ภูเก็ต 23 ก.ย.-รถพ่วง 18 ล้อบรรทุกเสาเข็มเบรกแตก พุ่งชนระเนระนาดในอุโมงค์ดาราสมุทร จ.ภูเก็ต รถเสียหาย 10 คัน บาดเจ็บ 4 คน คนไทย 3 คนและชาวมาเลเซีย 1 คน
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 23 กันยายน 2568 ศูนย์วิทยุพิทักษ์วิชิตได้รับแจ้งเหตุรถชนกันหลายคันภายในอุโมงค์ทางลอดแยกดาราสมุทร ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต มีรถได้รับความเสียหายจำนวนมากและมีผู้บาดเจ็บ
พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง ผกก.สภ.วิชิต พร้อมด้วย พ.ต.ท.วุฒิวัฒน์ เลี้ยงบุญจินดา รอง ผกก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร รีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบการจราจรติดขัดอย่างหนัก รถไม่สามารถผ่านอุโมงค์ได้ทั้ง 2 เลน
เบื้องต้นตรวจสอบพบรถชนกันเสียหายรวม 10 คัน มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย อาการแน่นหน้าอก เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตแล้ว ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงในการเคลื่อนย้ายรถออกจากพื้นที่ เพื่อเปิดการจราจรให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถพ่วงสิบแปดล้อบรรทุกเสาเข็ม วิ่งมาจากจังหวัดระนอง เพื่อไปส่งที่หาดในหาน ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต ขณะมาถึงทางลงอุโมงค์ รถเกิดเบรกแตก คนขับพยายามบังคับชนแบริเออร์คอนกรีตและผนังภายในอุโมงค์เพื่อหยุดรถ แต่เนื่องจากทางลาดชันทำให้รถพุ่งชนรถที่อยู่ด้านหน้าและรถที่ขับสวนมาหลายคันจนได้รับความเสียหาย
นายมานะ น้อยเกิด ผู้เห็นเหตุการณ์ และรอดชีวิตจากอุบัติเหตุเล่านาทีชีวิตว่า ตัวเองขับรถมาจากทาง ห้าแยกฉลองเตรียมจะกลับบ้านที่อำเภอถลางเมื่อมาถึงในอุโมงค์เห็นรถบรรทุกเสาเข็มเบรคแตกจนทำให้รถที่ขับตามหลังมา ชนต่อๆกันตัวเอง ส่วนตัวเขารอดมาได้แต่หวุดหวิดเพราะรถเก๋ง คันที่ใกล้เขาที่สุดถูกชนหมุนไปชนกับแท่งแบริเออร์ และหยุดอยู่ตรงนั้น ก่อนที่จะพุ่งมาชนรถของเขาแบบเฉียดฉิวเขาเชื่อว่าสาเหตุที่รอดมาได้เป็นเพราะแขวนหลวงปู่ทวดรุ่นแรกที่ช่วยคุ้มครองทำให้ตัวเขาไม่ได้รับบาดเจ็บและรถยนต์ไม่ได้เสียหายเลยแม้แต่น้อย
ขณะที่คนขับรถแท็กซี่ รายนี้รอดชีวิตมาได้แบบหวุดหวิดแต่รถยนต์พังเสียหายยับทั้งคันละว่าเขาขับรถมาจากหาดราไวย์เตรียมจะไปส่งผู้โดยสารชาวมาเลเซียที่อำเภอถลางเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุตัวเขาเองไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจู่ๆรถก็ถูกชนท้ายและรถของเขาก็หมุนไปชนกับแท่งแบริเออร์หลายรอบมากโชคดีที่รถไม่ได้พลิกคว่ำแต่สภาพพังยับทั้งคันตัวเขาเองไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อยส่วนผู้โดยสารชาวมาเลเซียได้รับบาดเจ็บที่แขนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ทั้งนี้ ตำรวจได้ควบคุมตัวคนขับรถพ่วงไปสอบสวนข้อเท็จจริง ก่อนดำเนินการแจ้งข้อหาตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย