เปิดปฏิบัติการทลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดผิวสี

กทม. 19 ม.ค.- ตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดปฏิบัติการ Operation Mouse Hunt 2 ทลายเครือข่ายกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดผิวสี ที่แฝงตัวค้ายาเสพติดในประเทศ


เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจปราบปรามยาเสพติด หรือ บช.ปส. เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น Operation Mouse Hunt 2 ซึ่งเป็นปฏิบัติการตาม นโยบายทลายเครือข่ายกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดผิวสีที่แฝงตัวค้ายาเสพติดในประเทศ โดยปฏิบัติการรอบนี้ได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นแมนชั่น 2 จุด ในพื้นที่ย่านอุดมสุข เขตพระโขนง เพื่อจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 11 หมายจับ ผู้ต้องหา 10 ราย จากการตรวจค้น พบชาวต่างชาติผิวสีพักอาศัยอยู่ตามห้องต่าง ๆ รวม 14 คน จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 5 คน แบ่งเป็นสัญชาติไนจีเรีย 4 รายและสัญชาติไอเวอรีโคส 1 ราย ในข้อหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษแบบประเภท 1 ส่วนผู้ต้องหาอีก 5 หมายที่เหลือ กำลังติดตามตัวมาดำเนินคดี พร้อมทั้งสามารถควบคุมตัวผู้เข้าข่ายกันทำความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 จำนวน 9 ราย ประกอบไปด้วย อยู่ในประเทศแบว overstay 3 คน หลบหนีเข้าเมือง 1 คน และไม่พบหนังสือเดินทางหรือเอกสารประจำตัวอีก 5 ราย ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำตัวไปตรวจสอบสัญชาติและดำเนินคดีกับตำรวจ ตม. ต่อไป

นอกจากนี้ยังพบว่า 1 ใน 9 ผู้เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายคนเข้าเมือง พบว่าครอบครองธนบัตรดอลลาร์สหรัฐปลอมจำนวนมาก คาดว่าอาจจะมีมูลค่าหลายแสนดอลลาร์สหรัฐ ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเดินทาง ภายในห้องพัก 205 โดยอ้างว่า ธนบัตรดังกล่าวเพื่อนนำมาฝากไว้ จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าธนบัตรปลอมเหล่านี้เป็นเงินดำที่นำสารเคมีมาเคลือบกระดาษปริ้นธนบัตรปลอม เพื่อให้ดูเหมือนเป็นธนบัตรจริง อันเป็นวิธีการที่กลุ่มอาชญากรรมแอฟริกาใช้เป็นการทั่วไป ยังไม่เคยพบวิธีการแบบนี้ในประเทศไทย อีกทั้งยังพบกระดาษเคมีที่มาเคลือบธนบัตรปลอม ทองคำปลอม ทั้งหมดจะต้องนำไปตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดต่อไป และอาจจะพิจารณาดำเนินคดีปลอมธนบัตรต่างชาติด้วย


สำหรับขบวนการดังกล่าวนั้น มีพฤติการณ์จับกลุ่มกันยืนบริเวณทางเท้าตามแหล่งท่องเที่ยวย่านนานาและสอบถามผู้ที่สัญจรผ่านไปมาว่า ต้องการยาเสพติดไหม พร้อมทั้งจำหน่ายยาเสพติดจำพวกไอซ์และโคเคน สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวในพื้นที่ ตำรวจปราบปรามยาเสพติดจึงได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน โดยให้สายลับพรางตัวเป็นนักท่องเที่ยว ทำทีติดต่อล่อซื้อยาเสพติด จนสามารถพิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำความผิดและออกหมายจับได้

พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. เผยว่า ปฏิบัติการนี้สืบเนื่องจาก Operation Mouse Hunt ครั้งที่ 1 เมื่อเดือนตุลาคม 2566 ตอนนั้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติผิวสีได้ 7 รายและยึดทรัพย์สินมากกว่า 2.5 ล้านบาท ต่อมาได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนติดตามพฤติกรรมของชาวต่างชาติผิวสีที่เป็นเครือขายผู้ค้ารายย่อย จำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวย่านสุขุมวิท จนก่อความรำคาญแก่นักท่องเที่ยวในพื้นที่ ซึ่งทางตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้ติดตามพฤติการณ์ของขบวนการนี้มาตั้งแต่ต้นปี 2566 จนสามารถออกหมายจับผู้กระทำความผิดได้ 10 ราย

โดยปฏิบัติการทั้งหมดเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีในการใช้ทุกมาตรการทางกฎหมายทำลายเครือข่ายยาเสพติดและยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดเป็นของแผ่นดิน ทางตำรวจปราบปรามยาเสพติดนอกจากจะดำเนินการจับกุมขบวนการยาเสพติดภายในประเทศแล้ว ยังดำเนินการสืบสวนสอบสวนจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดชาวต่างชาติที่ลักลอบมากระทำความผิดในประเทศไทย


หลังจากนี้จะต้องสืบสวนสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมทางคดีทั้งในเรื่องของเส้นทางการเงิน และสอบสวนหาความเชื่อมโยงกับบรรดาแฟนชาวไทยของกลุ่มผู้ต้องหาที่คาดว่าน่าจะเป็นนางนกต่อคอยให้การช่วยเหลือในเรื่องที่พัก และติดตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 5 รายมาดำเนินคดี

ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าผู้ต้องหากลุ่มนี้ เข้ามาในราชอาณาจักรตั้งแต่ปี 2565 โดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยวเข้ามา ก่อนจะมีการเปลี่ยนเอกสารการเดินทางที่ประเทศต้นทางเป็นวีซ่านักศึกษา ส่วนใหญ่อายุเฉลี่ยประมาณ 30 ถึง 35 ปี และยังพบว่ามีบางส่วนอาจมีพฤติการณ์เข้าข่ายเป็นสแกมเมอร์หลอกลวงคนไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งจะต้องมีการขยายผลเรื่องนี้อีก. 413.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง