้อมให้ข้อเสนอแนะในเรื่องดังกล่าว
สำหรับระเบียบวาระการประชุมในวันนี้ ประกอบด้วย 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ, วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 5/2567 วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ ประกอบด้วย เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.วินัย ที่ ก.ตร.มอบหมายให้ทำการแทน เรื่องที่ 2 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.กฎหมาย ที่ ก.ตร.มอบหมายให้ทำการแทน เรื่องที่ 3 ขอสำเนารายงานการประชุม ก.ตร.
วาระที่ 4 เรื่องที่เสนอเพื่อพิจารณา เรื่องที่ 1 การเลื่อนเงินเดือนหรือให้ได้รับเงินตอบแทนพิเศษ ประจำปี 2567 ครั้งที่ 1 ครึ่งปีแรก (1 เม.ย.67 ) แก่ข้าราชการตำรวจผู้รับเงินเดือน ส.6 ขึ้นไป , เรื่องที่ 2 ร่างระเบียบ ก.ตร.ว่าด้วยเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่ประจำอยู่ในต่างประเทศ พ.ศ…. ,เรื่องที่ 3 ร่างระเบียบ ก.ตร.ว่าด้วยเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษตำแหน่งผู้ทำหน้าที่ปกครองโรงเรียน พ.ศ. …. ,เรื่องที่ 4 การแก้ไขกฎ ก.ตร.ว่าตัวยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของการเป็น ข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2566 ข้อ 4 (1) และ วาระที่ 5 เรื่องอื่นๆ
ภายหลังการประชุมใช้เวลานาน 1 ชั่วโมงครึ่ง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้สวมชุดเครื่องแบบข้าราชการปกติขาวไปปฏิบัติภารกิจต่อโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับผู้สื่อข่าว
ด้าน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้เป็นห่วงเรื่องการเข้าไปปฎิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจในการเข้าไปจับกุมยาเสพติดหรือคนคลุ้มคลั่งในที่ต่างๆ แล้วประสบเหตุเสียชีวิตและบาดเจ็บ จึงอยากให้ผู้บังคับบัญชาระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติรับทราบและดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาทั้งการถอดบทเรียน การดูแลสิทธิ์สิทธิประโยชน์สวัสดิการต่างๆ ของตำรวจที่ประสบเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็นในการเข้าไปเป็นปฏิบัติหน้าที่ด้วยความปลอดภัย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กล่าวถึงการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ร่วมกับประเทศกัมพูชา ที่ได้มอบหมายให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ร่วมหารือแนวทางและมาตรการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ระบาดในทั้งสองประเทศร่วมกับ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกัมพูชา โดยเบื้องต้นทางการไทย ได้ประสานงานให้กัมพูชาช่วยติดตามจากกลุ่มบุคคลตามหมายจับประมาณ 100 หมายจับ และได้กำหนดกรอบระยะเวลาการดำเนินการร่วมกับทางกัมพูชาว่าอย่างน้อยต้องเห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 30 วัน จากนั้นคณะทำงานของไทยมีกำหนดเดินทางไปประสานงานด้านข้อมูล และเตรียมการปราบปรามสืบสวนที่ประเทศกัมพูชาในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้.-419-สำนักข่าวไทย