รพ.นพรัตนราชธานี 3 ก.ย. – กรมการแพทย์แถลงสรุปสถานการณ์ผู้ป่วยเหล้าเถื่อน ตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. ล่าสุดมีป่วยสะสม 44 ราย เสียชีวิต 8 ราย อยู่ระหว่างการรักษาอีก 6 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยสีแดง 4 ราย ที่อาการหนัก
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (3 ก.ย.) นพ.ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์, นพ.เกรียงไกร นามไธสง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี, นายสมหวัง ชัยประกายวรรณ์ ผู้อำนวยการเขตคลองสามวา และเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพสามิต ร่วมประชุมและแถลงสรุปสถานการณ์ผู้ป่วยจากการกินเหล้าเถื่อน
นพ.ไพโรจน์ กล่าวว่า ตลอดเกือบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.ที่มีผู้ป่วยรายแรกเข้ารับการรักษาจนปัจจุบัน ทางโรงพยาบาลนพรัตนราชธานีได้ทำการเปิดศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า หรือ EOC ขึ้นเพื่อควบคุมโรค, ตั้งรับการรักษา และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล เช่น เจ้าหน้าที่จาก กทม., เจ้าหน้าที่ พม., กรมสรรพสามิต จากข้อมูลล่าสุดมีป่วยสะสม 44 ราย เสียชีวิต 8 ราย อยู่ระหว่างการรักษาอีก 6 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยสีแดง 4 ราย ที่อาการหนักต้องใส่ท่อช่วยหายใจ และต้องให้ยากระตุ้นหัวใจเพื่อป้องกันความดันตก และรับการฟอกไตอยู่ และเนื่องจากช่วงหลังมานี้สถานการณ์ไม่มีความร้ายแรงขึ้น จึงมีการจัดประชุมเกี่ยวกับศูนย์ฯ EOC และตกลงกันว่าจะลดบทบาทลง คือให้หน่วยงานต่างๆ กลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง ส่วนศูนย์ฯ EOC ยังคงมีอยู่ในความรับผิดชอบของ รพ.นพรัตน์ฯ จะมีการอัพเดตข้อมูลรายสัปดาห์ และจะติดตามการรักษาพยาบาลผู้ป่วยทั้งหมด
ส่วนผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 30 ราย ได้มีการติดตามอาการทุก 1 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน โดยจะให้ผู้ป่วยมาติดตามอาการที่ รพ. จะมีการตรวจสายตา, ระบบประสาท,ไต ส่วนเจ้าหน้าที่ กทม.จะลงพื้นที่เยี่ยมบ้านผู้ป่วย ด้านกรมคุ้มครองสิทธิ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดูแลในส่วนของการเยียวยา
นพ.ไพโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ครั้งนี้ถือเป็นคลัสเตอร์ที่ใหญ่มาก แต่มีการจัดการและได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงานเป็นอย่างดี ในจำนวนผู้เข้าคัดกรองในระบบทั้งหมดมีจำนวนกว่า 80 ราย เป็นแรงงานต่างด้าวจำนวนไม่ถึง 10 ราย ที่เหลือเป็นคนไทยทั้งหมด แต่เมื่อมีการคัดกรองอาการแล้ว มีผู้ป่วยเสี่ยงได้นับสารเมทานอลเพียง 44 ราย ตามรายงาน
ด้านนางอรสา ทองบุญรอด สรรพสามิตพื้นที่กรุงเทพมหานคร 5 แนะนำให้ดื่มสุราที่ถูกกฎหมาย โดยจะมีฉลากแปะ และมีคิวอาร์โค้ดสแกนได้ ตอนนี้ซุ้มยาดองก็ปิดหมดแล้วตั้งแต่เป็นข่าว แต่ถ้าประชาชนพบเห็นสามารถแจ้งได้ที่เบอร์ 1713. -420-สำนักข่าวไทย