กรุงเทพฯ 25 ก.ค. – อนุกรรมาธิการการยุติธรรม สภาผู้แทนราษฎร วิเคราะห์ช่องโหว่กระบวนการสอบสวนคดี “บอส อยู่วิทยา” เมาขับรถชนตำรวจเสียชีวิตแล้วหนี ทำสำนวนคดีไม่รัดกุม ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในระบบยุติธรรมไทย
คดี “บอส อยู่วิทยา” ทายาทเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อดัง เมาขับรถชนตำรวจจราจร สน.ทองหล่อ เสียชีวิตแล้วหนี เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2555 ที่อัยการสั่งไม่ฟ้องทุกข้อหา และเพิกถอนหมายจับตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา ขณะที่ตำรวจก็ไม่คัดค้านหรือแย้งความเห็นของอัยการ
พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร อนุกรรมาธิการการยุติธรรม สภาผู้แทนราษฎร มองว่า โดยหลักการแล้วเชื่อว่า คดีนี้พนักงานอัยการก็ต้องสั่งคดีไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวนของตำรวจ ซึ่งอาจไม่ได้เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด
พ.ต.อ.วิรุตม์ บอกอีกว่า ช่องโหว่ของการดำเนินคดีทุกคดี คือ ระบบการสอบสวนของไทยที่ไม่มีการตรวจสอบจากองค์กรภายนอก ตามหลักสากลก็คือ พนักงานอัยการ จึงอาจทำให้ได้บันทึกปากคำและพยานหลักฐานไม่ครบถ้วน
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ต้องผลักดันร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เกี่ยวกับการจับกุมและการสอบสวน ซึ่งตอนนี้ร่างหลักการอยู่ในขั้นการพิจารณาของนายกรัฐมนตรี โดยมีสาระสำคัญ เช่น การตรวจค้น สอบปากคำ และจับกุม ต้องบันทึกภาพและเสียงไว้เป็นหลักฐาน ให้อัยการมีอำนาจเข้าไปตรวจสอบกระบวนการสอบสวนในคดีสำคัญ หรือคดีที่มีการร้องเรียนได้ตั้งแต่ในจุดเกิดเหตุ และถ้าตำรวจไม่รับแจ้งความ อัยการสามารถรับแจ้งความได้
นอกจากนี้ ยังมีการเสนอให้สำนักงานอัยการสูงสุด รีบออกมาชี้แจงเหตุผลคำสั่งไม่ฟ้อง “บอส อยู่วิทยา” เพื่อคลายข้อสงสัยให้กับสังคม ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในระบบยุติธรรมของไทยในภาพรวมด้วย. – สำนักข่าวไทย