กรุงเทพฯ 16 ต.ค. – กนง.ลดดอกเบี้ย ดัน SET Index พุ่งกว่า 20 จุด เลขาฯ กนง.เชื่อจะช่วยลดภาระหนี้-เพิ่มศักยภาพในการชำระหนี้ของลูกหนี้ให้ดีขึ้น ยันไร้แรงกดดันจากการเมือง
ภายหลังการแถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี จากร้อยละ 2.50 เป็นร้อยละ 2.25 ต่อปี โดยให้มีผลทันที เนื่องจากมองว่าจุดยืนของนโยบายการเงินที่เป็นกลางยังเหมาะสมกับแนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ
นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล เลขานุการ กนง. เปิดเผยเพิ่มเติมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ ต่อมุมมองภาพรวมเศรษฐกิจระหว่างรัฐบาล และ ธปท. ว่ามีการหารือกับรัฐบาลมาโดยตลอด เพื่อรับฟังข้อมูล ความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องการ โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ ได้ดูจากการปรับสมดุลเสถียรภาพทางการเงินและหนี้ครัวเรือน เพื่อให้ภาระหนี้สอดคล้องกับรายได้ของประชาชน ซึ่งรอบนี้มองเห็นโอกาสในการปรับสมดุลได้ จึงสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ ยืนยันไม่ได้เป็นแรงกดดันทางด้านการเมือง เพียงแต่เป็นการรับฟังข้อมูล ข้อคิดเห็นที่สำคัญและเกี่ยวข้องต่อการดำเนินนโยบาย
ส่วนเป้าหมายเงินเฟ้อ ยังต้องหารือกัน ซึ่งต้องเป็นการดูแลเงินเฟ้อในระยะยาว ซึ่งเงินเฟ้อของไทยมีความผันผวนสูง มาจากทั้งอุปทานและปัจจัยภายนอก กรอบเงินเฟ้อที่ดีจะต้องยืดหยุ่น สอดคล้องกับความผันผวน และไม่อยู่ในระดับสูงจนเกินไป ซึ่งจะช่วยสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ ขณะเดียวกันก็ยังไม่เห็นสัญญาณของภาวะเงินฝืดด้วยเช่นกัน
มองว่าการการปรับลดอัตราดอกเบี้ย จะช่วยลดภาระหนี้ ช่วยเพิ่มศักยภาพในการชำระหนี้ของลูกหนี้ให้ดีขึ้น ขณะเดียวกัน สัญญาณการเร่งก่อหนี้ใหม่ จากพัฒนาการที่ผ่านมา ก็คาดว่าไม่น่ามีความเสี่ยงมากนัก คณะกรรมการจึงชั่งน้ำหนักภาระหนี้ที่ลดลง และกระบวนการการปรับลดหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีน่าจะเกิดได้ในช่วงนี้ พร้อมย้ำว่าการประเมินเศรษฐกิจไม่เปลี่ยนแปลงจากที่เคยประเมินไว้ พร้อมคาดหวังการลดดอกเบี้ยครั้งนี้จะส่งผ่านไปยังประชาชน แต่ทั้งนี้จะต้องติดตามต่อไป อย่างไรก็ตาม จะยังไม่ลดดอกเบี้ยหลังจากการลดดอกเบี้ยครั้งนี้ แต่ต้องหยุดเพื่อรอดูสถานการณ์ต่อไป
สำหรับการแถลงผลการประชุม กนง.ในครั้งนี้ถือว่าเซอร์ไพรส์ตลาด โดยภายหลังการแถลง ทำให้ดัชนี SET ดีดตัวพุ่งขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดของวัน (High) ที่บริเวณ 1,485.51 จุด หรือ +20.48 จุด
นายกรภัทร วรเชษฐ์ หัวหน้าสายงานวิจัย บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน)ให้มุมมองบวกต่อมติ กนง. ดังกล่าว ต่อสัญญาณ นโยบายการเงิน-การคลัง ที่เริ่มสอดประสานอย่างที่ตลาดคาดหวัง สร้างสัญญาณบวกต่อการกลับมาขยายตัวเศรษฐกิจ มีส่วนช่วยทั้งฝั่งเศรษฐกิจ ลดภาระดอกเบี้ยประชาชน หนุนโอกาสเห็นภาพขยายตัวสินเชื่อที่กลับมาหนุนเศรษฐกิจ นอกจากนี้ จุดยืนของ ธปท. ที่มองการลดครั้งนี้ ไม่ใช่การเข้าสู่ Easing Cycle ทำให้เชื่อว่าระดับหนี้ครัวเรือนยังบริหารจัดการได้
สำหรับมุมมองต่อเศรษฐกิจระยะถัดไปที่ยังคงเดิม แม้มีปัจจัยเสี่ยงระดับมหภาคระยะหลังบ้าง เช่น สถานการณ์ตะวันออกกลาง รวมถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯ จีน ยังไม่แน่นอน ธปท. มองภายในมีปัจจัยบวกที่ช่วยสร้าง Upside Risk ชดเชยได้ โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐฯ และทำให้ Equity risk Premium ตลาดหุ้นไทยกว้างขึ้นถึง 3.62% ใกล้ +1SD ที่ 4%+/- จะทำให้ตลาดหุ้นเร่งขึ้น สู่ดัชนีเป้าหมายสิ้นปี 2024 ที่ 1540 จุด โดยประเมินทุกๆ 25 bps เป็น Upside ต่อ SET Index ราว 45-50 จุด.-516-สำนักข่าวไทย