fbpx

ตร.ยันพร้อมรับมือนักท่องเที่ยวจีนทะลักไทยช่วงตรุษจีน

กรุงเทพฯ 2 ก.พ. – รองโฆษก ตร. เผยพร้อมรับมือนักท่องเที่ยวจีนทะลักไทยช่วงตรุษจีน คาดเฉียดล้านคน สั่งเพิ่มวงรอบการตรวจใช้เทคโนโลยีช่วยประสานตำรวจสากลจับตาจีนเทาแฝงตัว-ขออย่ากังวลระบบไบไอเมตริกล่มเพราะมีระบบออฟไลน์รองรับ


พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า ตามนโนบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้การท่องเที่ยวเป็นหลักสำคัญการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งนโยบายสำคัญของรัฐบาลได้มีการร่วมมือกับรัฐบาลจีน โดยมีฟรีวีซ่าไทย-จีน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป คนไทยและชาวจีนสามารถเดินทางเข้าประเทศอีกฝ่ายหนึ่งได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าซึ่งจะเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวได้อย่างสำคัญ โดยสามารถพำนักในประเทศอีกฝ่ายหนึ่งได้เป็นเวลาไม่เกิน 30 วัน สถิตินักท่องเที่ยวจีนในปี 2566 มี 3,729,573 ราย และ ม.ค.2567 มี 545,158 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มยกเว้นวีซ่า ซึ่งเพิ่มขึ้น 440% เมื่อเทียบกับ ม.ค.66 โดยภายหลังนโยบายการยกเว้นการทำวีซ่า 25 ก.ย.2566 เป็นต้นมา มีสถิตินักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้น 34% และ ม.ค.67 เพิ่มขึ้น 23% จากเดือนก่อน เห็นได้ชัดว่านักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้มีเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวของชาวจีน ทำให้จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมากเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นจากเดือนมกราคมเกือบเท่าตัว ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้หน่วยงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจภูธรภาคต่าง ๆ และตำรวจนครบาล เตรียมความพร้อมเพื่ออำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยในเวลาดังกล่าวให้สามารถเข้ามาท่องเที่ยวยังประเทศไทยได้อย่างมั่นใจ และอยากจะกลับมาเที่ยวซ้ำอีก ซึ่งจะสามารถทำให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวของไทยเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป


รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวอีกว่า ในส่วนของมาตรการที่จะปรับเพิ่มคือการปรับวงรอบการตรวจ และร่วมมือกับอาสาสมัครมาช่วยตำรวจรวมถึงใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยดูแลความปลอดภัย เช่น กล้องติดตัวสายตรวจ และใช้โดรนในการตรวจทางอากาศ พร้อมประสานกับตำรวจสากลหรืออินเตอร์โพลในการเฝ้าระวังจีนเทาที่จะแฝงตัวเข้ามา เนื่องจากคนไม่ดีหรือคนที่มีหมายจับก็จะมีการขึ้นบัญชีดำหรือแบล็คลิสไว้อยู่แล้วก็จะไม่อนุญาตเข้ามาในไทย พร้อมร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก ให้เฝ้าระวังกวดขันรถแท็กซี่สาธารณะไม่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว รวมถึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันในการสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม

สำหรับสถานที่ท่องที่ที่ได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยวจีน คือ กรุงเทพฯ, เชียงใหม่ ,พัทยา, ภูเก็ต หรือแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ซึ่งในส่วนของมาตรการทางตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจท้องที่ก็มีมาตรการระดับหนึ่งอยู่แล้ว เพียงแต่เมื่อมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นก็ปรับวงรอบการตรวจมากขึ้น หรือเพิ่มจุดตรวจ ส่วนปัญหาระบบไบโอเมตริกที่มีปัญหาระบบล่ม ยอมรับว่าเรื่องเทคโนโลยีก็มีขัดข้องบ้างแต่ไม่ต้องกังวลเพราะหากออนไลน์มีปัญหาก็มีระบบสำรองหรือออฟไลน์ หรือที่เรียกว่า แบล็คลิสออฟไลน์ ในการตรวจแบบแมนนวลหรือระบบออฟไลน์ในการตรวจแต่อาจจะต้องใช้เวลามากขึ้น.-413-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง