กรุงไทยชี้ กนง. ปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อให้อัตราเงินเฟ้อกลับมาอยู่ในกรองเป้าหมาย

สาธารณรัฐเอสโตเนีย 30 มี.ค. -กรุงไทยชี้ การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของที่ประชุมกนง. อีกร้อยละ 0.25 ต่อปีเป็นการส่งผ่านการขึ้นดอกเบี้ยไปสู่ระบบการเงิน เพื่อให้อัตราเงินเฟ้อกลับมาอยู่ในกรอบเป้าหมายในช่วงกลางปีนี้ตามแผน สำหรับกรุงไทยกำลังพิจารณาอัตราส่งผ่านตามสัญญาณของธปท. โดยคำนึงถึงการบริหารจัดการด้านสภาพคล่องและการไหลเวียนของเงิน ที่สำคัญคือ การดูแลช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางซึ่งอาจจะซ่อนอยู่ในหลายsegment โดยเฉพาะรายย่อยและเอสเอ็มอี 


นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทยกล่าวถึง กรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 1.50 เป็นร้อยละ 1.75 ต่อปี โดยนายผยงระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของกนง. ครั้งนี้ แสดงถึงความต้องการส่งผ่านการขึ้นดอกเบี้ยไปสู่ระบบการเงิน เพื่อให้อัตราเงินเฟ้อกลับมาอยู่ในกรอบเป้าหมายในช่วงกลางปีนี้ตามแผน ซึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของภาคธนาคารต้องพิจารณาถึงกลไกตลาด ควบคู่กับการดูแลช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ที่ยังคงต้องเฝ้าดูและติดตามสถานการณ์ต่อไป 

สำหรับธนาคารกรุงไทย รับทราบถึงสัญญาณของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และคงพิจารณาส่งผ่านอัตราดอกเบี้ย เพราะอีกด้านเราต้องบริหารจัดการด้านสภาพคล่อง และดูเรื่องการไหลเวียนของเงิน แต่จะส่งผ่านในอัตราเท่าใดนั้น ต้องดูกลไกตลาดเป็นหลัก เพราะแต่ละธนาคารการไหลของสภาพคล่องไม่เหมือนกัน โดยการปรับอัตราดอกเบี้ยต้องดูทั้งเงินฝากและเงินกู้ผสมผสานกัน ดังนั้นการปรับขึ้นดอกเบี้ยต้องดูโครงสร้างทางการเงิน


ทั้งนี้ ธนาคารให้ความสำคัญกับการดูแลช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ซึ่งอาจจะซ่อนอยู่ในหลาย segment โดยเฉพาะรายย่อย และเอสเอ็มอี ซึ่งส่วนใหญ่ใช้สินเชื่อส่วนบุคคลในการทำธุรกิจ นอกจากนี้ แม้ว่าโดยภาพใหญ่ ลูกค้าบริหารจัดการด้านสภาพคล่อง และดูเรื่องการไหลเวียนของเงิน ส่วนใหญ่จะมีภูมิคุ้นกันมากกว่า แต่ต้องดูลึกไปในแต่ละกลุ่มว่ามีกลุ่มเปราะบางซ่อนอยู่หรือไม่ โดยแต่ละแบงก์ต้องเข้าไปดูแลลูกค้าที่เป็นกลุ่มเปราะบางของตัวเอง ซึ่งเมื่อต้นทุนดอกเบี้ยขึ้น ต้องดูว่ากิจการและรายได้ของลูกค้าทยอยปรับขึ้นตามหรือไม่ เป็นจุดที่ต้องประคับประคอง .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง