“พวงเพ็ชร” บุกทลายแหล่งขายบุหรี่ไฟฟ้าใกล้สถานศึกษา

กรุงเทพฯ 6 มี.ค.- “รมต.พวงเพ็ชร” ลงพื้นที่ร่วมกับ “ ผู้การฯ สืบนครบาล” ทลายแหล่งขายบุหรี่ไฟฟ้า ใกล้สถานศึกษา 15 จุด มูลค่า 3 ล้านบาท ชี้จับผู้ขาย เพราะบุหรี่ไฟฟ้ามีสารนิโคติน ทำลายสมองเด็ก ด้าน “บิ๊กจ๋อ” ลั่นเตรียมขยายผล จับตัวการรายใหญ่ เผยมีข้อมูลแล้ว


นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยพลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล และ นายธสรณ์อัฑฒ์ ธสิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดปฏิบัติการทลาย Vape Operation (บุหรี่ไฟฟ้า) 15 จุด แบ่งเป็นแหล่งจำหน่ายใกล้สถานศึกษา 14 จุด โกดังลักลอบนำเข้า 1 จุด ขณะนี้ตรวจค้นเสร็จสิ้นแล้ว 7 จุด อยู่ระหว่างตรวจค้น 8 จุด จับกุมผู้ค้า 7 ราย 8 คน รวมของกลางกว่า 6,000 รายการ ซึ่งถ้ารวมการเข้าจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า ทั้ง 15 จุด จะมีของกลางมูลค่ารวม 3 ล้านบาท

โดยหนึ่งในจุดที่นางพวงเพ็ชร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับสืบนครบาลในการบุกจับกุมนั้น เป็นพื้นที่ตลาดย่านมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 พบเปิดขายอย่างโจ่งแจ้ง มีลูกจ้างหญิงชาวไทยอยู่หน้าร้าน และให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนเองมาเป็นพนักงานขายได้ 2 เดือน และไม่ทราบว่าเจ้าของเป็นใคร โดยร้านค้าเปิดตั้งแต่ 11:00 น. – 21:00 น. มียอดขายในแต่ละวัน 7,000 – 10,000 บาท ซึ่งลูกค้าสามารถจ่ายผ่านเงินสดและโอนเงินผ่านบัญชีได้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการสอบถามว่าได้มีการขายให้กับเด็กและเยาวชนหรือไม่ ทางลูกจ้างได้ปฏิเสธว่าไม่ได้มีการขายให้กับเด็ก ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำหลักฐานจากกล้องวงจรปิดมาเปิดต่อหน้าว่ามีการจำหน่ายให้กับเด็กและเยาวชนจริง เราพบว่าการจับกุมครั้งนี้มีผู้ซื้อที่เป็นเด็กอายุน้อยที่สุด 7 ปีเท่านั้น


จุดถัดมาตำรวจสืบนครบาลได้ตรวจค้นอพาร์ตเมนต์ ในซอยวิภาวดี 16 ซึ่งพบบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมของกลาง เช่น บุหรี่ไฟฟ้าชนิดเปลี่ยนหัว น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง แกดเจ็ต ใส่บุหรี่ไฟฟ้าที่เป็นรูปตัวการ์ตูนต่างๆ เป็นต้น โดยพบลูกจ้างชาวต่างชาติ มีหน้าที่แพ็คและส่งสินค้า โดยให้การว่า ตนเองมาทำงานได้ประมาณ 3 เดือน ได้รับเงินเดือน 13,000 บาท โดยตอนแรกถูกว่าจ้างให้มาขายตุ๊กตา แต่พอเริ่มงานจริง พบว่ามาขายบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวลูกจ้างคนดังกล่าวไปขยายผลจับกุมต่อไป

หลังการจับกุมตรวจค้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้แถลงข่าวร่วมกันกับ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล

โดยนางพวงเพ็ชร กล่าวว่า เนื่องจากนายกรัฐมนตรี ได้กำชับ ให้เข้มงวดการตรวจค้น และจับกุมการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย จึงได้หารือกับ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอกำลังตำรวจมาเสริม ซึ่งได้มอบหมายให้พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมมสุธีร์ มาเป็นกำลังในการสืบสวนจนทราบว่าในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลมีสถานที่จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าใกล้กับสถานศึกษาเป็นจำนวนมาก และจากการลงพื้นที่ วันนี้ได้พบกับหลักฐาน บุหรี่ไฟฟ้าได้ดัดแปลงอุปกรณ์เสริม เพื่อจูงใจเด็กและเยาวชนให้หันไปสูบมากยิ่งขึ้น ซึ่งหลังจากนี้จะสืบสวนเพื่อหาต้นตอใหญ่ต่อไป พร้อมยืนยันว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และในวันนี้ยังถึงเวลาที่จะอนุญาตให้เป็นสินค้าที่ถูกกฎหมาย ซึ่ง ในบุหรี่ไฟฟ้ามีสารนิโคตินจำนวนมากที่ส่งผลต่อสมอง หากเยาวชนและเด็ก สูบเข้าไปจะส่งผลต่อการทำลายสมอง เนื่องจากเยาวชนและเด็กเป็นกำลังสำคัญของชาติ


“วันนี้บุหรี่ไฟฟ้ายังผิดกฎหมายดังนั้น ทั้งบวกและลบวันนี้ต้องเอามานั่งคุยกันว่าอันไหนมีผลมากกว่ากันซึ่งต้องใช้เวลาแต่วันนี้บุหรี่ไฟฟ้ายังผิดกฎหมายทุกคนต้องตรวจจับทุกคนมีหน้าที่อย่าปล่อยปะละเลย ต้องขอความร่วมมือตำรวจในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันให้ช่วยเยาวชนของชาติ รวมถึงผู้ปกครองหากเห็นบุตรหลานซื้อของเข้ามาในบ้าน ให้แจ้งเบาะแสของสถานที่ขาย เพื่อให้ตำรวจขยายผลต่อไปสาวไปถึงต้นตอและส่วนมากพบว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีการลักลอบนำมาจากประเทศข้างเคียง” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการสกัดกั้นผู้ลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านช่องทางออนไลน์ ว่า วันนี้เลขา สคบ.ได้เชิญตัวแทนผู้ให้บริการเว็บขายสินค้าออนไลน์ 2 รายใหญ่ มาพูดคุย เพื่อให้ไปตรวจสอบผู้จำหน่ายสินค้า รวมไปถึงผู้ที่ลักลอบขายในช่องทางของ Facebook และ TikTok ได้ดำเนินการ ประสานไปยังกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เพื่อดำเนินการปิดเว็บไซต์เหล่านั้นมากกว่า 1000 ราย

ด้านพลตำรวจตรีธีรเดช ระบุว่า ทีมสืบนครบาล ได้วางแผนจับกุมกว่า 2 สัปดาห์ จากข้อมูลที่ได้รับเบาะแส และนำมาซึ่งการจับกุมวันนี้ เบื้องต้นตรวจค้น7 จุด พบของกลางบุหรี่ไฟฟ้า เกือบ 6,000 ชิ้น ถือปฏิบัติการร่วมกันที่ทำให้เยาวชนปลอดภัย

“ฝากเตือนไปยังผู้ปกครองให้ตรวจสอบว่าสิ่งที่บุตรหลานห้อยอยู่ไม่ใช่ตุ๊กตาแต่เป็นบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่มอมเมา ทำให้ติดได้” พลตำรวจตรีธีรเดช
ระบุ

ส่วนที่สังคมยังตั้งคำถามว่า การจับกุมยังไม่สามารถสาวไปถึงตัวการรายใหญ่ได้นั้น พลตำรวจตรีธีรเดช วันนี้เราจึงร่องรอยหลักฐานเยอะ แต่ต้องอย่าลืมว่าการป้องกันปราบปราม เราจะทำเพียงลำพังไม่ได้ต้องได้รับความเป็นร่วมมือหลายภาคส่วนจึงจะหมดไป ซึ่งชุดสืบสวนมีหน้าที่ดูแลพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล การทำงานต่อจากนี้จะต้องละเอียดและรอบคอบต่อไป ขณะเดียวกันเชื่อว่าว่าหากเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้ครบทั้ง 15 จุด คาดว่าจะพบของกลางมากกว่า 10,000 ชิ้น .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง ถือเป็นการละเมิดอธิปไตยอย่างชัดเจน ซึ่งกองทัพจะนำปัญหาเข้าสู่ที่ประชุม JBC เพื่อให้รัฐบาลกัมพูชาแก้ไขและรับผิดชอบต่อประชาชนของตนเอง หากไม่ดำเนินการ ไทยมีสิทธิโดยชอบธรรมที่จะขับไล่ผู้บุกรุกออกจากพื้นที่ตามหลักกฎหมายและหลักมนุษยธรรม ก่อนที่ช่วงบ่าย คณะเสนาธิการทหาร ลงพื้นที่บ้านหนองจาน ร่วมกับคณะ […]

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ ภายหลัง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เข้าร่วมสอบปากคำ พระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ และ หมอบี ล่าสุด มีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต ยินยอมจะขอลาสิกขาจากเพศบรรพชิตแล้ว เพื่อนำเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยอดีตพระอลงกต ถูกจับกุมเมื่อช่วงตี 1 ที่ผ่านมา ตามหมายจับศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ในข้อหายักยอกเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และฟอกเงิน.-สำนักข่าวไทย

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]