BIG STORY : แกะรอยทหารอียิปต์ติดโควิด-19 หนีเดินห้างฯ

ระยอง 14 ก.ค.- วันนี้ที่ระยองมีการเปิดข้อมูลและภาพจากกล้องวงจรปิดนาทีที่ทหารอียิปต์ติดโควิด-19 ฝ่าฝืนออกจากโรงแรมมาที่ห้างฯ โดยพบว่ามีการมาเดินเล่น และใช้เวลาสั้นๆ เท่านั้น ส่วนห้างฯ ปิด 2 วัน ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา และคนในพื้นที่ยังกังวลกับสถานการณ์ที่เผชิญอยู่ในขณะนี้


อาคารสูง 8 ชั้น กลางเมืองระยอง ที่ถูกปิดชั่วคราว คือ โรงแรมที่กลุ่มทหารจากอียิปต์ เดินทางเข้าพักเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม หลังลงเครื่องที่สนามบินอู่ตะเภา ถัดมา 1 วัน พวกเขาเดินทางไปทำภารกิจที่จีน แล้วกลับมาที่โรงแรมในคืนนั้น โดยในวันเดียวกันนี้หน่วยปฏิบัติการควบคุมโรคติดต่อเมืองระยองเข้าคัดกรองและตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งผลตรวจลูกเรือ 31 คน ส่วนใหญ่เป็นลบ แต่มี 1 คน ผลไม่ชัดเจน จึงตรวจซ้ำ และพบว่าติดเชื้อโควิด-19 หลังจากเขาออกจากประเทศไปแล้ว และเมื่อมีการสอบสวนโรคย้อนหลัง ก็พบว่ากลุ่มทหารอียิปต์หนึ่งในนั้นที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ฝ่าฝืนออกนอกที่พัก ทั้งที่ความเป็นจริงควรต้องอยู่ในโรงแรม


จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในศูนย์การค้าแพชชั่น ช้อปปิ้ง เดสติเนชั่น พบว่า วันที่เกิดเหตุเป็นวันศุกร์ช่วงเช้า ทหารอียิปต์ทั้งหมด 15 คน ผ่านจุดคัดกรองปกติ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม เดินแยกกัน กลุ่มแรก 13 คน และอีกกลุ่ม 2 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นติดเชื้อโควิด-19 โดยระยะเวลาที่ทหารอียิปต์คนนี้อยู่ในห้างฯ เป็นช่วงเวลาสั้นๆ เมื่อเดินเข้ามาในห้างฯ แล้ว ก็ขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้น 2 และต่อไปชั้น 3 โดยเดินเล่นอย่างเดียวในโซนโทรศัพท์มือถือ และเสื้อผ้าผู้ชาย ไม่ได้ซื้อของ หรือหยิบจับอะไร ไม่ได้พูดคุยกับใคร ที่สำคัญตลอดที่อยู่ในห้างฯ ผู้ป่วยใส่หน้ากากอนามัยตลอด


หลังเกิดเหตุการณ์ผู้ประกอบการปิดห้างฯ ตั้งแต่ช่วงบ่าย และกำหนดจะปิดไปอีก 2 วัน เพื่อทำความสะอาด และพ่นยาฆ่าเชื้อทุกชั้น ตามมาตรการด้านสุขอนามัย ทำให้บรรยากาศในวันนี้เงียบเหงากว่าทุกวัน 

วินรถจักรยานยนต์หน้าห้างฯ ที่ปกติแล้วจะวิ่งรถรับผู้โดยสารตลอดทั้งวัน ไม่เคยว่าง แต่วันนี้ตั้งแต่เช้ารับลูกค้าได้ไม่กี่เที่ยว และได้เงินเพียง 100 บาทเท่านั้น

เช่นเดียวกับพนักงานร้านทองในห้างสรรพสินค้า ที่ต้องกลับบ้านตั้งแต่หัววัน เธอบอกว่า รู้สึกกังวลกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ช่วงที่ล็อกดาวน์เมือง เธอต้องอยู่แต่ในหอพัก ไม่ได้รับเงินเดือน จึงกลัวว่าจะต้องกลับอยู่ในสภาพนั้นอีก

เหตุการณ์ทหารอียิปต์ติดเชื้อโควิด-19 ฝ่าฝืนออกจากโรงแรม แล้วไปเดินห้างสรรพสินค้าใน จ.ระยอง ในช่วงที่มีคนพลุกพล่าน ซึ่งข้อมูลจากระบบไทยชนะพบว่า มีคนเช็กอินในห้างสรรพสินค้าในเวลาเดียวกับผู้ป่วยคนนี้กว่า 300 คน ทำให้ชาวระยองวิตกกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะหากพบผู้ติดเชื้อในจังหวัดจากเหตุการณ์นี้ ทั้งที่ไม่เคยพบมานานเกือบ 100 วัน นั่นหมายถึงสิ่งที่พวกเขาอดทนมาตลอดหลายเดือนนั้นสูญเปล่า.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก