BIG STORY : หลุดคดี “บอส อยู่วิทยา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องทุกข้อหา

กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – ยืดเยื้อมานานเกือบ 8 ปี คดี “บอส อยู่วิทยา” ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจจราจร สน.ทองหล่อ เสียชีวิต คดีนี้สังคมจับตาว่า ตำรวจจะสามารถนำตัว “บอส อยู่วิทยา” เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้หรือไม่ เพราะข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นข้อหาสุดท้ายที่จะเอาผิดได้ และอายุความหมดในปี 2570 แต่สุดท้ายอัยการกลับสั่งไม่ฟ้องคดี และ ผบ.ตร.ก็เห็นพ้อง ทำให้ “บอส อยู่วิทยา” หลุดคดี


มหากาพย์คดีทายาทกระทิงแดงเมาแล้วขับเฟอร์รารี่ชนตำรวจจราจร สน.ทองหล่อ เสียชีวิต ขณะกลับบ้านหลังออกเวร เช้ามืดของวันที่ 3 กันยายน 2555 คดีนี้กลายเป็นคดีที่สังคมโลกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะผู้ต้องหาเป็นทายาทตระกูลเครื่องดื่มชูกำลัง ร่ำรวยติดอันดับ 2 ของไทย มีทรัพย์มากกว่าหมื่นล้าน ที่สำคัญผู้ต้องหาหลบหนีออกนอกประเทศ แม้ถูกตั้ง 5 ข้อหาหนัก ประกอบด้วย ขับรถขณะเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือตามสมควร และไม่แจ้งเจ้าพนักงานในทันที ชนแล้วหนี, ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด, ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย และขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต่อมาผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว ก่อนเดินทางออกนอกประเทศ 


อย่างไรก็ตาม คดีนี้เป็นคดีลหุโทษ หรือคดีที่มีอัตราโทษต่ำ ทำให้ 3 ข้อหา หมดอายุความในชั้นพนักงานสอบสวน ประกอบกับพนักงานสอบสวนไม่สามารถนำตัวผู้ต้องหามาส่งอัยการได้ จึงเหลือเพียง 2 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ที่ถูกรถชน หรือชนแล้วหนี


หลังพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนส่งฟ้อง 2 ข้อหา “บอส” หรือนายวรยุทธ อยู่วิทยา ผู้ต้องหา ได้ร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการ พร้อมขอเลื่อนการเข้าพบอัยการถึง 7 ครั้ง รวมเป็นเวลาถึง 2 ปี ทำให้ข้อหาไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือ หรือชนแล้วหนี หมดอายุความลง จนอัยการเห็นว่า ผู้ต้องหามีเจตนาประวิงเวลา ทำให้คดีเกิดความล่าช้าและเสียหาย จึงยุติการร้องขอความเป็นธรรม และออกหมายจับกลับมาดำเนินคดี

3 กันยายนที่จะถึงนี้ จะครบ 8 ปี การเสียชีวิตของ ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ กลับมีเรื่องช็อก เมื่อสำนักข่าวต่างประเทศ ออกมาเปิดเผยว่า อัยการสั่งไม่ฟ้อง “บอส กระทิงแดง” ทุกข้อหาที่ยังค้างอยู่ในชั้นอัยการ และเพิกถอนหมายจับตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยตำรวจไม่คัดค้านหรือแย้งความเห็นของอัยการแต่อย่างใด

หลังอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง “บอส กระทิงแดง” ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ทำให้ “บอส” หลุดคดีเมาแล้วขับรถชนคนตายทุกข้อหา และกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักของนักกฎหมายและอดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ตัวตั้งตัวตีเรียกร้องความยุติธรรมให้กับ ด.ต.วิเชียร ระบุว่า ตำรวจและอัยการต้องเคลียร์ในทุกประเด็นที่สังคมกำลังสงสัยและออกมาชี้แจง ไม่แปลกหากสังคมจะติดใจหรือวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของทั้ง 2 หน่วยงาน จนโซเชียลมีเดียติดแฮชแท็ก #บอสอยู่วิทยา

ด้านศาลยุติธรรม เผยศาลยังไม่ได้เพิกถอนหมายจับ “บอส กระทิงแดง” หรือนายวรยุทธ อยู่วิทยา เนื่องจากพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ยังไม่ได้ยื่นคำร้องขอเพิกถอนหมายจับแต่อย่างใด ซึ่งหากพนักงานสอบสวนยื่นคำร้องและมีรายละเอียดเหตุผลการเพิกถอนหมายจับถูกต้องครบถ้วนตามขั้นตอน ก็สามารถดำเนินการเพิกถอนได้ตามปกติ และจะทำให้ “บอส กระทิงแดง” สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ในทันที. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

รวบ “พ.อ.หญิง-แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ตำรวจ ปปป. และ ป.ป.ช. จับ “พ.อ.หญิง” และ “ แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พบเส้นเงินเชื่อมโยง 10 ล้านบาท

ซบพรรคกล้าธรรม

“เอกราช” จ่อซบ “กล้าธรรม” ยันไม่ถึงขั้นแตกหัก “อนุทิน-ภท.”

“เอกราช” เตรียมย้ายซบ “กล้าธรรม” เพื่อความสบายใจในการทำงาน ยันไม่ถึงขั้นแตกหักกับ “อนุทิน-ภูมิใจไทย” คาดเตรียมขับออกเร็วๆ นี้ เผยผูกพันกับ “ธรรมนัส ” กว่า 10 ปี

ไฟไหม้ท้ายรถบัสทัศนศึกษา นักเรียน-ครู ปลอดภัย

หวิดเกิดเหตุสลด รถบัสทัศนศึกษากำลังกลับโรงเรียน เกิดไฟไหม้ท้าย โชคดีอพยพทัน นักเรียนชั้น ป.6 ทั้ง 35 คน กับครู 7 คน ปลอดภัย

รวบไรเดอร์-วิน จยย.รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ไรเดอร์ร่วมกับวิน จยย. รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันจนน่วม ตำรวจตามจับได้ 3 คน ยังอ้างรุมทำร้ายโดยไม่รู้ที่มาที่ไป คิดว่าชายต่างชาติทำร้ายคนไทย ทนไม่ได้จึงเข้าช่วย

ข่าวแนะนำ

ศาล รธน.รับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” แทรกแซง กกต. คดีฮั้ว สว.

ศาล รธน.สั่งรับวินิจฉัย “ภูมิธรรม-ทวี” ฝ่าฝืนจริยธรรม เหตุใช้อำนาจหน้าที่แทรกแซง กกต. กรณีดีเอสไอรับคดีฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษ แต่ไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หากผิดหลุดตำแหน่ง ให้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน

ย้ายด่วน หัวหน้า อช.หมู่เกาะสิมิลัน เร่งสอบปมขายตั๋วไม่โปร่งใส

อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งย้ายด่วน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน หลัง ป.ป.ช. สุ่มตรวจสอบการจำหน่ายตั๋วที่เกาะสี่และเกาะแปด โดยไม่แจ้งล่วงหน้า พบการจำหน่ายตั๋วส่อไม่โปร่งใส

Trump says administration is looking into Signal, thinks Waltz should not apologize

“ทรัมป์” ชี้แชทรั่วไม่มีข่าวกรองชั้นความลับ

วอชิงตัน 26 มี.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ บอกปัดกรณีแชทรั่วไปถึงนักข่าวว่า ไม่มีข้อมูลข่าวกรองชั้นความลับ และไม่มีใครต้องขอโทษ ขณะที่ สว.เดโมแครตรุมตำหนิผู้ที่เกี่ยวข้องเรียกร้องให้ลาออก นายทรัมป์แสดงความหนุนหลังทีมงานด้านความมั่นคงของเขาด้วยการตอบคำถามสื่อในเรื่องนี้ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ไม่มีข้อมูลชั้นความลับถูกเปิดเผยในกลุ่มแชทสนทนาแอปพลิเคชัน ซิกนัล (Signal) ของกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ซึ่งนายไมเคิล วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงได้เชิญนักข่าวคนหนึ่งเข้าไปรวมอยู่ด้วยโดยไม่ตั้งใจ นายทรัมป์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องการใช้แอปพลิเคชันสนทนานี้และคิดว่านายวอลซ์ ไม่จำเป็นต้องขอโทษในเรื่องนี้ ขณะที่นายวอลซ์ให้สัมภาษณ์ในรายการของฟ็อกซ์นิวส์ ยืนยันขอเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าอับอาย กลุ่มแชทที่เขาสร้างขึ้นมีรายละเอียดเรื่องแผนการโจมตีเยเมนจริง แต่ยืนกรานว่าไม่มีข้อมูลชั้นความลับ หลังจากนายเจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการข่าวของนิตยสารดิแอตแลนติก (The Atlantic) ออกมาเปิดเผยว่า ถูกรวมอยู่ในกลุ่มแชทเข้ารหัสโดยไม่รู้ตัวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม และได้เห็นโพสต์ของนายปีเตอร์ เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมเรื่องแผนการทำสงครามก่อนสหรัฐเปิดฉากโจมตีเยเมนระลอกแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ด้านสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พรรคเดโมแครตพากันตำหนินางทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติและนายจอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ (CIA) ที่ไปให้ปากคำต่อคณะกรรมการข่าวกรองในวุฒิสภาว่า ฉาบฉวย ไร้ความสามารถ และไม่ให้เกียรติคนทำงานข่าวกรอง นางแกบบาร์ดและนายแรตคลิฟฟ์อยู่ในกลุ่มสนทนาในแอปฯ ซิกนัลที่มีข่าวรั่วในครั้งนี้ […]

โหวตไว้วางใจ

นายกฯ โพสต์ขอบคุณหลังสภาผ่านฉลุยไว้วางใจ

นายกฯ โพสต์ขอบคุณหลังสภาผ่านฉลุยไว้วางใจ ยัน ชี้แจงทุกประเด็น ลั่น ทั้งเสียงหนุน-เสียงไม่ไว้วางใจ จะเป็นพลังให้มุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชน