Hun Sen

นักวิชาการในสหรัฐชี้ “ฮุน เซน” เบี่ยงเบนและซื้อเวลา

วอชิงตัน 23 ส.ค.- นักวิชาการในสหรัฐระบุนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาใช้ความขัดแย้งชายแดนและการเสนอชื่อผู้นำสหรัฐรับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เป็นวิธีเบี่ยงเบนการตรวจสอบรัฐบาลกัมพูชาที่ใช้การขู่กรรโชกทางเพศกับเด็กเป็นหนึ่งในการหาประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างชั่วร้าย นายเจคอบ ซิมส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญากรรมข้ามชาติและสิทธิมนุษยชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เขียนบทความแสดงความเห็นลงในเว็บไซต์เดอะดิโพลแมต (The Diplomat) วันที่ 21 สิงหาคม 2568 ด้วยการพาดหัวบทความว่า “นายฮุน เซนของกัมพูชากำลังเล่นกับประชาคมโลกและซื้อเวลาอย่างไร” เขามองว่า ดูเหมือนว่านักวิเคราะห์พากันสนใจประเด็นความขัดแย้งชายแดนระหว่างกัมพูชากับไทย และประเด็นที่กัมพูชาเสนอชื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเป็นผู้สมควรได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ โดยมองข้ามเดิมพันที่ใหญ่กว่านั้น นายซิมส์ระบุว่า กัมพูชาของนายฮุน เซนได้กลายเป็นผู้ดูแลเศรษฐกิจอาชญากรรมล่าเหยื่อที่สร้างรายได้มหาศาลให้แก่เครือข่ายอุปถัมป์ของชนชั้นนำ และชาวอเมริกันอาจกลายเป็นเป้าหมายหลักแล้วในขณะนี้ กัมพูชาเผชิญแรงกดดันมากขึ้นทั้งจากทั้งรัฐบาลสหรัฐและจีน การเล่นใหญ่ในประเด็นต่าง ๆ จึงทำหน้าที่เชิงยุทธศาสตร์เสริมเพื่อเบี่ยงเบน เตะถ่วง และลดความรับผิดของระบอบอาชญากรรมที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ซึ่งได้กลายเป็นยุทธศาสตร์ในการปกครองของพรรคประชาชนกัมพูชาหรือซีพีพี (CPP) นายซิมส์อ้างผลการศึกษาใหม่ขององค์การยุติธรรมนานาชาติหรือไอเจเอ็ม (IJM) ที่พบรายงานการขู่กรรโชกทางเพศกับเด็กเกือบ 500 รายงานที่มีหลักฐานข้อมูลโยงใยกับศูนย์หลอกลวงทั้งหมด 40 แห่ง และมีรายงานเพิ่มเติม 18,000 รายงานที่มีที่อยู่ไอพีที่อาจเชื่อมโยงกับสถานที่เหล่านั้น พร้อมกับยกตัวอย่างชื่อสถานที่บางแห่งที่เป็นของนายลี ยงพัด สว.และนักธุรกิจที่กัมพูชาอ้างว่าตกเป็นเหยื่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนจากการถูกสหรัฐคว่ำบาตรเมื่อปีก่อน สิ่งนี้เป็นหลักฐานยืนยันว่า พรรคซีพีพีปล่อยให้ศูนย์หลอกลวงหาเงินให้แก่ผู้อุปถัมป์ และยังปล่อยให้มีการก่ออาชญากรรมกับเด็กด้วย ประเด็นหลังเป็นประเด็นที่สำคัญอย่างยิ่งต่อผู้กำหนดนโยบายในสหรัฐ เพราะเป็นการคุ้มครองเด็กจากการฉวยประโยชน์ที่ทำให้เยาวชนชาวอเมริกันเป็นโรคซึมเศร้าและตัดสินใจจบชีวิตตัวเองเป็นจำนวนมาก นายซิมส์เตือนว่า […]

“รังสิมันต์” ปิดห้องคุยปมชายแดนยังสบายใจได้ เล็งหาวิธี End Game

รัฐสภา 21 ส.ค.-“รังสิมันต์” เผยปิดห้องคุยลับ “บิ๊กเล็ก-รอง มทภ.2-กต.” เปิดใจตรงไปตรงมา พบสถานการณ์ชายแดนยังสบายใจได้ ไม่มีแนวโน้มขัดกันทางอาวุธเร็ว ๆ นี้ ชี้รัฐบาลยังไม่ปิดประตูฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ แต่ต้องพูดคุย เล็งหาวิธี End Game ให้ได้ ภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร นานกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งมีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชนเป็นประธาน มีวาระการประชุมเรื่องติดตามความคืบหน้าการคลี่คลายความขัดแย้งตามแนวชายแดนระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา โดยเชิญ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พลตรีณัฎฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 และนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศมาเข้าให้ข้อมูล นายรังสิมันต์ เปิดเผยว่า เป็นการพูดคุยที่ต้องยอมรับว่าค่อนข้างเปิดใจกันมากส่วนหนึ่งเพราะเป็นการประชุมลับ ข้อมูลที่มีการพูดคุยกันเป็นข้อมูลที่ตรงไปตรงมา ซึ่งยอมรับว่าลำบากใจในการตอบสื่อว่ามีอะไรบ้าง เพราะหลายอย่างเป็นข้อมูลที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน แต่ด้านหนึ่งตนอยากให้ทุกฝ่ายในสังคมสบายใจได้ว่าเรายังมองไม่เห็นถึงแนวโน้มการขัดกันทางอาวุธในเร็ว ๆ นี้ดังนั้นบรรยากาศอาจจะยังไม่ได้น่าเป็นห่วงในเรื่องการปะทะกันทางอาวุธ แต่ถามว่ายังมีความตึงเครียดหรือไม่ก็ยังมี ซึ่งมีการให้คำแนะนำในหลายประการในการที่จะพูดคุยและหาแนวทางว่าจะทำอย่างไรเพื่อลดความตึงเครียด ซึ่งอาจจะยังไม่ได้มีข้อสรุปออกมา อย่างเป็นรูปธรรม นอกเหนือไปจากการพูดคุย ในวงประชุมต่าง ๆ ทั้ง […]

“สุรเดช” หนุนสร้างรั้วลวดหนามถาวร พื้นที่ชายแดนของไทย

กทม. 20 ส.ค.-“สุรเดช” หนุนรัฐบาล สร้างรั้วลวดหนามถาวรพื้นที่ชัดเจนว่าเป็นของไทย บริเวณชายแดนไทย-เขมร แนะเริ่มจากหลักเขตปักปันตามประวัติศาสตร์ จวก เขมร เจ้าเล่ห์ ไว้ใจไม่ได้ นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังคงเกิดปัญหาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุด ทางกองทัพเรือได้เก็บโทรศัพท์ของทหารกัมพูชาโดยมีคลิปและรูปภาพขณะวางระเบิด แต่ทางกัมพูชากลับออกมาระบุว่าทหารไทยจัดฉากนั้นว่า ส่วนตัวตนอยากให้ทางกองทัพเชิญสื่อต่างประเทศมาให้รับทราบเรื่องนี้และเร่งชี้แจงให้ประเทศต่างๆ ได้เห็นถึงความเจ้าเล่ห์ของกัมพูชา ขณะนี้ประชาชนคนไทยไม่ไว้ใจกัมพูชาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือประชาชนกัมพูชา จะให้พูดคุยกันเหมือนในอดีตคงยากแล้ว เพราะเกิดความหวาดระแวงกันแล้ว โดยเฉพาะทหารไทยและประชาชนต้องเสียชีวิตไปจากความขัดแย้งนี้ ดังนั้นรั้วหีบเพลงที่เรากำลังดำเนินการติดตั้งอยู่ไม่น่าจะเพียงพอแล้ว “ส่วนตัวผมคิดว่า เราควรทำรั้วถาวรโดยเริ่มต้นจากหลักเขตที่ปักปันอยู่ ซึ่งที่หลักเขตมีชื่อของประเทศไทยหรือ SIAM รวมถึง กัมพูชา และ ฝรั่งเศส อยู่ด้วย โดยมีการสำรวจจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ พบว่ามีหลักเขตถึง 70 กว่าเสา ดังนั้นควรเริ่มต้นวางลวดหนามตั้งแต่หลักเขตที่ปักปันน่าจะเหมาะสมที่สุด ส่วนพื้นที่ไหนที่ยังไม่ชัดเจน ว่าเป็นพื้นที่ของใครกันแน่ และไม่มีหลักเขตที่ชัดเจน ก็อาจจะมีการวางลวดหนามแบบที่เราทำในปัจจุบันนี้ไปก่อน เพื่อรอการตรวจสอบหรือพิสูจน์พื้นที่ให้ชัดเจน จากนั้นค่อยมาคุยกันเรื่องของแผนที่กันใหม่ และยกเลิกข้อตกลงที่ผ่านๆมา เพราะที่ผ่านมามีการวางกับระเบิดชัดเจน ที่สำคัญเรามีการพิสูจน์แล้วว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้ เป็นทุ่นระเบิดใหม่ ไม่ใช่ระเบิดเก่า ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นชัดเจนว่าทางกัมพูชาไม่มีความจริงใจ และเมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็ควรถือโอกาสนี้ […]

Chinese Foreign Minister Wang Yi shakes hand with Indian Prime Minister Narendra Modi

อินเดีย-จีนฟื้นเที่ยวบินตรงและการค้าชายแดน

นิวเดลี 20 ส.ค.- อินเดียและจีนตกลงฟื้นเที่ยวบินตรงและส่งเสริมการค้าการลงทุนบริเวณชายแดน เพื่อเยียวยาความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานจากเหตุปะทะบริเวณชายแดนปี 2563 กระทรวงต่างประเทศอินเดียออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า ทั้งสองประเทศจะฟื้นการให้บริการเที่ยวบินตรงที่ระงับไปตั้งแต่โรคโควิด-19 ระบาดในปี 2563 แต่ไม่ได้ระบุวันเวลาที่ชัดเจน และจะส่งเสริมการค้าการลงทุน รวมถึงการเปิดการค้าชายแดนบริเวณด่านที่กำหนดไว้ 3 แห่งอีกครั้ง และการอำนวยความสะดวกเรื่องการตรวจลงตราหนังสือเดินทางหรือวีซ่า แถลงการณ์ระบุว่า ความตกลงนี้มีขึ้นหลังจากนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเสร็จสิ้นการเยือนอินเดียเป็นเวลา 2 วัน โดยมาหารือรอบที่ 24 กับนายอาจิต โดวาล ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติอินเดียเพื่อหาทางการแก้ไขข้อพิพาทชายแดนที่ยืดเยื้อมาหลายทศวรรษ  ประเด็นการหารือครอบคลุมเรื่องการถอนกำลังทหารที่ทั้งสองฝ่ายได้ประจำการไว้ตามชายแดนของเทือกเขาหิมาลัย การยกเลิกมาตรการจำกัดทางชายแดนและเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า ทั้งสองฝ่ายตกลงตั้งคณะทำงานขึ้นทำหน้าที่ปรึกษาหารือและประสานงานเพื่อเดินหน้าเรื่องการเจรจาปักปันเขตแดน กลไกดังกล่าวจะขยายการหารือให้ครอบคลุมพื้นที่ทางตะวันออกและตอนกลางของชายแดนด้วย ส่วนหารือพื้นที่ทางตะวันตกของชายแดนจะจัดขึ้นรอบหน้าโดยเร็วที่สุด และว่าทั้งสองฝ่ายตกลงจะหารือกันอีกครั้งที่จีนในปีหน้า นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดียโพสต์เอ็กซ์ (X) หลังพบหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศจีนว่า ความสัมพันธ์ที่มีเสถียรภาพ คาดเดาได้ และสร้างสรรค์ระหว่างอินเดียกับจีนจะมีส่วนช่วยอย่างมากให้ภูมิภาคและโลกมีสันติภาพและรุ่งเรือง ทั้งนี้ผู้นำอินเดียมีกำหนดเดินทางไปจีนในสิ้นเดือนนี้เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดองค์การความมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ที่เป็นความร่วมมือทางการเมือง เศรษฐกิจและความมั่นคงระหว่างประเทศในเอเชียและยุโรป มีสมาชิก 10 ประเทศ นับเป็นการเยือนจีนครั้งแรกในรอบกว่า 7 ปี ส่วนเรื่องโครงการสร้างเขื่อนพลังน้ำเม่อตั๋ว เขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่จีนกำลังสร้างขึ้นบนแม่น้ำยาร์ลุงซางโปในทิเบต ซึ่งเรียกว่าแม่น้ำพรหมบุตรเมื่อไหลผ่านอินเดียและบังกลาเทศ […]

“มทภ.2” ชี้เขมรไว้ใจไม่ได้-ชายแดนยัง 50-50 หากปะทะพร้อมสู้

วปอ. 19 ส.ค.- “แม่ทัพภาค 2” ลั่นกลางวง วปอ. เหตุชายแดนยัง 50-50 ชี้ ‘เขมร’ ไว้ใจไม่ได้ หากปะทะพร้อมสู้ เตรียมคุย ‘อาร์บีซี’ ปลาย ส.ค.นี้ หวังคุยกันเข้าใจ ยึดผลประโยชน์ชาติ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวภายหลังพิธีมอบความช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงของฐานที่มั่นในการปกป้องอธิปไตย จากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รู้สึกชื่นชมและดีใจที่ประเทศชาติเราเป็นอย่างนี้ คนไทยไม่ทิ้งกัน เหตุการณ์ตลอดแนวชายแดนเกือบ 1,000 กิโลเมตร มีหลายเหตุการณ์ ลูกหลานทหารพยายามทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้ การสูญเสียพวกเราป้องกันอย่างเข้มงวดทุกระดับชั้น แต่การเข้าตีบางอย่างเราเป็นฝ่ายรุกอาจมีเหตุที่พวกเราบาดเจ็บบ้าง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยทหารทุกนายที่ได้รับผลกระทบ การปฏิบัติด้านยุทธการครั้งนี้ พระองค์ทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณสิ่งของที่มอบให้ในวันนี้ จะนำไปใช้กับน้องๆ ที่อยู่หน้าแนวตามวัตถุประสงค์ ที่ทุกท่านได้มอบให้โดยด่วน ซึ่งบางครั้งงบประมาณราชการ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก รัฐบาล ได้มอบให้เพียงพอ แต่บางรายการนั้นเร่งด่วน รอการจัดหาตามช่วงเวลาไม่ทัน […]

ยาบ้าทะลักเหนือ พุ่ง 30%-ไอซ์เพิ่ม 3 เท่าตัว

16 ส.ค. – ยาเสพติดยังทะลักเข้ามาทางชายแดนภาคเหนือต่อเนื่อง ช่วง 10 เดือนมานี้ เจ้าหน้าที่ปะทะกับคาราวานขนยาเสพติดแล้วเกือบ 50 ครั้ง ฝ่ายตรงข้ามเสียชีวิตเกือบ 30 ศพ และช่วง 6 เดือนมานี้ สกัดจับยาบ้าได้มากกว่า 230 ล้านเม็ด เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 30 เปอร์เซ็นต์ และยังจับไอซ์เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว ที่สำคัญพบสิ่งบอกเหตุ มีแหล่งผลิตยาเสพติดใกล้ชายแดนไทยมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

จีนแสดงจุดยืนหนุนการปรองดองไทย-กัมพูชา

ปักกิ่ง 14 ส.ค. – นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนกล่าววันนี้ว่า จีนแสดงการสนับสนุนไทยและกัมพูชาในการแก้ไขข้อพิพาทชายแดน และพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือตามความต้องการของทั้งสองประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุในแถลงการณ์สองฉบับว่า นายหวัง กล่าวว่าจีนสนับสนุนให้ประเทศไทยและกัมพูชาเสริมสร้างการเจรจา และหวังว่าทั้งสองประเทศจะสามารถสร้างความไว้วางใจร่วมกันและฟื้นฟูมิตรภาพระหว่างกันได้ นายหวังได้พบกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชาแยกกันนอกรอบการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ที่มณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ไทยและกัมพูชามีข้อขัดแย้งเหนือดินแดนชายแดนมานานหลายทศวรรษ และตกอยู่ในสถานการณ์ขัดแย้งนับตั้งแต่ทหารกัมพูชาเสียชีวิตจากการปะทะกันในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม การปะทะดังกล่าวได้ทวีความรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิต ซึ่งถือเป็นการปะทะกันที่เลวร้ายที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ ก่อนที่จะมีการประกาศหยุดยิงในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม นายหวังยังได้กล่าวถึงความพร้อมของจีนในการเร่งการก่อสร้างรถไฟจีน-ไทย ส่งเสริมให้บริษัทจีนเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น และสร้างความมั่นใจในเสถียรภาพของห่วงโซ่การผลิตและอุปทานในภูมิภาค เขายังได้กล่าวกับนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยว่า หวังว่าประเทศไทยจะให้การสนับสนุนด้านนโยบายและอำนวยความสะดวกแก่บริษัทจีนมากขึ้น ส่วนในการประชุมกับนายปรัก สุคน รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา นายหวังได้แสดงการสนับสนุนกัมพูชาในการรักษาเสถียรภาพทางการเมือง และกล่าวว่าจีนชื่นชมการปราบปรามการพนันออนไลน์และอาชญากรรมทางโทรศัพท์ในประเทศ เขายังแสดงความหวังว่ากัมพูชาจะดำเนินมาตรการที่เข้มงวดต่อไป เพื่อร่วมมือกับภูมิภาคในการต่อต้านกิจกรรมอาชญากรรมข้ามพรมแดน.-813.-สำนักข่าวไทย

“มทภ.2” ลั่นไม่พร้อมเปิดด่านชายแดน เปรย “ปิดยันเกษียณฯ”

สาธิตเกษตร 14 ส.ค.- “มทภ.2” ลั่นไม่พร้อมเปิดด่านชายแดน เปรย “ปิดยันเกษียณฯ” เตรียมคุย ‘อาร์บีซี’ ระดับภาค พร้อมระวัง ‘ทุ่นระเบิด’ ปรับแนวทางลาดตระเวน ใช้เครื่องมือพิเศษช่วย ลั่นไทยไม่ถอนกำลัง-อาวุธ ตรึงชายแดน ย้ำ ‘ปราสาทตาควาย’ เป็นของไทย ต้องหาวิธีนำกลับมา พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์กรณีประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (อาร์บีซี) ระหว่างแม่ทัพภาคที่ 2 และ ผู้บัญชาการภูมิภาคทหาร ฝ่ายกัมพูชา ว่า เขาตอบรับแล้วในช่วงปลายเดือน ส.ค.นี้ จะมีการประชุมฝ่ายเลขานุการ โดยก็จะมีการหารืออีกครั้งว่ามีประเด็นใดบ้าง สำหรับสถานที่หารือจะเป็นแนวเขตชายแดนฝั่งไทยเพื่อความสบายใจ 2 ฝ่าย ส่วนการประชุมอาร์บีซีจะมีการพูดคุยถึง 11 พื้นที่ที่ฝ่ายไทยควบคุมไว้หรือไม่ พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า เราก็ควบคุมอยู่ ไม่ถอนทหาร และเราก็อยู่ตรงนั้น ถึงได้มีคำว่าลวดหนาม และใช้จำนวนมาก พร้อมกันนี้ พล.ท.บุญสิน ยันยืนว่าพื้นที่ปราสาทตาควายเป็นของไทยอยู่ แต่ก็ต้องหาวิธีนำกลับมา ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ทั้งทางระหว่างประเทศและภายในประเทศ […]

จนท.เร่งเก็บกู้ระเบิดตกค้าง-ชาวบ้านปรับตัวกรีดยางกลางวัน ลดความเสี่ยง

อุบลราชธานี 14 ส.ค. – ชาวบ้านแนวชายแดน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ปรับตัวกรีดยางตอนกลางวัน ลดความเสี่ยงจากกระสุนปืนตกค้าง วอนรัฐเร่งเยียวยาต้นยางโดนระเบิดเสียหาย ขณะหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดฯ ร่วมกับ EOD เร่งเก็บกู้วัตถุระเบิดตกค้าง ชาวบ้านแนวชายแดนไทย-กัมพูชา หวาดระแวง หลังมีเฟคนิวส์ปล่อยข่าวปะทะ ให้เตรียมอพยพออกมาอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม ใน อ.น้ำยืน พื้นที่ติดแนวชายแดน เช้าวันนี้เหตุการณ์ยังสงบเงียบ ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตตามปกติ แม้จะระแวงเหตุการณ์ความไม่สงบ หลังจากในโลกโซเชียลปล่อยเฟคนิวส์ให้อพยพ เนื่องจากจะมีการปะทะกัน แต่สุดท้ายเหตุการณ์ปกติ โพสต์เฟคนิวส์จึงได้ลบโพสต์หนี พ่อค้าไก่ย่าง ในตลาดน้ำยืน เปิดเผยว่า นอนไม่หลับ ระแวงตลอดเวลา ได้ยินเสียงฟ้าร้องก็ต้องโทรถามกันว่าเสียงปืนหรือไม่ เพราะในพื้นที่มีข่าวลือว่าจะมีการยิงกัน ส่วนเรื่องการอพยพในพื้นที่ตัว อ.น้ำยืน ยังไม่มี แต่หมู่บ้านที่ติดชายแดน หมู่บ้านกระสุนตก มีข่าวว่าชาวบ้านบางหลังที่กลัวก็อพยพออกไปกันแล้ว ในส่วนของตนเองมีการเตรียมพร้อม เก็บเสื้อผ้า ของใช้ที่จำเป็น เอกสารใส่ลังเอาไว้พร้อมจะอพยพ แต่ตอนนี้ยังต้องออกมาขายของตามปกติ อยากให้ทหารดำเนินการให้เด็ดขาด ให้รีบจบ พร้อมจะอพยพให้ทันที จนท.เร่งเก็บกู้ระเบิดตกค้าง ชาวบ้านปรับตัวรับความเสี่ยงชาวบ้านในหมู่บ้านแนวชายแดนพื้นที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ที่เดินทางกลับเข้าไปใช้ชีวิตและทำมาหากินในหมู่บ้านของตัวเอง […]

ขอความร่วมมือหากพบวัตถุต้องสงสัย แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที

ทำเนียบ 12 ส.ค.- ชายแดนไทย – กัมพูชา สงบ ทั้งสองฝ่ายยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่น ขณะที่ประชาชนจากศูนย์อพยพ 4 จังหวัด เดินทางกลับภูมิลำเนาเรียบร้อยแล้ว ด้านกองทัพขอความร่วมมือ หากพบวัตถุต้องสงสัย หลีกเลี่ยงเข้าพื้นที่ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที เวลา 07.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม 2568 จนถึงเช้าวันนี้ (12 ส.ค.) เหตุการณ์บริเวณพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา 7 จังหวัด ไม่มีเหตุปะทะหรือความรุนแรงเกิดขึ้น ทั้งนี้ กองกำลังของทั้ง 2 ฝ่าย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นของตน โดยฝ่ายไทยยึดมั่นปฏิบัติตามข้อตกลงของการประชุม GBC ที่ผ่านมาอย่างเคร่งครัด และมุ่งมั่นรักษาความสงบเป็นสำคัญ ขณะเดียวกัน ประชาชนที่เคยอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพทั้ง 4 จังหวัด ได้เดินทางกลับภูมิลำเนาเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม […]

รัฐบาลเร่งส่งผู้อพยพกลับบ้าน หลังชายแดนไทย-กัมพูชาสงบ

กรุงเทพฯ 10 ส.ค. – รัฐบาลเร่งส่งผู้อพยพกลับบ้าน หลังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาสงบ ด้านมหาดไทยเรียกประชุมผู้ว่าฯ เดินหน้า 5 มาตรการเร่งด่วน คืนสภาพความเป็นอยู่ที่ดี คืนรอยยิ้มให้คนไทย นายชนินทร์ รุ่งธนะเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนในพื้นที่ชายแดน 7 จังหวัด ว่าหลังจากสถานการณ์การสู้รบในพื้นที่สงบลง รัฐบาลได้ดำเนินการตามแผนช่วยเหลือและฟื้นฟูที่ครอบคลุมและเป็นรูปธรรมในหลายด้าน โดยรัฐบาลได้ประสานรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่เพื่อดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การสู้รบชายแดน ทั้งด้านชีวิตความเป็นอยู่ การเคลื่อนย้ายกลับที่ตั้ง การรักษาความปลอดภัย และการฟื้นฟูสภาพพื้นที่ นอกจากนี้ สส.หลายคน โดยเฉพาะ สส.ในพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย ขณะนี้อยู่ในพื้นที่เพื่อประสานงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่และเร่งด่วน เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวานิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปพบปะพี่น้องประชาชนที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว อำนวยความสะดวกในการส่งพี่น้องประชาชนกลับบ้าน และเรียกประชุมผู้ว่าราชการ 4 จังหวัด คือ […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

1 2 3 27
...