กรุงเทพฯ 21 พ.ค. – ปลัด สธ. ห่วงใยแพทย์และบุคลากรที่ทำงานหนักพร้อมวางแนวทาง 4 ข้อเพิ่มคุณภาพแพทย์
พร้อมเร่งผลิตเติมในระบบให้เพียงพอกับภาระงานที่เพิ่มมากขึ้น
นพ.โสภณ เมฆธน
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)
ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับปัญหาความขาดแคลนแพทย์ของประเทศไทยว่า เป็นห่วง เห็นใจ และเข้าใจถึงความยากลำบากในการทำงานของแพทย์
และบุคลากรสาธารณสุขทุกคน พยายามทำงานเพื่อประชาชนให้ดีที่สุดภายใต้ทรัพยากรของประเทศที่มีอยู่อย่างจำกัด ผู้บริหารทุกคน ได้เร่งแก้ปัญหา
ทั้งการปฎิรูประบบบริการ แผนพัฒนากำลังคน เชื่อมั่นว่าระบบสุขภาพของประเทศจะดีขึ้น
มีความสมดุลระหว่างผู้ให้บริการกับผู้รับบริการ
เบื้องต้นวางแนวทางการแก้ปัญหาในอนาคต
4 ข้อดังนี้ 1. มอบผู้ตรวจราชการ
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลร่วมหารือจัดเวลาทำงานให้เหมาะสมตามสภาพของโรงพยาบาล
และจำนวนผู้ป่วยหรือปริมาณงาน 2.ให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลและผู้บริหารศูนย์แพทย์ศาสตร์ศึกษา ดูแลแพทย์จบใหม่
อย่าให้รู้สึกโดดเดี่ยว ช่วยให้คำแนะนำเมื่อมีปัญหา รวมทั้งร่วมแก้ปัญหา 3.เร่งรัดจัดทำระเบียบช่วยเหลือเบื้องต้นกับบุคลากรที่ได้รับผลกระทบจากการให้บริการและเสนอให้มีระเบียบเยียวยาช่วยเหลือ
และ 4.พัฒนาระบบฉุกเฉินให้มีแพทย์สาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉินดูแลในห้องฉุกเฉิน
“ปัญหาการขาดแคลนแพทย์มีมานาน และมีความพยายามที่จะแก้ไขปัญหามาโดยตลอด เมื่อ 20 ปีก่อน สัดส่วนแพทย์ 1 คนต้องดูแลประชากร
ถึง 5000 คน แต่ในบางพื้นที่ต้องดูแลถึง1:30,000 คน จึงเกิดโครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท โดยตลอด 23 ปีของโครงการฯ เพิ่มแพทย์เข้าสู่ระบบได้มากถึง 7,000 คน ทำให้ปัจจุบันสัดส่วนแพทย์ต่อประชากรในภาพรวมดีขึ้นเป็น 1 ต่อ 1,900 คน และบางพื้นที่อาจ 1:10,000 ซึ่งยังไม่เพียงพอตามภาระงานและจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้น ล่าสุดได้เพิ่มการผลิตแพทย์ ในโครงการฯจากปีละ 3,000 เป็นปีละ 3,200 คน คาดว่าใน 10 ปีข้างหน้าจะมีแพทย์ต่อประชากร 1 ต่อ 1250 คน” นพ.โสภณ กล่าว
นอกจากจะเพิ่มจำนวนแพทย์แล้ว
สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ คือ มาตรฐานการรักษา โดยเฉพาะในกลุ่มแพทย์จบใหม่ ซึ่งกระทรวงฯ
ได้ร่วมมือกับแพทยสภา ดูแลแพทย์กลุ่มนี้เป็นพิเศษ
กำหนดให้มีหลักสูตร “แพทย์เพิ่มพูนทักษะ”
เพื่อให้แพทย์จบใหม่ทุกคนในประเทศไทย ผ่านหลักสูตรนี้เป็นระยะเวลา 1 ปี
ภายใต้การกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์พี่เลี้ยงและอาจารย์แพทย์ นอกจากนี้ยังมีคณะกรรมการ ตรวจประเมินสถาบันและโรงพยาบาลที่ฝึกอบรมแพทย์กลุ่มนี้อย่างใกล้ชิดทั้งในระดับเขตสุขภาพ
และในระดับโรงพยาบาลที่มีองค์กรแพทย์ ร่วมกันดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แพทย์จบใหม่ทุกคนมีทักษะ ประสบการการณ์
ให้บริการประชาชนด้วยความมั่นใจ และจะร่วมหารือแพทยสภา ราชวิทยาลัย
และคณะแพทย์เพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ที่เหมาะสมต่อไป. –สำนักข่าว