ชัวร์ก่อนแชร์ : 4 เหตุผลที่ควรเลิกดื่มน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาล จริงหรือ ?

บนสื่อสังคมออนไลน์แชร์เตือน 4 เหตุผลที่ควรเลิกดื่มน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาล มีทั้งทำให้ลำไส้แย่ลง เพิ่มอัตราภาวะหัวใจหยุดเต้น เสี่ยงไตบกพร่อง ฟันผุ กระดูกพรุน และกระดูกเสื่อมก่อนวัย จริงหรือ ?


🎯 ตรวจสอบข้อเท็จจริงและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ อาจารย์ ดร.พิมพ์อร สุขแล้ว อาจารย์ประจำสาขาอาหาร โภชนาการ และการกำหนดอาหาร ภาควิชาคหกรรมศาสตร์ คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

น้ำอัดลมไม่มีน้ำตาล (Sugar Free)ใส่สารให้ความหวานที่ใช้แทนน้ำตาล (Artificial Sweetener Sugar Substitute) แต่ไม่ให้พลังงาน


การศึกษาในมนุษย์ส่วนใหญ่เป็นการศึกษาระยะสั้นและยังไม่พบผลเสียที่น่ากังวล จึงยังมีการใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลได้ แต่ต้องดูผลการศึกษาระยะยาวต่อไป

เหตุผลข้อ 1 : สารให้ความหวานแทนน้ำตาล จะทำลายแบคทีเรียในลำไส้ของคนเรา ส่งผลให้สุขภาพลำไส้แย่ลงได้ เสี่ยงต่อภาวะการดื้ออินซูลิน เพิ่มความเสี่ยงเป็นเบาหวาน

เรื่องนี้มีงานวิจัยจริง ๆ ว่าการกินสารให้ความหวานจะทำให้แบคทีเรียในลำไส้มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งบางอย่างอาจจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี แต่บางอย่างอาจจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ดี เช่น ซูคราโลส (Sucralose) และแซ็กคาริน (Saccharin) 2 ตัวนี้ มีรายงานว่าถ้าใช้ระยะยาวและปริมาณมากจะทำให้แบคทีเรียในลำไส้เพิ่มจำนวนตัวไม่ดีมากขึ้น แต่บางตัวก็เป็นผลดีไปเป็นพรีไบโอติก (Prebiotic) ก็คืออาหารของจุลินทรีย์ที่ดี น้ำตาลสายสั้น (Oligosaccharides) รวมถึงน้ำตาลหล่อฮั่งก้วย (monk fruit) ด้วย


เสี่ยงต่อภาวะการดื้ออินซูลิน เพิ่มความเสี่ยงเป็นเบาหวาน จริง ๆ ไม่ใช่ทางตรง เพราะสารให้ความหวานแทนน้ำตาลไม่ได้ให้พลังงาน แต่มีงานวิจัย (ส่วนน้อย) ที่ไม่ได้ทำในมนุษย์ บอกว่าสามารถไปทำให้อินซูลินหลั่งเพิ่มขึ้นได้ เรื่องนี้ทำให้การรับรู้และความเข้าใจของคนเปลี่ยนมากกว่า เพราะรับรู้ว่าดื่มน้ำอัดลมที่ไม่มีพลังงานทำให้รู้ว่าสามารถไปกินอย่างอื่นได้มากขึ้น ก็จะทำให้ดื่มน้ำหวานชนิดอื่น ๆ เพิ่มขึ้น หรือกินอาหารประเภทอื่นที่ส่งเสริมทำให้เกิดความอ้วน และนำไปสู่ภาวะดื้ออินซูลินในอนาคตได้

เหตุผลข้อ 2 : เพิ่มอัตราภาวะหัวใจหยุดเต้น และเสี่ยงโรคหัวใจเฉียบพลัน เพิ่มอัตราเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง

มีงานวิจัยที่บอกการเชื่อมโยงเรื่องการกินสารอาหารแทนความหวานแล้วเกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นและเสี่ยงโรคหัวใจเฉียบพลัน เพิ่มอัตราเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง แต่หลักฐานหรือกลไกต่าง ๆ ยังไม่มีบอกว่าเรื่องนี้จริงหรือไม่จริง

ดังนั้น คิดว่าอาจจะเป็นทางอ้อมทำให้อยากกินของหวานมากขึ้น เมื่อกินของหวานมากขึ้นก็ทำให้เกิดภาวะอ้วน ซึ่งความอ้วนนี่แหละเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

เหตุผลข้อ 3 : มีฟอสฟอรัสสูง ส่งผลโดยตรงกับการทำงานของไต เสี่ยงต่อการทำให้เกิดโรคไตบกพร่องได้ ซึ่งการเป็นโรคไตบกพร่องจะเป็นโรคเรื้อรังและอาจทวีความรุนแรงไปเรื่อย ๆ

เรื่อง “ฟอสฟอรัส” ไม่ได้จำกัดเฉพาะน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาล เพราะว่า “น้ำอัดลมมีน้ำตาล “และ “ไม่มีน้ำตาล” ถูกผลิตด้วยกรดฟอสฟอริก (Phosphoric acid) กรดฟอสฟอริกจะทำให้เกิดฟอสเฟต (Phosphate)

น้ำอัดลมมีฟอสเฟตเป็นส่วนประกอบมาก ดังนั้น คนที่ต้องดูแลเรื่องไตมาก ๆ ไม่แนะนำให้ดื่มน้ำอัดลมทุกชนิด (ทั้งที่มีน้ำตาลและไม่มีน้ำตาล)

ในคนที่สุขภาพดี (ปราศจากโรคเรื้อรังต่าง ๆ) มีการทำงานของไตปกติ ก็ไม่ต้องกังวล แต่สำหรับคนที่มีปัญหาหรือมีโรคเกี่ยวกับไต และต้องการดูแลสุขภาพไตให้มากที่สุด ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลม    

เหตุผลข้อ 4 : น้ำอัดลมมีกรดฟอสฟอริกสูง จะไปทำลายแคลเซียมในร่างกาย เช่น ในกระดูก ในฟัน ทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน ฟันผุ และกระดูกเสื่อมสภาพเร็วก่อนวัย

ในน้ำอัดลมมีกรดฟอสฟอริกสูง จะไปทำลายแคลเซียมในร่างกายจริง เพราะน้ำอัดลมจะไปเพิ่มการขับแคลเซียมออกจากร่างกาย ทำให้ปัสสาวะออกมากขึ้นจากการขับของกาเฟอีน จะไปกระตุ้นให้เกิดการปวดปัสสาวะบ่อย แร่ธาตุต่าง ๆ โดยเฉพาะแคลเซียมออกมาพร้อมกับน้ำปัสสาวะ อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีภาวะกระดูกพรุนได้

น้ำอัดลมไม่มีน้ำตาล ช่วย “ลด” และ “เลิก” การดื่มน้ำอัดลมที่มีน้ำตาล ได้จริงหรือ ?

เรื่องนี้อาจจะไม่จริงเสมอไป เพราะหลัก ๆ ก็คือ ทำให้ติดรสหวาน ถ้าจะให้ดีควรดื่มน้ำเปล่าดีที่สุด

การ “ติดรสหวาน” จะทำให้อยากกินอาหารหวานมากขึ้นตลอดเวลา

ถ้าจะให้ดีที่สุด ต้องทำควบคู่กับ “การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ” ด้วยการลดปริมาณน้ำตาลที่กิน

น้ำอัดลมเป็นอาหาร ไม่ใช่ยาพิษ ในคนปกติดื่มน้ำอัดลมได้ แต่ต้องควบคุมปริมาณ ลดปริมาณ ไม่แนะนำให้ดื่มน้ำอัดลมทุกวัน

ในภาพรวม ควรดูแลจัดการเรื่องอาหารและวิธีการกินอย่างเหมาะสม เพราะการดื่มน้ำอัดลมน้ำตาล 0 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้รับแคลอรีจากน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาล ไม่ได้หมายความว่าจะไปเพิ่มพลังงานหรือแคลอรีจากอาหารชนิดอื่น ๆ ได้อีก

ถ้าต้องการลดน้ำหนักจริง ๆ แนะนำให้คุมพลังงานที่ได้รับแต่ละวัน ด้วยการตัดอาหารที่มีพลังงานสูงและส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายออก

รู้จัก “น้ำตาลเทียม” สารทดแทนความหวานที่ไม่ให้พลังงาน หรือมีพลังงานต่ำ

“น้ำตาลเทียม” (Artificial sweetener)​​ ถูกนำมาใช้เพื่อเป็นทางเลือกให้คนที่รักษาสุขภาพ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวานและผู้ที่ต้องการควบคุมแคลอรี สารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่ควรรู้จัก (ข้อมูลจากเว็บไซต์ oryor.com) มีดังนี้

1. แอสพาร์เทม (Aspartame) เป็นสารให้ความหวาน ที่อนุญาตให้ใช้ในอาหาร เช่น ครีมเทียม หมากฝรั่ง ซีเรียล ขนมหวาน เครื่องดื่ม และผลไม้แห้ง เป็นต้น

ข้อดี : ไม่ทำให้เกิดภาวะฟันผุ และไม่กระตุ้นน้ำตาลในเลือดให้สูงขึ้น เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน

ข้อเสีย : เปลี่ยนแปลงโครงสร้างเมื่อเจอความร้อนสูงทำให้เกิดรสขมและความหวานลดลง ไม่ควรใช้ปรุงอาหารขณะร้อน

ข้อควรระวัง : ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่มีภาวะเฟนิลคีโทนยูเรีย (phenylketonuria) ดังนั้นให้สังเกตฉลากที่แสดงข้อความว่า“มี phenylalanine” และแสดงคำเตือน “ห้ามใช้ในผู้ที่มีภาวะเฟนิลคีโทนยูเรีย”

2. แซ็กคาริน (Saccharin) หรือขัณฑสกร เป็นสารให้ความหวาน ที่อนุญาตให้ใช้ในอาหาร เช่น เครื่องดื่มหรือผลิตภัณฑ์ที่มีนมเป็นส่วนผสม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่แต่งกลิ่นรส ผลไม้ดอง ไอศกรีม ขนมหวาน และหมากฝรั่ง เป็นต้น

ข้อดี : ทนต่อความร้อนสูงได้

ข้อเสีย : การได้รับแซ็กคารินในปริมาณสูงอาจทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดินท้องเสีย ปวดท้อง มีอาการง่วงซึม และอาจชักได้ ห้ามใช้ในผู้ที่แพ้แซ็กคาริน

ข้อควรระวัง : ระวังการใช้ในสตรีมีครรภ์

3. แอซีซัลเฟม โพแทสเซียม (Acesulfame potassium) เป็นสารให้ความหวาน ที่อนุญาตให้ใช้ในอาหาร เช่น อาหารประเภทของอบ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ของหวานที่แช่แข็งหรือแช่ตู้เย็น ซอสรสหวานต่าง ๆ และน้ำตาลโรยหน้าขนม เป็นต้น

ข้อดี : ไม่เกิดการสะสมในร่างกาย ถูกดูดซึมอย่างรวดเร็วและกำจัดออกมาในรูปเดิม สามารถใช้ได้ในสตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร และผู้ป่วยเฟนิลคีโทนยูเรีย

4. ซูคราโลส (Sucralose) มีความหวานใกล้เคียงกับน้ำตาลธรรมชาติ อนุญาตให้ใช้ในอาหาร เช่น ไอศกรีม ขนมขบเคี้ยว ซอส ลูกกวาด แยม และอาหารกระป๋อง เป็นต้น

ข้อดี : คงตัวดี ทนต่อความร้อนสูง ไม่ดูดความชื้น ละลายน้ำได้ดี ไม่มีรสขมติดลิ้น ใช้ปรุงอาหารและขนมทุกชนิดที่ต้องใช้ความร้อนสูงและไม่สูญเสียความหวาน

ข้อเสีย : อาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้ในบางคน

5. นีโอเทม (Neotame) ให้ความหวานมากกว่าสารตัวอื่น ๆ โดยให้ความหวานมากกว่าน้ำตาล 800-1,300 เท่า

ข้อดี : ใช้กับอาหารและเครื่องดื่มได้ทุกประเภท

น้ำตาลเทียม “ไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่จะต้องบริโภคประจำ” แต่เป็นเพียงทางเลือกหนึ่งเท่านั้น

ทุกคนสามารถควบคุมปริมาณน้ำตาลด้วยตนเอง นั่นคือขณะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารขอให้ “อ่านข้อมูลบนฉลากโภชนาการ” (Nutrition Information) สังเกตปริมาณน้ำตาล ซึ่งไม่ควรสูงเกิน 0.5 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค

มีบางบรรจุภัณฑ์อาจระบุข้อความว่า “Sugar Free” คือผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำตาล หรือมีปริมาณน้ำตาลน้อยกว่า 0.5 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค หรือมีรสหวานจากสารให้ความหวานที่ไม่ให้พลังงาน (0 แคลอรี) หรือ “Non-nutritive sweetener” คือ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารให้ความหวานที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ หรือน้ำตาลเทียมนั่นเอง

สัมภาษณ์โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์

เขียนและเรียบเรียงโดย คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล

ดูเพิ่มเติมรายการ ชัวร์ก่อนแชร์ : 4 เหตุผลที่ควรเลิกดื่มน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาล จริงหรือ ?

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

ชนกัน 10 คันรวด ทางลอดอุโมงค์แยกดาราสมุทร จ.ภูเก็ต

ภูเก็ต 23 ก.ย.-รถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกเสาเข็ม เบรกแตก พุ่งชนระเนระนาดในอุโมงค์ดาราสมุทร จ.ภูเก็ต รถเสียหาย 10 คัน บาดเจ็บ 4 คน เป็นคนไทย 3 คน และชาวมาเลเซีย 1 คน เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 23 กันยายน 2568 ศูนย์วิทยุพิทักษ์วิชิตได้รับแจ้งเหตุรถชนกันหลายคันภายในอุโมงค์ทางลอดแยกดาราสมุทร ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตำบลวิชิต อำเภอเมืองภูเก็ต มีรถได้รับความเสียหายจำนวนมากและมีผู้บาดเจ็บ พ.ต.อ.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง ผกก.สภ.วิชิต พร้อมด้วย พ.ต.ท.วุฒิวัฒน์ เลี้ยงบุญจินดา รอง ผกก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร รีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบการจราจรติดขัดอย่างหนัก รถไม่สามารถผ่านอุโมงค์ได้ทั้ง 2 เลน เบื้องต้นตรวจสอบพบรถชนกันเสียหายรวม 10 คัน มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย อาการแน่นหน้าอก […]

ผลตรวจยืนยัน “น้องข้าวต้ม” ลูกช้างป่าพลัดหลง โครงสร้างผิดปกติตั้งแต่เกิด

สุพรรณบุรี 23 ก.ย. – ทีมสัตวแพทย์สรุปผลตรวจ “น้องข้าวต้ม” ลูกช้างป่าเพศเมียแรกเกิดที่พลัดหลงจากแม่ในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พบความผิดปกติทางโครงสร้างร่างกายตั้งแต่เกิด เร่งวางแผนการดูแลรักษาและฟื้นฟูสุขภาพ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากทีมสัตวแพทย์สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และกลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าซึ่งร่วมกับคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ตรวจสุขภาพ “น้องข้าวต้ม” อย่างละเอียด โดยผลมีดังนี้ สัตวแพทย์สรุปว่า “น้องข้าวต้ม” มีภาวะโครงสร้างร่างกายผิดปกติตั้งแต่กำเนิดในลูกสัตว์ นอกจากนี้จากภาวะร่างกายที่อ่อนแอ จำเป็นต้องเอาตัวรอด รวมถึงความพยายามช่วยประคับประคองโดยฝูงทำให้เกิดการบาดเจ็บมากขึ้น เบื้องต้นทีมสัตวแพทย์ได้ฉีดยาลดปวดและลดอักเสบให้แล้ว พร้อมวางแผนรักษาตามอาการระยะยาว โดยเน้นการให้อาหารและเสริมโภชนาการควบคู่กับการทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้ลูกช้างป่าสามารถยืนและเคลื่อนไหวได้ในอนาคต หากอาการไม่ฟื้นตัวดีเท่าที่คาด จะตรวจ X-ray และ Ultrasound ซ้ำอีกครั้ง ลำดับเหตุการณ์การช่วยเหลือลูกช้างป่าตัวนี้ • 21 ก.ย. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงูได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบลูกช้างเพศเมียนอนอยู่เพียงลำพังในสภาพอ่อนแรงและบาดเจ็บที่ขาหลัง จึงรีบประสานทีมสัตวแพทย์จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เข้าช่วยเหลือและเคลื่อนย้ายมาดูแลที่ทำการอุทยานฯ โดยเบื้องต้นได้ป้อนน้ำข้าวต้มเพื่อให้พลังงาน […]

ทหารเขมรเข้าใกล้รั้วภูผี ฝ่ายไทยเตือน แต่เขมรยิงปืนขึ้นฟ้า

ศรีสะเกษ 23 ก.ย.-แม่ทัพภาค 2 เผยได้รับรายงานเหตุทหารเขมรเข้าใกล้เขตรั้วลวดหนามพื้นที่ภูผีแล้ว ฝ่ายไทยเตือน แต่เขมรยิงปืนขึ้นฟ้า ก่อนถูกตอบโต้จนต้องล่าถอยออกไป ยันติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด จากกรณีมีการเผยแพร่ข่าวเหตุยิงปะทะในพื้นที่ภูผี ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.30 น. ตนได้รับรายงานเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทยได้ตรวจพบทหารกัมพูชามีลักษณะท่าทางจะเข้ามาในอธิปไตยไทยใกล้กับเขตรั้วลวดหนาม เจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทยจึงได้แจ้งเตือน ทำให้ทหารกัมพูชาใช้อาวุธปืนเล็กประจำกายยิงขึ้นฟ้า เจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทยจึงยิงตอบโต้ไป กระทั่งทหารกัมพูชา ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจำนวน 2-3 นาย ได้ล่าถอยกลับไป ขณะนี้ยืนยันว่า เหตุการณ์ปกติ และกองทัพภาคที่ 2 มีการตรวจเฝ้าระวังทหารกัมพูชาที่รุกล้ำและลักลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิด ซึ่งเรามีมาตรการในการดูแลตรงนี้อยู่แล้วอย่างใกล้ชิด.-313.-สำนักข่าวไทย

ตร.จราจร นำส่งอวัยวะ ถูกรถพุ่งชน

23 ก.ย. – รถแท็กซี่พุ่งชนตำรวจจราจรขณะขี่จยย.นำส่งอวัยวะ บริเวณแยกสวนมิสกวัน กรุงเทพฯ ตำรวจบาดเจ็บที่ขาขวาและข้อมือ พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา เปิดเผยว่าช่วงเที่ยงวานนี้เกิดเหตุผู้ขับรถแท็กซี่ ไม่ชะลอความเร็วเพื่อหยุดรถเมื่อสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีแดง ประกอบกับมีขบวนรถของตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริที่เปิดไฟสัญญาณฉุกเฉินขณะปฏิบัติภารกิจนำส่ง “ปอด” จากจังหวัดชลบุรี ไปยังโรงพยาบาลศิริราช ทำให้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนบริเวณแยกสวนมิสกวัน กรุงเทพฯ เป็นเหตุให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บที่ขาขวาและข้อมือ โชคดีรถแท็กซี่ไม่เฉี่ยวชนกับรถพยาบาลที่บรรทุกอวัยวะ จึงสามารถนำส่ง “ปอด” ให้ถึงมือแพทย์ได้ทันเวลา จึงขอเน้นย้ำไปยังผู้ขับขี่ว่า “เมื่อเห็นสัญญาณไฟและเสียงไซเรน โปรดให้ทาง” ไม่ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร เพื่อรักษากฎหมายและช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์.-สำนักข่าวไทย