กรมการปกครองเอาผิด“มูลนิธิเป็นต่อกรุ๊ป”

กระทรวงมหาดไทย 13 ก.พ.- กรมการปกครอง แจ้งความ สน.นางเลิ้ง เอาผิด “มูลนิธิเป็นต่อกรุ๊ป” จัดตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะนายทะเบียนมูลนิธิในเขตกรุงเทพมหานครตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบ “มูลนิธิเป็นต่อกรุ๊ป จำกัด” หลังกรมการปกครองพบไม่มีการจดทะเบียนตั้งเป็นมูลนิธิ เป็นเพียงการรวมกลุ่มกันของผู้บริหารที่รู้จักสนิทสนมกันในหลายบริษัทว่า ได้มอบหมายให้ นายรัฐวิช จิตสุจริตวงศ์ ผอ.ส่วนการสอบสวนคดีอาญา กรมการปกครอง พร้อมด้วยพนักงานฝ่ายปกครอง จากส่วนการสอบสวนคดีอาญา สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ไปร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีกับ มูลนิธิ เป็นต่อ กรุ๊ป จำกัด ที่ สน.นางเลิ้ง ในความผิดฐาน ใช้คำว่า “มูลนิธิ” ประกอบกับชื่อในดวงตราและเอกสารอื่นเกี่ยวกับธุรกิจ โดยมิได้มีการจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ เรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์เป็นเท็จ ต่อพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง
ส่วนหากจะมีความผิดอื่นใดเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ในกรณีนี้กรมการปกครองได้ประสานงานใกล้ชิดกับกองบังคับการปราบปรามแล้ว ซึ่งจะต้องทำการสอบสวนขยายผลต่อไป

นายสุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ตนได้ลงนามหนังสือถึงปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DEs) ภายหลังกระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ https:/www.pentorfoundation.com ซึ่งการกระทำของบุคคลที่แอบอ้างใช้คำว่า “มูลนิธิ” ผ่านเว็บไชต์ดังกล่าวข้างต้น อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายและเป็นการกระทำที่อาจทำให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่ากิจการนั้นเป็นมูลนิธิที่ได้จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ อาจเป็นการกระทำโดยทุจริตหรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญาตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 เพื่อกระทรวง DEs พิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยังย้ำว่า ให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการสำรวจ ตรวจสอบ และติดตามการดำเนินงานของมูลนิธิ สมาคม ทุกแห่ง ให้เป็นไปตามกฎหมาย และข้อบังคับของแต่ละแห่ง หากพบการกระทำความผิด ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ หากประชาชนมีเบาะแสการกระทำความผิด หรือหากสงสัยว่ามูลนิธิ สมาคมใด อาจเข้าข่ายกระทำความผิดในลักษณะต่าง ๆ ที่สร้างความเดือดร้อน หรือแอบอ้าง หรือทำให้สังคมเชื่อได้ว่าอาจนำไปสู่ความไม่เป็นปกติสุขของสังคม สามารถร้องเรียนผ่านสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 หรือแจ้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ณ ศาลากลางจังหวัด และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ณ ที่ว่าการอำเภอ ทั้ง 878 แห่งทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย