“พวงเพ็ชร” บุกทลายแหล่งขายบุหรี่ไฟฟ้าใกล้สถานศึกษา

กรุงเทพฯ 6 มี.ค.- “รมต.พวงเพ็ชร” ลงพื้นที่ร่วมกับ “ ผู้การฯ สืบนครบาล” ทลายแหล่งขายบุหรี่ไฟฟ้า ใกล้สถานศึกษา 15 จุด มูลค่า 3 ล้านบาท ชี้จับผู้ขาย เพราะบุหรี่ไฟฟ้ามีสารนิโคติน ทำลายสมองเด็ก ด้าน “บิ๊กจ๋อ” ลั่นเตรียมขยายผล จับตัวการรายใหญ่ เผยมีข้อมูลแล้ว


นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยพลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล และ นายธสรณ์อัฑฒ์ ธสิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดปฏิบัติการทลาย Vape Operation (บุหรี่ไฟฟ้า) 15 จุด แบ่งเป็นแหล่งจำหน่ายใกล้สถานศึกษา 14 จุด โกดังลักลอบนำเข้า 1 จุด ขณะนี้ตรวจค้นเสร็จสิ้นแล้ว 7 จุด อยู่ระหว่างตรวจค้น 8 จุด จับกุมผู้ค้า 7 ราย 8 คน รวมของกลางกว่า 6,000 รายการ ซึ่งถ้ารวมการเข้าจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า ทั้ง 15 จุด จะมีของกลางมูลค่ารวม 3 ล้านบาท

โดยหนึ่งในจุดที่นางพวงเพ็ชร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับสืบนครบาลในการบุกจับกุมนั้น เป็นพื้นที่ตลาดย่านมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 พบเปิดขายอย่างโจ่งแจ้ง มีลูกจ้างหญิงชาวไทยอยู่หน้าร้าน และให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนเองมาเป็นพนักงานขายได้ 2 เดือน และไม่ทราบว่าเจ้าของเป็นใคร โดยร้านค้าเปิดตั้งแต่ 11:00 น. – 21:00 น. มียอดขายในแต่ละวัน 7,000 – 10,000 บาท ซึ่งลูกค้าสามารถจ่ายผ่านเงินสดและโอนเงินผ่านบัญชีได้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการสอบถามว่าได้มีการขายให้กับเด็กและเยาวชนหรือไม่ ทางลูกจ้างได้ปฏิเสธว่าไม่ได้มีการขายให้กับเด็ก ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำหลักฐานจากกล้องวงจรปิดมาเปิดต่อหน้าว่ามีการจำหน่ายให้กับเด็กและเยาวชนจริง เราพบว่าการจับกุมครั้งนี้มีผู้ซื้อที่เป็นเด็กอายุน้อยที่สุด 7 ปีเท่านั้น


จุดถัดมาตำรวจสืบนครบาลได้ตรวจค้นอพาร์ตเมนต์ ในซอยวิภาวดี 16 ซึ่งพบบุหรี่ไฟฟ้า พร้อมของกลาง เช่น บุหรี่ไฟฟ้าชนิดเปลี่ยนหัว น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง แกดเจ็ต ใส่บุหรี่ไฟฟ้าที่เป็นรูปตัวการ์ตูนต่างๆ เป็นต้น โดยพบลูกจ้างชาวต่างชาติ มีหน้าที่แพ็คและส่งสินค้า โดยให้การว่า ตนเองมาทำงานได้ประมาณ 3 เดือน ได้รับเงินเดือน 13,000 บาท โดยตอนแรกถูกว่าจ้างให้มาขายตุ๊กตา แต่พอเริ่มงานจริง พบว่ามาขายบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวลูกจ้างคนดังกล่าวไปขยายผลจับกุมต่อไป

หลังการจับกุมตรวจค้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้แถลงข่าวร่วมกันกับ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล

โดยนางพวงเพ็ชร กล่าวว่า เนื่องจากนายกรัฐมนตรี ได้กำชับ ให้เข้มงวดการตรวจค้น และจับกุมการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมาย จึงได้หารือกับ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอกำลังตำรวจมาเสริม ซึ่งได้มอบหมายให้พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมมสุธีร์ มาเป็นกำลังในการสืบสวนจนทราบว่าในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลมีสถานที่จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าใกล้กับสถานศึกษาเป็นจำนวนมาก และจากการลงพื้นที่ วันนี้ได้พบกับหลักฐาน บุหรี่ไฟฟ้าได้ดัดแปลงอุปกรณ์เสริม เพื่อจูงใจเด็กและเยาวชนให้หันไปสูบมากยิ่งขึ้น ซึ่งหลังจากนี้จะสืบสวนเพื่อหาต้นตอใหญ่ต่อไป พร้อมยืนยันว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และในวันนี้ยังถึงเวลาที่จะอนุญาตให้เป็นสินค้าที่ถูกกฎหมาย ซึ่ง ในบุหรี่ไฟฟ้ามีสารนิโคตินจำนวนมากที่ส่งผลต่อสมอง หากเยาวชนและเด็ก สูบเข้าไปจะส่งผลต่อการทำลายสมอง เนื่องจากเยาวชนและเด็กเป็นกำลังสำคัญของชาติ


“วันนี้บุหรี่ไฟฟ้ายังผิดกฎหมายดังนั้น ทั้งบวกและลบวันนี้ต้องเอามานั่งคุยกันว่าอันไหนมีผลมากกว่ากันซึ่งต้องใช้เวลาแต่วันนี้บุหรี่ไฟฟ้ายังผิดกฎหมายทุกคนต้องตรวจจับทุกคนมีหน้าที่อย่าปล่อยปะละเลย ต้องขอความร่วมมือตำรวจในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันให้ช่วยเยาวชนของชาติ รวมถึงผู้ปกครองหากเห็นบุตรหลานซื้อของเข้ามาในบ้าน ให้แจ้งเบาะแสของสถานที่ขาย เพื่อให้ตำรวจขยายผลต่อไปสาวไปถึงต้นตอและส่วนมากพบว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีการลักลอบนำมาจากประเทศข้างเคียง” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการสกัดกั้นผู้ลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านช่องทางออนไลน์ ว่า วันนี้เลขา สคบ.ได้เชิญตัวแทนผู้ให้บริการเว็บขายสินค้าออนไลน์ 2 รายใหญ่ มาพูดคุย เพื่อให้ไปตรวจสอบผู้จำหน่ายสินค้า รวมไปถึงผู้ที่ลักลอบขายในช่องทางของ Facebook และ TikTok ได้ดำเนินการ ประสานไปยังกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เพื่อดำเนินการปิดเว็บไซต์เหล่านั้นมากกว่า 1000 ราย

ด้านพลตำรวจตรีธีรเดช ระบุว่า ทีมสืบนครบาล ได้วางแผนจับกุมกว่า 2 สัปดาห์ จากข้อมูลที่ได้รับเบาะแส และนำมาซึ่งการจับกุมวันนี้ เบื้องต้นตรวจค้น7 จุด พบของกลางบุหรี่ไฟฟ้า เกือบ 6,000 ชิ้น ถือปฏิบัติการร่วมกันที่ทำให้เยาวชนปลอดภัย

“ฝากเตือนไปยังผู้ปกครองให้ตรวจสอบว่าสิ่งที่บุตรหลานห้อยอยู่ไม่ใช่ตุ๊กตาแต่เป็นบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่มอมเมา ทำให้ติดได้” พลตำรวจตรีธีรเดช
ระบุ

ส่วนที่สังคมยังตั้งคำถามว่า การจับกุมยังไม่สามารถสาวไปถึงตัวการรายใหญ่ได้นั้น พลตำรวจตรีธีรเดช วันนี้เราจึงร่องรอยหลักฐานเยอะ แต่ต้องอย่าลืมว่าการป้องกันปราบปราม เราจะทำเพียงลำพังไม่ได้ต้องได้รับความเป็นร่วมมือหลายภาคส่วนจึงจะหมดไป ซึ่งชุดสืบสวนมีหน้าที่ดูแลพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล การทำงานต่อจากนี้จะต้องละเอียดและรอบคอบต่อไป ขณะเดียวกันเชื่อว่าว่าหากเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้ครบทั้ง 15 จุด คาดว่าจะพบของกลางมากกว่า 10,000 ชิ้น .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

จับตาเวทีหารือปราบสแกมเมอร์

15 ก.ย. – พรุ่งนี้ (16 ก.ย.) ต้องเกาะติดการประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา วางแนวทางปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสแกมเมอร์ ที่ จ.สระแก้ว ต่อยอดการประชุม GBC ที่เกาะกง เมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี

เชียงใหม่ 15 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 บรรยายพิเศษที่เชียงใหม่ ปลุกพลังรักชาติของคนไทย ยืนยันปิดด่านชายแดนกัมพูชาเป็นหนึ่งในยุทธวิธี พร้อมให้ข้อมูลแนวหน้าและคำแนะนำกับรัฐบาล ช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.ย.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อม พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษ บอกเล่า “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์แม่ริม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีนักเรียน นักศึกษา ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักศึกษาวิชาทหาร กว่า 2,000 คน รอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับคุณยายที่มารอต้อนรับ พร้อมสวมกอดคุณยายอย่างเป็นกันเอง และยังมอบลายเซ็นลงบนรูปถ่ายของตนที่คุณยายเตรียมมาด้วย พล.ท.บุญสิน ได้กล่าวสดุดีเหล่าทหารกล้าที่เสียสละเพื่อแผ่นดินไทย แสดงความเสียใจต่อประชาชนผู้สูญเสีย พร้อมประณามการกระทำของทหารกัมพูชาที่โจมตีเข้ามาด้วยอาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมาย พร้อมเน้นย้ำกับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มาร่วมฟังบรรยายในวันนี้ว่าขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ มีความรักชาติหวงแหนในผืนแผนดินไทย จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และช่วยกันทำนุบำรุงศาสนา ร่วมแรงร่วมใจสามัคคีกันเป็นพลังให้ประเทศไทยก้าวผ่านหลากหลายความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบันไปให้ได้ ส่วนการเปิดด่านชายแดน […]

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]