กรุงเทพฯ 27 ต.ค. – สถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ ย้ำเตือนผู้ที่จัดฟันแฟชั่นเถื่อน เสี่ยงติดเชื้อ เกิดแผลอักเสบ และถึงแก่ชีวิต จากวัสดุและวิธีการที่ไม่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ ชี้เป็นปัญหาที่พบบ่อยในยุคที่ประชาชนเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์ได้ง่าย แนะควรตั้งสติและควรเข้ารับการจัดฟันและรักษาจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากข่าวมีผู้ลักลอบจัดฟันแฟชั่นเถื่อน ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อย ล่าสุดพบว่าการจัดฟันมาจากสื่อออนไลน์ และชักชวนให้มาจัดฟันผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยลักลอบจัดฟันในห้องพักแห่งหนึ่ง เป็นการกระทำที่อันตรายเป็นอย่างมาก ซึ่งการจัดฟันเป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องการสบฟันผิดปกติ ฟันซ้อนเก ฟันห่าง ฟันยื่น โดยต้องมีทันตแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน จะช่วยให้มีสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น เพิ่มความมั่นใจและเสริมบุคลิกภาพ แต่ในการจัดฟันแฟชั่นที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ มีรูปแบบพัฒนาไปจากเดิมมาก มีแหล่งขายรีเทนเนอร์ขนาดใหญ่ และร้านที่ลักลอบให้บริการติดอุปกรณ์ลวดดัดฟันแฟชั่นผิดกฎหมาย เช่น ในสื่อออนไลน์ เปิดร้านเช่าเล็กๆ และมีพนักงาน 1-2 คนให้บริการ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียน นักศึกษา คิดค่าบริการในราคาถูก ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้องและอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้น ควรได้รับการรักษาจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีการประเมินก่อนการรักษา เพราะการจัดฟันเป็นการรักษาที่ต่อเนื่องและใช้ระยะเวลานาน เครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ต้องผ่านขั้นตอนการฆ่าเชื้อ มีการบรรจุในซองอย่างดี รวมไปถึงขั้นตอนในการติดตั้งอุปกรณ์ในการจัดฟันต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ ทั้งนี้ จึงไม่แนะนำให้จัดฟันกับบุคคลหรือร้านที่ไม่ได้มาตรฐาน แต่หากได้ทำไปแล้ว ควรต้องรีบพบทันตแพทย์ทันทีเพื่อทำการรักษาและแก้ไขโดยเร็ว
ทันตแพทย์หญิง ดร.สุมนา โพธิ์ศรีทอง ผู้อำนวยการสถาบันทันตกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดฟันแฟชั่นจากร้านหรือคลินิกเถื่อน ส่งผลร้ายต่อสุขภาพฟันและสุขภาพช่องปาก โดยการติดเครื่องมือที่ไม่ถูกหลักวิชาการ ไม่ถูกตำแหน่ง ใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ผิดประเภท ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของฟันไปในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้องและการสบฟันไม่ดี และยังทำให้ประสิทธิภาพในการทำความสะอาดฟันลดลง เศษอาหารติดได้ง่าย อาจเกิดฟันผุ และเหงือกอักเสบ เป็นแผลในช่องปาก เนื่องจากลวดและพลาสติกอาจกดเหงือกหรือทิ่มเหงือก ทำให้มีการปวดฟัน ปวดเหงือก เกิดการติดเชื้อตามมาได้ รวมถึงเครื่องมือที่ติดไม่แน่นหรือหลวมขยับ อาจหลุดเข้าคอได้ขณะรับประทานอาหารหรือตอนนอน
นอกจากนี้สารอันตรายจากการใช้เครื่องมือที่ไม่ได้คุณภาพ ไม่ได้มาตรฐาน เช่น ปรอท สารหนู ตะกั่ว อาจดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย หรือมีการติดเชื้อจากขั้นตอนในการทำสกปรก ไม่มีการล้างมือด้วยน้ำยากำจัดเชื้อและเครื่องมือที่ใช้ไม่มีการฆ่าเชื้อโรค ทั้งหมดที่กล่าวมานี้อาจทำให้ถึงแก่ชีวิตโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น การจัดฟันควรทำโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสถานพยาบาลทางทันตกรรมที่ได้มาตรฐานเท่านั้น รวมถึงมีการดูแลคงสภาพเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี.-411-สำนักข่าวไทย