BIG STORY : เร่งแก้ปัญหาแอร์พอร์ตลิงก์ไม่พอให้บริการ

กรุงเทพฯ 29 มี.ค. – หลังเกิดปัญหาผู้โดยสารแอร์พอร์ตลิงก์ต้องรอรถนาน เนื่องจากขบวนรถเข้าซ่อมบำรุงใหญ่ตามวาระ ทำให้เหลือขบวนรถใช้ได้ 4 ขบวน จากทั้งหมด 9 ขบวน ล่าสุดแอร์พอร์ตลิงก์กลับมาให้บริการเพิ่มเป็น 6 ขบวนแล้ว ส่วนอีก 3 ขบวน จะทยอยออกมาให้บริการ ขบวนสุดท้ายมีกำหนดสิ้นปีนี้ แต่จากการตรวจสอบพบว่า สัญญาซ่อมบำรุงทั้ง 9 ขบวน ต้องเสร็จสิ้นภายในเดือนนี้ ทำให้เกิดข้อสงสัยถึงความล่าช้าที่เกิดขึ้น 



นี่เป็นคลิปภาพที่ผู้ใช้บริการแอร์พอร์ตลิงก์บันทึกไว้ ขณะมารอใช้บริการที่สถานีลาดกระบัง ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน เพื่อเข้าไปทำงานในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ผู้โดยสารจำนวนมากต้องยืนรอรถนานนับชั่วโมง เมื่อขบวนรถมาถึง ต่างคนก็พยายามที่จะขึ้นไปบนขบวนรถ เพื่อไปทำงานหรือไปเรียนให้ทัน


ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะขบวนรถที่เคยมีให้บริการทั้งหมด 9 ขบวน เหลือ 4 ขบวน เนื่องจากอยู่ระหว่างซ่อมบำรุงใหญ่ตามวาระ (Overhaul) ทำให้มีผู้โดยสารหนาแน่น และตกค้างตามสถานีต่างๆ จำนวนมาก


ความเดือดร้อนของประชาชนที่เดินทางด้วยแอร์พอร์ตลิงก์เป็นประจำ ทำให้บางส่วนรวมตัวกันทำหนังสือยื่นถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ช่วยเหลือแก้ปัญหา โดยระบุว่าเป็นการบริหารจัดการที่ผิดพลาดของการรถไฟฯ ที่ไม่ซ่อมบำรุงตามข้อกำหนดของผู้ผลิต ไม่เก็บสำรองอะไหล่ เพื่อให้เปลี่ยนใช้ได้ทันทีเมื่อเกิดชำรุดเสียหาย ซึ่งมีตัวแทนมารับเรื่อง และบอกว่าจะเสนอนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคมนาคม ภายในสิ้นเดือนนี้ เพื่อให้มีการแก้ไขปัญหา

ข้อมูลจากบริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. ระบุว่า ขณะนี้ซ่อมขบวนรถให้กลับมาใช้งานได้แล้ว 6 ขบวน ซึ่งแอร์พอร์ตลิงก์มีปัญหาการซ่อมบำรุง เนื่องจากไม่มีสัญญาซ่อม และการสตอกอะไหล่ ซึ่งเป็นปัญหาตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ ประกอบกับการจัดซื้อจัดจ้างที่ล่าช้า เพราะมีกระบวนการที่ต้องขออนุมัติจากการรถไฟฯ 

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงว่า ปัญหารถแอร์พอร์ตลิงก์เสีย มาจากระบบเครื่องปรับอากาศ ซึ่งการซ่อมบำรุงใหญ่ตามวาระ (Overhaul) จะต้องรออะไหล่ชุดใหม่ที่ต้องสั่งซื้อล่วงหน้า ที่ผ่านมาจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการระบบรางเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด สูงขึ้นถึงร้อยละ 20-30 ทำให้จำเป็นต้องมีการปรับแผนรองรับ และเพิ่มขีดความสามารถในการบำรุงรักษา

อะไหล่ชุดใหญ่ที่สั่งซื้อจะเข้ามาถึงช่วงเดือนเมษายนนี้ แอร์พอร์ตลิงก์ คาดว่าก่อนสงกรานต์ ขบวนที่ 7 จะออกมาวิ่งให้บริการได้ ส่วนขบวนที่ 8 จะซ่อมบำรุงเสร็จในช่วงเดือนกรกฎาคม และขบวนที่ 9 ซึ่งจะต้องยกเครื่องใหญ่ จะซ่อมบำรุงเสร็จช่วงสิ้นปีนี้ 

ขณะที่ข้อมูลจากกลุ่มสหภาพรักความเป็นธรรม ที่ยื่นถึงรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ขอให้ตรวจสอบการซ่อมบำรุงใหญ่ตามวาระทั้ง 9 ขบวน วงเงินกว่า 260 ล้านบาท ว่าอาจส่อทุจริต โดยระบุว่า สัญญาซ่อมบำรุงทั้ง 9 ขบวน เซ็นกันตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 กำหนดแล้วเสร็จภายใน 510 วัน หรือ 17 เดือน นั่นหมายความว่า ตามกำหนดต้องส่งงานทั้ง 9 ขบวน ภายในเดือนนี้ ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้ถือว่างานล่าช้า และอาจไม่ได้คุณภาพ พร้อมเสนอให้ ก.คมนาคม ตั้งกรรมการกลางตรวจสอบการตรวจรับงานซ่อมบำรุงรถทั้ง 9 ขบวน. – สำนักข่าวไทย

ชมผ่านยูทูบ

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง