29 มี.ค. – สตม.จับกุมชายสัญชาติเกาหลีใต้ 2 คน ลอบทำงานในผับหรู ย่านทองหล่อ แอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ารายได้หลักแสน/เดือน ส่วนอีกเป็นคนหัวหน้าขบวนการคอลเซ็นเตอร์หนีกบดานเมืองพัทยา
พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.พร้อมด้วย พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รองผบก.ตม.1 และผู้ที่เกี่ยวข้องแถลงกรณีจับกุมชายสัญชาติเกาหลีใต้ ชื่อนายบลู อายุ 27 ปี ลักลอบทำงานในผับหรู ย่านทองหล่อ รวมทั้งจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้แก่นักท่องเที่ยวรายได้หลักแสนต่อเดือน
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ ได้รับเรื่องร้องเรียนเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จากผู้ไม่ประสงค์ออกนามให้ข้อมูลว่ามีคนต่างด้าวสัญชาติเกาหลีใต้รายหนึ่ง ลักลอบทำงานที่ผับหรูแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยามราตรีที่มีชื่อเสียงของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และมีพฤติการณ์อื่น ๆ ที่ผิดกฎหมายต้องการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวจนปรากฎข้อมูลเป็นที่แน่ชัดว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นตามหนังสือร้องเรียนจริง จึงได้วางแผนโดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงที่มีลักษณะบุคลิกภาพดีทำหน้าที่เป็นสายลับติดต่อบุคคลเป้าหมาย ซึ่งใช้นามว่า “บลู” ทั้งทางอินสตาแกรม Kakao Talk และ LINE เพื่อจองโต๊ะโดยโอนเงินมัดจำ 1,000 บาท เข้าบัญชีพร้อมเพย์
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าไปใช้บริการที่ร้านโดยนายบลูได้เข้ามาแนะนำตัว พร้อมกับรับเงินค่าบริการจากเจ้าหน้าที่จำนวน 500 บาท หลังจากนั้นนายบลูได้เสนอขายบุหรี่ไฟฟ้าให้กับสายลับหญิง ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม โดยแจ้งว่าตนมีบุหรี่ไฟฟ้าขาย 2 กลิ่น ขายในราคาอันละ 340 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงในชุดจับกุมจึงขอซื้อบุหรี่ไฟฟ้าทั้ง 2 กลิ่นอย่างละ 1 อัน โดยได้โอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์บัญชีเดิมซึ่งคาดว่าเป็นชื่อจริงของนายบลู เมื่อนายบลูนำบุหรี่ไฟฟ้ามาส่งมอบ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทำการตรวจค้นตัวนายบลูพบธนบัตรไทยหมายเลขตรงตามที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้ และพบบุหรี่ไฟฟ้า อีก 5 อัน และพบบัตรพนักงานร้าน ระบุชื่อ BLUE ตำแหน่ง Account Executive (AE) เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและจับกุมนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีข้อหาเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน (ขายบุหรี่ไฟฟ้า), ซ่อนเร้น ช่วยจําหน่าย ช่วยพาเอาไปเสียซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้ ซึ่งของต้องห้ามที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านวิธีศุลกากร และขายสินค้า บุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า โดยฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
ส่วนอีกคดี จับกุมชายสัญชาติเกาหลีใต้ หัวหน้าขบวนการคอลเซ็นเตอร์ หลังหนีกบดานเมืองพัทยา สร้างความเสียหายกว่า 200 ล้านวอน โด พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.พร้อมด้วย พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รองผบก.ตม.3 และผู้ที่เกี่ยวข้องแถลงกรณีจับกุมชายสัญชาติเกาหลีใต้ ขบวนการคอลเซ็นเตอร์ หลังหนีกบดานเมืองพัทยา วีซ่าอยู่เกินกำหนดระยะอนุญาต (OVERSTAY) สืบเนื่องจาก ตม.จว.ชลบุรี ได้รับแจ้งข้อมูลจากกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่านายโอ (นามสมมุติ) อายุ 51 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของทางการเกาหลีใต้ ในความผิดฐานฉ้อโกง และองค์การตำรวจสากลได้ออกประกาศสีแดง (INTERPOL RED NOTICE) โดยนายโอ มีพฤติการณ์เป็นหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตั้งฐานอยู่ที่ประเทศจีน ได้ใช้วิธีโทรศัพท์และส่งข้อความหลอกลวงเหยื่อผู้เสียหายในประเทศเกาหลีใต้ มีการสร้างสถานการณ์ในรูปแบบต่าง ๆ หลอกให้เหยื่อหลงเชื่อจนโอนเงินมาให้สมาชิกในกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในช่วงเวลา 2 สัปดาห์สามารถหลอกเหยื่อได้จำนวน 6 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านวอน
หลังจากทางการเกาหลีใต้ได้ออกหมายจับ นายโอ ได้หลบหนีคดีมาซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่านายโอ ได้เข้ามาอยู่ในประเทศไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุดแล้ว (OVERSTAY) จากนั้นได้สืบสวนติดตามหาตัวนายโอ ในย่านที่พักและสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองพัทยา จนกระทั่งสืบทราบว่านายโอได้มาเช่าคอนโดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี จึงได้ไปตรวจสอบเมื่อพบตัวนายโอจึงได้จับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว.-414-สำนักข่าวไทย