สมุทรปราการ 20 ก.ค. – กรณีวัยรุ่น 2 กลุ่ม ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ก่อเหตุวิวาทในโรงพยาบาล 2 แห่ง ทำร้ายคู่อริ รวมทั้งทำร้ายบุคลากรทางการแพทย์ จนมีผู้บาดเจ็บหลายคน วันนี้ ทีมแพทย์ห้องฉุกเฉินเล่านาทีระทึก พร้อมฝากถึงผู้ก่อเหตุ “อยากให้คิดก่อนทำ ไม่ใช่ทำแล้วมาขอโทษทีหลัง
วงจรปิดจับภาพชัด เวลา 20.03 น. วานนี้ (19 ก.ค.) ชายวัยรุ่นเสื้อเหลืองบุกเข้าห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลวิภารามชัยปราการ จ.สมุทรปราการ เดินตรงไปที่มุมห้อง และง้างหมัดชกหมอ ก่อนจะมีชายอีก 2 คน เดินตามมาติดๆ โดยชายเสื้อน้ำเงินแขนยาวต่อยเข้าไปที่เจ้าหน้าที่ 1 ครั้ง ก่อนชายเสื้อเหลืองจะเดินมาชกซ้ำอีกครั้ง เหตุเกิดขณะทีมแพทย์กำลัง CPR ช่วยชีวิตเพื่อนที่ถูกแทงอยู่
ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า เย็นวานนี้ กลุ่มวัยรุ่นพาเพื่อนที่ถูกแทงขี่รถจักรยานยนต์มาส่ง มีคนนั่งประกบหน้าหลัง และประคองผู้บาดเจ็บ ทันทีที่มาถึง ทีมแพทย์ได้เข้าช่วยชีวิตด้วยการปั๊มหัวใจและจับชีพจร และพบว่าขณะมาถึงหัวใจหยุดเต้นแล้ว ยื้อชีวิตกว่า 50 นาที จนสุดความสามารถ ก่อนจะบอกญาติว่าผู้บาดเจ็บเสียชีวิต หลังจากวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวทราบว่าเพื่อนเสียชีวิต ได้บุกเข้าไปในห้องฉุกเฉินและทำร้ายหมอทันที
ผ่านไปไม่กี่นาที วัยรุ่นกลุ่มนี้ได้บุกไปที่โรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้าฯ ซึ่งอยู่ห่างจากโรงพยาบาลแรก 1 กิโลเมตร เพื่อตามหาคู่อริที่นอนรักษาตัวอีก 2 คน แต่ไม่พบ เนื่องจากทีมแพทย์ได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วยทั้ง 2 คนไปอีกชั้นแล้ว ก่อนจะก่อเหตุวิวาทในห้องฉุกเฉินอีกครั้ง
สุภาภรณ์ พยาบาลวิชาชีพที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า กลุ่มวัยรุ่นกว่า 20 คน กรูกันเข้ามา ซึ่งมีอาวุธ ทั้งไม้เบสบอล เก้าอี้ และไม้ถูพื้น เมื่อเจอเพื่อนคู่อริ จึงตะลุมบอนกัน ก่อนจะไล่ทำร้ายกันมาจนถึงห้องฉุกเฉิน ตีและขว้างปาข้าวของ ปาเก้าอี้ เครื่องมือแพทย์ กระจกพังเสียหาย เหตุเกิดนานเกือบครึ่งชั่วโมง ก่อนที่กลุ่มผู้ก่อเหตุจะพากันหลบหนีไป
นพ.รังษี ธีระศิลป์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมืองสมุทรปู่เจ้าฯ เผยว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย และสร้างความเดือดร้อน โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่ในเหตุการณ์ ทุกคนมีอาการหวาดกลัว ส่วนความเสียหายอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ
เช่นเดียวกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิภารามชัยปราการ ยืนยันจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด พร้อมจะคุมเข้มมาตรการความปลอดภัยให้กับบุคลากรทางการแพทย์และผู้มาใช้บริการ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ
เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์ได้รับบาดเจ็บ 3 คน ประกอบด้วย แพทย์ เจ้าหน้าที่แผนกเอกซเรย์ และพนักงานขับรถฉุกเฉิน เบื้องต้นทุกคนปลอดภัย แต่ยังอยู่ในอาการหวาดผวา บางรายยังไม่สามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้ ฝากถึงผู้ก่อเหตุ “ให้คิดก่อนทำ ไม่ใช่ทำแล้วมาขอโทษทีหลัง” – สำนักข่าวไทย