ผลสอบไม่พบ “พล.ต.ท.เพิ่มพูน” บกพร่องคดี “บอส”

กทม.13 ส.ค.-ผลสอบไม่พบ “พล.ต.ท.เพิ่มพูน” บกพร่องจากลงนามไม่เห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาดคดี “บอส อยู่วิทยา” แต่พบตำรวจไม่ต่ำกว่า 14 นายบกพร่องในการทำคดี

ตร.แถลงผลตรวจสอบคดี”บอส อยู่วิทยา”

พลตำรวจเอกศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมพลตำรวจโทจารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาดของอัยการคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555


พลตำรวจโทจารุวัฒน์ ชี้แจงขั้นตอนการตรวจสอบอย่างละเอียด โดยย้อนไปตั้งแต่พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ รับแจ้งเหตุเมื่อปี 2555 ไปจนถึงการสอบสวนคดี, การดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมตามคำสั่งของพนักงานอัยการ และการไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาดของอัยการ ซึ่งจากการตรวจสอบ พบข้อบกพร่องของผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ในส่วนของพนักงานสอบสวนทั้งชุดเก่าและชุดใหม่ รวมอีกอย่างน้อย 14 นาย ตั้งแต่ระดับรองผู้บัญชาการ จนถึงผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ และคณะพนักงานสอบสวน เช่น กรณีไม่ดำเนินการตรวจปัสสาวะนายวรยุทธ เพื่อตรวจหาสารเสพติดเมื่อได้ตัวผู้ต้องหา, ไม่ออกหมายขัง กรณีเมื่อได้ตัวมาสอบสวน แต่กลับให้มีการประกันตัว , ไม่เก็บหลักฐานคำให้การจาการสอบพยานเพิ่มเติมไว้ตามระเบียบ , ผู้ออกรายงานให้การไม่ตรงกับรายงาน และพนักงานสอบสวน ไม่ออกหมายจับตามคำสั่งพนักงานอัยการ

ส่วนประเด็นพลตำรวจโทเพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาดของอัยการในคดีนี้ ยังไม่พบความบกพร่อง เนื่องจากมีการดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบปฏิบัติ โดยมีการพิจารณาหลังผ่านความเห็นของผู้ตรวจสำนวนคดีถึง 4 ระดับ ซึ่งมีความเห็นเป็นอิสระต่อกัน และทั้งหมดมีความเห็นไม่แย้ง พลตำรวจโทเพิ่มพูน ตรวจสำนวนแล้ว จึงไม่เห็นแย้งคำสั่งของอัยการ


สำหรับประเด็นข้อบกพร่องทั้งหมด คณะกรรมการฯ จะเสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พิจารณาว่า ประเด็นใดที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ยังไม่ชี้มูลความผิด จะมีการพิจารณาโทษทางวินัยเพิ่มเติม หากเป็นคดีอาญา ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย

 ส่วนประเด็นความเร็วของรถ พบว่าเป็นพยานหลักฐานสำคัญ สามารถพิสูจน์ความผิดผู้ต้องหาได้ เห็นควรส่งพยานหลักฐานไปยังอัยการสูงสุด เพื่อรื้อคดี ในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พร้อมยืนยันด้วยว่า ไม่มีผู้ใดกดดัน พันตำรวจเอกธนสิทธิ แตงจั่น นักวิทยาศาสตร์ สบ.4 ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 ซึ่งมีการกลับคำให้การในเรื่องความเร็วของรถ

นอกจากนี้ ยังพบความบกพร่อง เรื่องการตรวจหาสารเสพติด โดยพบว่า สารแปลกปลอมที่ตรวจพบในร่างกายของผู้ต้องหา จะปรากฎเมื่อมีการเสพโคเคนเท่านั้น จึงให้พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีในข้อหานี้เพิ่มเติมเช่นกัน  และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเป็นผู้เข้ามาดูคดีนี้และพิจารณาความเห็นของพนักงานอัยการด้วยตัวเอง พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำตัวนายวรยุทธ ที่อยู่ต่างประเทศ กลับมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป


ด้านพลตำรวจเอกศตวรรษ กล่าวด้วยว่า หลังได้ผลตรวจสอบจากคณะกรรมการฯพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งเพิ่มเติมให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนพลตำรวจโทเพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาดของอัยการในคดีนี้ ว่าชอบด้วยกฏหมายหรือไม่ นอกจากนี้ ยังให้ตั้งชุดพนักงานสอบสวนคดีนี้ใหม่ โดยใช้พยานหลักฐานใหม่ที่ปรากฎและ ตรวจสอบตำรวจ 11 นาย ที่เคยเป็นผู้ทำคดีนี้ ทั้งที่เคยถูกลงโทษไปแล้ว และไม่เคยถูกลงโทษว่า มีการปฏิบัติถูกต้องหรือไม่ หลังพบว่า มีบางนายยังคงได้รับการแต่งตั้งเลื่อนขั้นสูงขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”