ประจวบคีรีขันธ์ 20 ก.ย.- กรมสรรพสามิต หนุนคลาฟเบียร์ บรรจุถัง keg ขายนอกโรงงาน เดินหน้าส่งเสริมรถโบราณ ให้ขับโชว์ได้ในช่วงวันหยุด กำชับค่ายรถยนต์รถไฟฟ้า ผิดสัญญาสร้างโรงงานในประเทศ ทดแทนนำเข้า จ่ายค่าปรับ กำหนดเส้นตาย 31 ธ.ค.68
ดร.กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิตสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ (มาตรการ EV3.0) และมาตรการ EV 3.5 ตามนโยบายรัฐบาลเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 จนถึงเดือนสิงหาคม 68 มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าสะสม 233,802 คัน และรถยนต์จักรยานยนต์ไฟฟ้าสะสม จำนวน 71,667 คัน มีค่ายรถยนต์เข้าร่วมมาตรการ รถ EV 3.0 รวม 31 ราย แบ่งเป็นรถยนต์ 14 ราย จักรยานยนต์ 17 ราย และเฟส 2 (EV3.5) รวม 10 รายมีเฉพาะรถยนต์อย่างเดียว
อธิบดีกรมสรรพากร ย้ำหากค่ายรถไฟฟ้าไม่ยอมทำตามสัญญา ในการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยผลิตรถยนต์ 1-1.5 เท่า ของยอดนำเข้าในช่วงที่ผ่านมา และต้องจ่ายชดเชยรถไฟฟ้าอัตราภาษีจากเดิมร้อยละ 8 ลดเหลือร้อยละ 2 ส่วนต่างร้อยละ 6 รวมทั้งจ่ายเงินค่าปรับบวกเงินเพิ่ม เพราะไม่สามารถสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ตามสัญญา และรัฐบาลจะไม่จ่ายเงินอุดหนุน กำหนดเส้นตาย 31 ธ.ค. 68 นี้ โดยโครงการ EV 3.0 ตั้งโรงงานผลิตไปแล้ว ส่วนโครงการเฟส 3 EV 3.5 ยังมีค่ายรถยนต์บางรายยังไม่ทำตามสัญญา
นอกจากนี้ ได้ขยายเวลาการลดอัตราภาษีสถานบริการเพื่อกระตุ้นภาคท่องเที่ยว โดยลดจากอัตราร้อยละ 10 เหลืออัตราร้อยละ 5 จากเดิมที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ขยายต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ส่งผลทำให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบสรรพสามิตเพิ่มขึ้น และสามารถจัดเก็บรายได้ภาษีสถานบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนการลดอัตราภาษีในปี 2566 จัดเก็บได้จำนวน 138.77 ล้านบาท และในปี 2567 ซึ่งเป็นปีแรกที่ลดอัตราภาษีสามารถจัดเก็บได้จำนวน 182.15 ล้านบาท ในขณะที่ปี 2568 (1 ตุลาคม 2567 ถึง31 สิงหาคม 2568) จัดเก็บได้จำนวน 199.73 ล้านบาท
ล่าสุด กรมสรรพสามิตได้กำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์โบราณขึ้นใหม่ โดยจัดเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 45 เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการจัดแสดงรถยนต์โบราณในภูมิภาค รวมทั้งส่งเสริมอุตสาหกรรมบูรณะรถยนต์โบราณ (Restoration)ในประเทศ และเป็นการขยายฐานรายได้ใหม่ ในการจัดเก็บภาษีสินค้ารถยนต์ โดยเป็นรถยนต์เก่าโบราณ อายุเกินกว่า 30 ปี โดยประสานการกรมขนส่งทางบก จัดทำทะเบียนรถใหม่ พื้นป้ายดำ ตัวหนังสือ สีขาว จากเดิมทะเบียนรถนั่งทั่วไป พื้นป้ายทะเบียนสีขาว ตัวหนังสือสีดำ เปิดให้ขับรถโบราณได้ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ วันนขัตฏกษ์ นับว่า ยังมีกลุ่มคนชอบรถโบราณอีกจำนวนมาก
กรมสรรพสามิต ดำเนินนโยบายส่งเสริมสุราชุมชน เพื่อต่อยอดนโยบายการส่งเสริม Soft Power ของประเทศ โดยปรับปรุงกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมผู้ผลิตสุราชุมชน ลดอุปสรรคต่อผู้ประกอบการรายใหม่ ส่งเสริมการแข่งขันที่เป็นธรรม และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจในระดับฐานรากทำให้มีผู้ประกอบการในระบบ 1,824 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 และจัดเก็บภาษีสุราชุมชนได้จำนวน 1,246 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 กรมสรรพสามิต พร้อมปรับกฎระเบียบผ่อนปรนให้ โรงผลิตคลาฟเบียร์ บรรจุถัง keg นำออกไปจำหน่ายนอกโรงงานผลิตได้ เตรียมผ่อนปรนในช่วงเดือน ธ.ค.68 นี้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย
กรมสรรพสามิตได้ ใช้ระบบเทคโนโลยีดิจิทัลและ Dashboard ติดตาม ตรวจสอบ และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพื้นที่แบบเรียลไทม์ ส่งผลให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ได้ลงนาม MOU กับบริษัทขนส่งพัสดุเอกชน เช่น J&T และ KEX เพื่อยกระดับความร่วมมือในการปราบปรามการลักลอบขนส่งสินค้าหนีภาษีผ่านช่องทางของบริษัทขนส่งพัสดุเอกชน สามารถจับกุมดำเนินคดีได้เพิ่มขึ้น ทั้งสินค้าสุรา ยาสูบ น้ำมัน และสินค้าอื่น ๆ โดยในช่วง 11 เดือนของปีงบประมาณปี68 จับกุมและดำเนินคดีได้ทั้งสิ้น 33,766 คดี สูงกว่าปีก่อนร้อยละ 8.69 และสูงกว่าเป้าหมายร้อยละ 37.33 ตลอดจนมีการนำเงินส่งคลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนำเงินส่งคลังได้ จ 500 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนร้อยละ 27.74 และสูงกว่าเป้าหมายร้อยละ 64.12
กรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตในรอบ 11 เดือน (1 ตุลาคม 2567 ถึง 31 สิงหาคม 2568) ได้จำนวน 489,564.14 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนร้อยละ 1.61 โดยคาดว่าในปีงบประมาณ 2568 กรมสรรพสามิตจะสามารถเก็บภาษีได้ตามเป้าหมายที่กระทรวงการคลังกำหนดจำนวน 535,000 ล้านบาท หรือสูงกว่าปีก่อนร้อยละ 2.17.- 515 สำนักข่าวไทย