เปิดปมสังหารโหดหั่นศพ “น้องแอ๋ม”

เชียงราย 31 พ.ค. – คดีฆ่าหั่นศพน้องแอ๋ม แม้ตำรวจจะทยอยจับตัวผู้ต้องหาได้หลายคน แต่ยังไม่สามารถระบุปมสังหารได้ ทีมข่าวสำนักข่าวไทยจะพาไปย้อนรอยดูเส้นทางหลบหนีและปมสังหาร


ย้อนรอยเส้นทางหนีทีมฆ่าหั่นศพ “แอ๋ม” สาวคาราโอเกะขอนแก่น ทีมข่าวสำนักข่าวไทย ไปถึงท่าขี้เหล็ก เมียนมาร์ ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย จุดแรกที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกระบุว่า กวิตา หรือเอิร์น ราชดา ปรียานุช หรือเปรี้ยว โนนวังชัย อภิวันท์ หรือ แจ็ส สัตยบัณฑิต ตัวละครที่เพิ่มมาล่าสุด ทั้ง 3 คนเป็นเพื่อนกัน และตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพแอ๋มที่คาราโอเกะแห่งนี้ ทั้ง 3 คนหลบหนีมาทำงาน ร้านเป็นอาคารสูงหลายชั้น ตั้งอยู่บนถนนสายท่าขี้เหล็ก-เชียงตุง ห่างจากพรมแดนไทย 6 กิโลเมตร 


จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ทั้ง 3 คน ขอหนังสือผ่านแดนชั่วคราว เดินทางออกจากแม่สาย เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ก่อนศาลขอนแก่นจะอนุมัติหมายจับเปรี้ยวและเอิร์น  

ทั้ง 3 คนนั่งรถกระบะสีขาว ซึ่งแหล่งข่าวระบุว่าเป็นของร้านคาราโอเกะฝั่งท่าขี้เหล็ก หลังขอผ่านแดนชั่วคราวสามารถอยู่ในเมียนมาร์ได้ 7 วัน นั่นหมายความว่าหากพ้นวันพรุ่งนี้ (1 มิ.ย.) ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จะเป็นคนหลบหนีเข้าเมือง สามารถจับกุมได้ทันทีที่เจอ


ข้อมูลของชุดสืบสวนระบุว่า เมื่อ 27 พฤษภาคม ตำรวจนอกเครื่องแบบเข้าไปตรวจสอบที่ร้านคาราโอเกะซึ่งมีเจ้าของเป็นคนไทย พนักงานอ้างว่าทั้ง 3 คนออกไปกับลูกค้า แต่พบว่าทั้งหมดหลบไปเมืองยอนใหม่ ห่างจากท่าขี้เหล็กประมาณ 100 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มว้า 

สำหรับแนวทางการสืบสวน ติดตามจับกุมคนร้าย ชุดสืบสวนแกะรอยจากความขัดแย้งของแอ๋มกับกลุ่มผู้ต้องหา สอบสวนพยาน 9 ปาก พบผู้ตายขัดแย้งส่วนตัวกับเปรี้ยวและเอิร์น เนื่องจากแอ๋มแจ้งตำรวจจับกุมสามีของเปรี้ยว หลักฐานสำคัญมาจากกล้องวงปิดที่ผู้ตายขึ้นรถยนต์ฮอนด้าซีอาร์วี ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เมื่อ 23 พฤษภาคม ชุดสืบสวนแกะรอยจนพบว่าทีมสังหารเช่ารถจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่ขอนแก่น ระหว่างวันที่ 21-23 พฤษภาคม ตรวจในรถพบเศษปูนซีเมนต์สำเร็จรูปที่ขอบประตูหลัง เส้นผม รอยนิ้วมือ และเสื้อผ้า รอยคล้ายเลือด ที่สุดจึงรู้ตัวผู้ต้องหา

ก่อนจับกุมตัวจิดารัตน์ พรหมคุณ หรือ เบนซ์ เป็นคนแรก ก่อนให้เฟซไทม์กับ วศิน นามพรม สามี จนรู้แหล่งกบดานนำไปสู่การจับกุมที่เวียงจันทน์ สปป.ลาว ตรวจสอบเฟซบุ๊กส่วนตัวของเปรี้ยวพบยังโพสต์เฟซบุ๊กต่อเนื่อง ล่าสุดโพสต์วานนี้ และได้ใช้ภาพหน้าปกเฟซบุ๊กเป็นรูปตุ๊กตาชัคกี้ ทั้งยังไลฟ์สดฝ่ายเฟซบุ๊กก่อนสังหารแอ๋ม 

ขณะที่นักจิตวิทยามมองว่าการชื่นชอบตุ๊กตาชัคกี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่นับว่าเปราะบาง สำหรับกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงการใช้ความรุนแรง

ถึงแม้จะทยอยจับผู้ต้องหาได้ แต่ปมการสังหาร แอ๋ม แท้จริงแล้วเป็นเรื่องความขัดแย้ง ส่วนบุคคล หรือมีมูลเหตุอันเนื่องมาจากขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง