แจ้งความนักท่องเที่ยวจีนยิงหนังสติ๊กในสวนสัตว์เปิดเขาเขียว

ชลบุรี 21 ต.ค. – หัวหน้างานรักษาความปลอดภัยสวนสัตว์เปิดเขาเขียว แจ้งความดำเนินคดีนักท่องเที่ยวจีนยิงหนังสติ๊กในสวนสัตว์ พร้อมทำหนังสือถึงทุกบริษัททัวร์ ให้ดูแลคุมเข้มลูกทัวร์ ห้ามทำร้ายรังแกสัตว์


จากกรณีมีผู้ใช้บัญชี TikTok รายหนึ่งโพสต์คลิปวิดีโอ ขณะไปเที่ยวสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี แต่พบนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งใช้หนังสติ๊กยิงภายในสวนสัตว์ พร้อมระบุข้อความว่า “ไม่น่ารักเลยนะคะ” จนกลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์อย่างมาก

หลังเกิดเหตุ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว กล่าวว่า ได้เห็นภาพพร้อมข้อความดังกล่าวแล้ว ซึ่งในคลิปยังไม่เห็นว่ายิงอะไร ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ หลังจากนี้ทางสวนสัตว์ฯ ได้มีแนวทางดำเนินการ คือ ทำหนังสือถึงบริษัททัวร์เกี่ยวกับเรื่องนี้ และทำหนังสือขอคลิปต้นทาง เพื่อนำมาประกอบการแจ้งความดำเนินคดี พร้อมขอให้นักท่องเที่ยวมีมารยาทในการเที่ยวชมสวนสัตว์ ไม่ขว้างปาสิ่งของใส่สัตว์ เพราะพวกเขาอาจบาดเจ็บได้ ไม่ตะโกนเสียงดัง อยากให้ทุกคนรักและเอ็นดูน้องๆ เหมือนลูกหลานตัวเอง เพราะพวกเขาคือสิ่งมีชีวิต รู้สึกและรับรู้ได้เหมือนคนทั่วไป ที่สำคัญต้องเคารพกติกาของสถานที่ ทั้งนี้ ทางสวนสัตว์ฯ ได้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้รอบส่วนแสดงตามจุดต่างๆ รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์ในช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก หากพบว่ามีการล่วงละเมิดต่อสัตว์ จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด


ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (21 ต.ค.) ที่ สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายกฤตพัส อินทิปัญญา หัวหน้างานรักษาความปลอดภัยสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ให้เข้าแจ้งความดำเนินคดี หลังตรวจสอบคลิปเบื้องต้นพบว่า คนที่ใช้หนังสติ๊กยิงในสวนสัตว์ฯ เป็นหญิงนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยเมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวในสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ถ่ายคลิปวิดีโอกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน และผู้นำทัวร์ บริเวณหุบเสือป่า ถือหนังสติ๊กและยิงออกไปโดยไม่ทราบเจตนาในการยิงแน่ชัด แต่ทั่วทั้งบริเวณสวนสัตว์ฯ มีลิงอาศัยอยู่อย่างอิสระ ซึ่ง ผอ.สวนสัตว์เปิดเขาเขียว เกรงว่าอาจมีนักท่องเที่ยวกระทำการอันเป็นความผิดต่อสัตว์ป่าในสวนสัตว์ฯ จึงมอบหมายให้มาแจ้งความกับตำรวจ สภ.ศรีราชา ไว้ในเบื้องต้นก่อน ส่วนข้อหา ทางตำรวจจะต้องมีการหารือร่วมกับสวนสัตว์ฯ อีกครั้งว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดใดบ้าง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จะส่งหนังสือไปยังบริษัททัวร์ที่นักท่องเที่ยวหญิงคนดังกล่าวเข้ามาเที่ยว เพื่อติดตามตัวมาให้ข้อมูลรายละเอียดต่างๆ อีกครั้ง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”