ธพว.ลุยต่อยอดยกระดับรายได้ชุมชน

ธพว.ลุยต่อยอดยกระดับรายได้ชุมชน



กรุงเทพฯ 3 ก.พ.-ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
(ธพว. หรือ
SME Development Bank) เดินหน้าพัฒนาเพิ่มความเข้มแข็งเศรษฐกิจระดับชุมชน
เชื่อมโยงรับประโยชน์
EEC  สร้างมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 15,270 ล้านบาท

นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธพว.  เปิดเผยว่า
ธนาคารมีแผนยกระดับสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยระดับชุมชนทั่วประเทศ
หรือ
จุลเอสเอ็มอีสอดคล้องกับ 9 มาตรการยกระดับเอสเอ็มอีไทยของกระทรวงอุตสาหกรรม  พร้อมเสริมมาตรการด้านสินเชื่อเพื่อต่อยอดธุรกิจเติบโตยั่งยืน
โดยภาคตะวันออกมีศักยภาพที่จะยกระดับเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ
  ในช่วงปีที่ผ่านมา
ธนาคารจึงได้ลงพื้นที่พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการตัวเล็กในชุมชนท่องเที่ยวภาคตะวันออกอย่างต่อเนื่อง
เช่น ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว จังหวัดตราด และชุมชนไร้แผ่นดิน จังหวัดจันทบุรี
  จนก้าวสู่แหล่งท่องเที่ยวและพัฒนาการผลิตสินค้าชุมชนที่มีมาตรฐาน
เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น

สำหรับปีนี้ (2561) ธนาคารจะขยายการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนภาคตะวันออก หรือ ELE (Eastern Local Economy)  โดยเฉพาะโครงการพัฒนาผลไม้ภาคตะวันออก (Eastern Fruit Corridor) ที่เชื่อมโยงตั้งแต่เกษตรกรสวนผลไม้ ผู้รวบรวมผลไม้ ผู้แปรรูป
โรงงานแปรรูป ผู้ค้าปลีกค้าส่ง ผู้ส่งออก รวมทั้งห้องเย็นขนาดเล็ก(
Cold Storage)ในแหล่งผลิต และเชื่อมต่อไปยังห้องเย็นขนาดใหญ่(Public Cold Storage) ที่มีโครงการจะลงทุนในพื้นที่มาบตาพุดซึ่งเป็นศูนย์กลาง EEC (Eastern Economic Corridor) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจผลไม้ครบวงจร
ตลอดจนเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยว และผลิตภัณฑ์อาหารทะเล
ธนาคารได้ลงพื้นที่และศึกษาพัฒนาในพื้นที่
5 ชุมชน 3 จังหวัดประกอบด้วย
1.ชุมชนปากน้ำประแส
จ.ระยอง
2.ชุมชนทุ่งเพล
จ.จันทบุรี
  3.ชุมชนเกาะกูด 
4.
ชุมชนเกาะช้าง และ 5.ชุมชนเกาะหมาก
จ.ตราด โดยทั้ง
5 ชุมชน  รวมกันจำนวน 5,799 ครัวเรือน 
ประชากรรวมกันทั้งสิ้น จำนวน 16,300 คน
เมื่อผ่านการพัฒนายกระดับชุมชน ไม่ว่าจะเป็นด้านพัฒนาสินค้าชุมชน
และพัฒนาสู่แหล่งท่องเที่ยวชุมชนแล้ว
คาดจะช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ชุมชนไม่ต่ำกว่า
15,270 ล้านบาท
เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึง
ราคาค่าที่พักปรับสูงขึ้น และเกิดการซื้อสินค้าที่ระลึกมากขึ้นด้วย


เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมาธนาคารนำร่องพัฒนาพื้นที่
3 ชุมชน ได้แก่
ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว ชุมชนไร้แผ่นดิน และชุมชนท่าระแนะ เริ่มตั้งแต่หาข้อมูล
ศึกษาเศรษฐกิจชุมชน ร่วมประชุมกับผู้นำชุมชนและคนในชุมชน สอบถามความต้องการ
สำรวจผู้ประกอบการในชุมชนว่ายังขาดเรื่องใดเกี่ยวกับการทำธุรกิจบ้าง พบว่า
ผู้ประกอบการคนตัวเล็กในชุมชนไม่มีการจัดทำบัญชี และขาดความรู้ด้านภาษี ทำให้กิจการไม่ราบรื่น
ขาดเงินทุนหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง
  เมื่อธนาคารเข้าถึงปัญหาดังกล่าวแล้ว
จึงได้จัดกิจกรรมพัฒนาที่ตรงความต้องการของชุมชน เช่น
ฝึกอบรมการทำบัญชีอย่างเป็นระบบ ให้ความรู้ด้านภาษีแก่ชุมชน เป็นต้น
จนทำให้ผู้ประกอบตัวเล็กในชุมชนมีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น
นายมงคล กล่าว

ส่วนการพัฒนาในด้านอื่น ๆ นั้น
ธนาคารจะศึกษาว่าแต่ละชุมชนยังมีจุดอ่อนด้านใดบ้าง
จากนั้นเข้าไปเสริมแกร่งให้ตรงจุด  ที่ผ่านมา
ช่วยเหลือชุมชนยกระดับโฮมสเตย์ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ
ในส่วนการผลิตสินค้าบางชุมชนมีสินค้าขึ้นชื่อที่มีเอกลักษณ์ตัวเอง
ตลาดมีความต้องการสูง แต่มีขั้นตอนการผลิตที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน
จึงเป็นข้อจำกัดด้านการตลาด เช่น ข้าวเกรียบยาหน้า ของชุมชนน้ำเชี่ยว จ.ตราด
ธนาคารได้นำผู้เชี่ยวชาญเข้าไปคิดระบบ
รวมถึงพัฒนาเครื่องจักรช่วยการผลิตได้รวดเร็วขึ้น เป็นต้น นอกจากนั้น
  ช่วยยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน
เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่มาตรฐาน อย. ซึ่งจากการดำเนินการต่างๆ ที่ผ่านมา
สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนมากขึ้นจากรายได้
10,000 บาทต่อเดือนในปี
2559 เพิ่มเป็น
20,000 บาทต่อเดือนในปี
2560 เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวมาเยือนในชุมชนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายมงคล กล่าวด้วยว่า เป้าหมายการพัฒนาชุมชนท่องเที่ยวปี 2561 นี้
ค่อนข้างท้าทาย เนื่องจากธนาคารต้องพัฒนาศักยภาพชุมชน
ให้สามารถรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจชุมชนภาคตะวันออกให้ได้
โดยยึดหลักให้ชุมชนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา และเมื่อชุมชนใดเข้มแข็งแล้ว
หากต้องการเงินทุนเพื่อต่อยอดขยายธุรกิจ
  ธนาคารพร้อมให้การสนับสนุนผ่านโครงการสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน
(
Local Economy Loan) วงเงิน 50,000 ล้านบาท มุ่งช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยว ท่องเที่ยวชุมชน
และเกษตรแปรรูป วงเงินกู้ไม่เกิน
5 ล้านบาท  3 ปีแรก
คิดอัตราดอกเบี้ย
3%ต่อปี ฟรีค่าธรรมเนียมบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม
(บสย.)
4 ปีแรก  เพื่อยกระดับมาตรฐานท่องเที่ยวชุมชนสามารถรองรับนักท่องเที่ยว
ทั้งไทยและต่างประเทศได้เป็นอย่างดี
สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จับหมอดังฟอกเงิน

ออกหมายจับ “หมอดัง” พร้อมพวกรวม 9 คน “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน”

ตำรวจออกหมายจับ “หมอดัง” พร้อมพวกรวม 9 คนข้อหา “ฉ้อโกง-ฟอกเงิน” ล่าสุดจับได้แล้ว 6 คน ส่วนอีก 3 คน อยู่ระหว่างติดตามตัว เบื้องต้นมีข้อมูลว่า “หมอดัง” หนีออกนอกประเทศตั้งแต่ ก.ย.ที่ผ่านมา

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน