สมชัย ชี้ เสี่ยงผิดกฎหมายหากนายกฯ – คสช.ประกาศสนับสนุนพรรคการเมือง

กรุงเทพฯ 12 พ.ย.- “สมชัย” ตอบนายกฯ  คสช. ไม่ควรประกาศหนุนพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง  เสี่ยงผิดกฎหมาย   หากสนันสนุนเป็นรายบุคคลทำได้  แต่ต้องเป็นสมาชิกพรรค   เตือนศูนย์ดำรงธรรมระวังการชี้นำ โดยเฉพาะหากอยู่ในช่วงเลือกตั้งทำไม่ได้


นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง ได้ตอบคำถามของนายกรัฐมนตรีที่สอบถามประชาชน  โดยจะขอตอบประเด็นคำถามที่สองเพียงประเด็นเดียวที่ว่า  “คสช.สามารถสนับสนุนพรรคการเมืองใดได้หรือไม่”  ในประเด็นนี้ ต้องตีความหมายว่า คสช.หมายถึง สมาชิก คสช.ในฐานะที่เป็นตัวบุคคล หรือ คสช.ที่เป็นหนึ่งอำนาจรัฐ  ที่เป็นกลไกสำคัญในแม่น้ำ 5 สาย มีบทบาทเหนือ ครม. สนช. กรธ. และ คณะกรรมการยุทธ์ศาสตร์แห่งชาติ  หาก  คสช.หมายถึงแค่ตัวบุคคลแต่ละคน  ย่อมเป็นสิทธิส่วนบุคคลของท่านในการสนับสนุนพรรคการเมือง  ตามที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.ให้สัมภาษณ์   แต่หาก คสช.หมายถึงองค์อำนาจที่ชี้เป็นชี้ตายในเรื่องต่างๆของบ้านเมืองได้  การที่ คสช.จะประกาศว่าจะสนับสนุนพรรคการเมืองใด  คงไม่เหมาะสมและต้องคำนึงถึงข้อกฎหมาย ในหลายมาตรา

นายสมชัย  กล่าวว่า มาตรา 29 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง  ห้ามมิให้ผู้ใด ซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงำ  หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ  ทั้งนี้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งทางออกในมาตรานี้  คือ คสช.รายบุคคล  ต้องสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง  จึงสามารถไปมีส่วนในการกำหนดนโยบายหรือชี้นำกิจกรรมของพรรคได้   มาตรา 73 ของกฎหมายฉบับเดียวกัน  ห้ามมิให้ข้าราชการการเมือง ใช้สถานะหรือตำแหน่งหน้าที่เรี่ยไรหรือชักชวนให้มีการบริจาคให้พรรคการเมืองหรือผู้สมัครรับเลือกตั้ง   ในประเด็นนี้อาจเกี่ยวข้องเฉพาะ คสช.ที่มาดำรงตำแหน่งทางการเมือง เช่น นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ที่ปรึกษา ไปจนถึงสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ  พึงระมัดระวังหากไปใช้สถานะในตำแหน่งเพื่อสนับสนุนในเชิงเรี่ยไรหรือบริจาคแก่พรรคการเมืองที่ตนสนับสนุน


นายสมชัย  กล่าวว่า ส่วนมาตรา 56 ของร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. …  ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย  กระทำการใดๆ เพื่อเป็นการให้คุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมือง กรณีนี้ คสช.ไม่ได้มีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ  คือ  ไม่ใช่ข้าราชการ พนักงานราชการ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว หรือ พนักงานของรัฐ     แต่ คสช.สามารถใช้อำนาจหน้าที่ผ่านเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ดังนั้น  จึงจำเป็นต้องระมัดระวังอย่างยิ่งในการใช้อำนาจดังกล่าว   ที่อาจเป็นคุณหรือโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมือง มาตรา 169 (4) ของรัฐธรรมนูญ กำหนดว่า คณะรัฐมนตรีต้องไม่ใช้ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐเพื่อกระทำการใดอันอาจมีผลต่อการเลือกตั้ง    ในกรณีนี้เป็นการบังคับในช่วงที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้มีการเลือกตั้ง  ดังนั้น คสช.ที่ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีจำเป็นต้องระมัดระวังอย่างยิ่งในการดำเนินการใด ๆ ที่อาจมีผลต่อการเลือกตั้ง

นายสมชัย กล่าวว่า และหากอยู่ในช่วงมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง  มาตรา 51/3 ของร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. … ยังกำหนดว่าการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน  อันมีลักษณะชี้นำหรือเป็นผลต่อการตัดสินใจในการลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครผู้ใดหรือพรรคการเมืองใดจะกระทำมิได้   และ มาตรา 52 ของร่างกฎหมายฉบับเดียวกัน  ยังห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใด จูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยม ดังนั้น หากกระทรวงมหาดไทยโดยศูนย์ดำรงธรรม  มีการสำรวจความเห็นประชาชน ควรคำนึงถึงคำถามที่มีความเป็นกลาง  ไม่มีลักษณะชี้นำหรือมีผลต่อการตัดสินใจในการลงคะแนน  และหากมีการประกาศกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง  ควรหยุดการสำรวจทันที

“การยกประเด็นกฎหมายต่าง ๆ นี้ เป็นการชี้ให้เห็นว่า รัฐธรรมนูญ และกฎหมายลูกของ กรธ.โดยอาจารย์มีชัย  ได้สร้างหลักการที่ดี เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความสุจริตเที่ยงธรรม  ไม่เปิดโอกาสให้ผู้มีอำนาจใช้อำนาจของตน  เพื่อสร้างความได้เปรียบในการเลือกตั้ง  ดังนั้น การตอบคำถามที่ตรงไปตรงมาเท่านั้นที่จะช่วยให้เกิดสภาวะที่เที่ยงธรรมได้  การตอบคำถามโดยอคติ  เพื่อมุ่งเอาใจบางคนบางฝ่ายกลับเป็นยาพิษต่อสังคมและผู้ถามที่อาจหลงตามว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง” นายสมชัยกล่าว 


นายสมชัย ระบุว่า ไม่มีคำถามเฉพาะข้อ 2  เพราะเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับ กกต.ในฐานะผู้รักษากติกา  ส่วนคำถามข้ออื่น ๆ นั้นไม่ได้เกี่ยวข้อง จึงขออนุญาตไม่ตอบ  และยืนยันว่าการตอบคำถามครั้งนี้ เป็นมุมมองของผู้รักษากติกา  จากกฎหมายที่มี  หากเข้าใจผิดขอให้ผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมาย หรือปรมาจารย์ผู้ร่างกฎหมาย  ช่วยแลกเปลี่ยนให้เกิดความกระจ่างได้ .-สำนักข่าวไทย      

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

“ไบเดน” เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ “ทรัมป์” ถกถ่ายโอนอำนาจ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวหารือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งต่างให้คำมั่นการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม” ชวนลงทุนคล้าย forex เสียหายกว่า 60 ล้าน

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ชักชวนลงทุนในดูไบ คล้าย forex ความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท ขณะที่อีกฝ่ายอ้างนำเงินไปลงทุนจริงแต่ขาดทุน

ข่าวแนะนำ

“หนุ่ม กรรชัย” งดเคลียร์ “ฟิล์ม” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด

“หนุ่ม กรรชัย” ประกาศตัดสัมพันธ์ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด งดเคลียร์ ซัดเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี ชี้เรื่องนี้ไม่ต้องเตือน ให้ย้อนไปดูที่บ้านได้สั่งสอนหรือไม่

เริ่มแล้ว ประเพณียี่เป็งหรือลอยกระทงเชียงใหม่

ประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทง จ.เชียงใหม่ ปีนี้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเต็มไปด้วยแสงสีจากแสงไฟที่ประดับไปทั่วเมือง และความงดงามทางวัฒนธรรมมากมาย ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย

“จิราพร” สั่งตรวจสอบปมคลิปเสียงอ้างชื่อ-จ่อแจ้งความเอาผิด

“จิราพร สินธุไพร” ยืนยันไม่รู้จักนักร้องเรียนหญิง ที่แอบอ้างว่าเป็นคณะทำงาน ประสานฝ่ายกฎหมายเร่งตรวจสอบคลิปเสียง เพื่อแจ้งความดำเนินคดี

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าให้ปากคำปมถูกอ้างชื่อเรียกรับเงินบอส “ดิไอคอน”

“หนุ่ม กรรชัย” เข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบฯ ให้ปากคำกรณีถูกแอบอ้างชื่อเรียกรับเงินผู้บริหาร “ดิไอคอน”