เตรียมหารือ ก.คลัง-พศ.ปรับช่องทางการบริจาคเงินผ่านระบบออนไลน์

ทำเนียบฯ 31 ธ.ค.-“สุวพันธุ์” เตรียมหารือ กระทรวงการคลัง สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ปรับช่องทางการบริจาคเงินผ่านระบบออนไลน์ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสป้องกันการทุจริต


นายสุวพันธ์ุ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการบริจาคเงินในรูปแบบการบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation)  ว่า เป็นเรื่องที่ดีในการป้องกันการทุจริต ถือเป็นโครงการนำร่องที่จะมานำมาใช้ในการบริจาคของวัด โดยจะมีการหารือกับกระทรวงการคลัง สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และมหาเถรสมาคม

“ไม่อยากให้มองว่าการบริจาคในรูปแบบออนไลน์จะป้องกันการทุจริตเงินทอนวัดเพียงอย่างเดียว แต่ขอให้มองว่าอิเล็กทรอนิกส์และการจ่ายเงินผ่านช่องทางออนไลน์เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ดังนั้นหากนำมาทำให้การบริจาคเงินวัดเป็นระบบ ก็จะเป็นข้อดี ซึ่งแต่ละวัดก็จะมีการบริหารจัดการไม่เหมือนกัน อีกทั้งมีระเบียบที่ต้องหารือร่วมกับกรรมการของวัด แต่หากทำได้จริงทั้งระบบ จะทำให้เกิดความก้าวหน้า โปร่งใส ก็เป็นเรื่อที่ต้องสนับสนุน อีกทั้งจะอยู่ในมิติของการปฎิรูปสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ทั้งเรื่องบัญชีทรัพย์สิน ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดการพัฒนาระบบการเงินของวัด ซึ่งหากจะทำให้ทุกอย่างดำเนินไปตามกรอบชัดเจน ก็ต้องหารือกับกรรมการมหาเถรสมาคมได้ร่วมพิจารณาด้วยก็จะเป็นเรื่องที่ดี” นายสุวพันธุ์ กล่าว


ส่วนความคืบหน้าการติดตามตัวพระธัมชโยมาดำเนินคดีจะมีความคืบหน้าในปีหน้าหรือไม่ นายสุวพันธ์ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพราะเป็นเจ้าของหมายในการตรวจค้นหาตัวพระธัมชโย เมื่อถามว่า ขณะพระธัมชโยยังอยู่ในประเทศหรือไม่ นายสุวพันธ์ กล่าวว่า ต้องถามดีเอสไอ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าออกไปต่างประเทศ

เมื่อถามว่า ประชาชนมองว่าปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินงานกับพระสงฆ์ หรือ พระพุทธศาสนาในรูปแบบต่าง ๆ มักเงียบหายไปกับสายลม ไม่สามารถติดตามดำเนินคดีได้ นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ไม่ได้หายไปกับสายลม เพราะทุกอย่างรัฐบาลยึดหลักความถูกต้อง ผิดว่าไปตามผิด ดำเนินการทุกอย่างตามพยานหลักฐาน ข้อเท็จจริงที่ปรากฎ

“คนทำผิดต้องถูกลงโทษ ข้าราชการก็ต้องโดนทั้งวินัยและอาญา สิ่งที่สำคัญที่สุด ทั้งรัฐบาลคณะสงฆ์และสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ต้องการให้พระพุทธาสนาเป็นที่ศรัทธาเชื่อถือของประชาชนและสามารถเป็นที่พึ่งทางใจให้กับประชาชนได้ และคณะสงฆ์ ก็จะมีกำลังใจในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาให้สังคมดีขึ้น เรื่องอะไรที่ไม่ถูกต้อง ก็ต้องร่วมมือกันทำให้มันถูก ไม่อยากให้มองว่าประเด็นเงินทอนวัดทำให้ประชาชนเสื่อมความศรัทธาในพระพุทธศาสนา เพราะทุกวิกฤติ เป็นโอกาสได้เสมอ  โดยนำมาปฎิรูปกิจการพระพุทธศาสนา การดำเนินการของพระสงฆ์ ปฎิรูประบบราชการที่ดูแลพระพุทธศาสนาก่อนหน้านี้ได้มอบนโยบายกับผู้บริหาร ให้นำวิกฤติเหล่านี้มาเป็นโอกาส คุมประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้น” นายสุวพันธุ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง