ไล่ล่าคนร้ายยิงตำรวจดับ 1 เจ็บ 1 พร้อมตั้งค่าหัว 1 แสนบาท

เชียงใหม่ 12 ก.ค.- เจ้าหน้าที่ยังคงไล่ล่าคนร้ายยิงตำรวจเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บอีก 1 นาย ระหว่างปิดล้อมจับกุมยาเสพติดในหมู่บ้านชายแดน จ.เชียงใหม่ ตั้งค่าหัว 1 แสนบาท ขณะที่ภรรยาตำรวจที่เสียชีวิต เผยแม้จะเสียใจ แต่ก็ภูมิใจในตัวสามีที่เสียสละเพื่อชาติในการปราบปรามยาเสพติด


เจ้าหน้าที่กว่า 2 ร้อยนาย กระจายกำลังบริเวณป่ารอบหมู่บ้านเจียจันทร์ ตำบลเมืองนะ ชายแดนไทย-เมียนมาด้านอำเภอเชียงดาว จ.เชียงใหม่ เพื่อหาร่องรอยและไล่ล่าจับกุมนายจาย จะกำ หนุ่มชาวลาหู่ วัย 36 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ใช้อาวุธปืนยิงตำรวจเสียชีวิต ขณะเข้าปิดล้อมจับกุมตัวช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา ทำให้สิบตำรวจโทศรัญยู สิงห์คำ หรือหมู่โจ วัย 33 ปี ตำรวจ สภ.นาหวายเสียชีวิต และร้อยตำรวจเอกจีระพล วังแสง หรือหวดน้อย วัย 46 ปี ได้รับบาดเจ็บ ถูกยิงจนนิ้วหัก

ในซอยที่เกิดเหตุยังมีรอยล้อจักรยานยนต์ที่ตำรวจทั้งสองนายขับขี่มาเพื่อปิดทางหลบหนี หลังปิดล้อมจับกุมนายจาย ผู้ต้องหาคดีตามหมายจับที่ย้อนกลับมาขายยาเสพติดในหมู่บ้าน จนประจันหน้ากับนายจาย ที่วิ่งหลบหนีมาและชิงใช้ปืนลูกซองยิงเข้าใส่ กระสุนลูกปลายถูกเข้าที่คอของหมู่โจ ซึ่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์ บาดเจ็บสาหัส ส่วนหมวดน้อยถูกยิงนิ้วหัก แต่หมู่โจทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนคนร้ายอาศัยความมืดและชำนาญทางวิ่งเข้าป่าท้ายหมู่บ้านหลบหนีไปได้ โดยเจ้าหน้าที่เร่งสกัดตามช่องทางชายแดน เพราะหมู่บ้านนี้ห่างจากชายแดนที่เป็นเขตอิทธิพลของว้า เพียง 3 กิโลเมตร


พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมาติดตามการไล่ล่าคนร้าย ได้ประสานฝ่ายทหาร สกัดกั้นตามแนวชายแดน พร้อมแจ้งให้ชาวบ้านระวังเพราะคนร้ายมีอาวุธปืนถือเป็นบุคคลอันตราย พร้อมตั้งค่าหัวไว้ 1 แสนบาท

ขณะที่นางสาวรัชฏาภรณ์ วัย 32 ปี ภรรยาของหมู่โจ เดินทางไปขอรับศพสามี ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ บอกว่า แม้จะเสียใจกับการสูญเสียแต่ภูมิใจในตัวสามีมาก เพราะพยามสอบตำรวจมาหลายครั้ง เพราะใจรักและทำงานอย่างเต็มที่จนกระทั่งถูกยิงเสียชีวิต

โดยหมู่โจ เป็นชาวอำเภอแม่อาย เชียงใหม่ เป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องดูแลพ่อที่ป่วยด้วยโรคขาอ่อนแรง และมีลูกชายวัย 2 ขวบ 3 เดือน ซึ่งตอนนี้ยังไม่รู้ว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว และยังรอให้พ่อพาไปขี่รถเล่นในวันนี้ตามที่พ่อสัญญาไว้ โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดูแลอย่างเต็มที่ตามสิทธิ์ หากภรรยาหรือลูกชายอยากรับราชการตำรวจ จะบรรจุให้ และหากลูกชายจบปริญญาตรี และประสงค์รับราชการ สามารถบรรจุเป็นนายตำรวจสัญญาบัตร ส่วนศพของสิบตำรวจโท ศรัณยู สิงห์คำ ออกจากโรงพยาบาลในวันอาทิตย์นี้ เพื่อนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดปราสาท ในตัวเมืองเชียงใหม่ก่อน และมีพิธีรดน้ำศพและสวดอภิธรรม 1 คืน จากนั้นจะเคลื่อนศพไปยังบ้านเกิด อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรอพระราชทานเพลิงศพต่อไป .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง