DSI เตือนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพปลอมหนังสือราชการ

กรุงเทพฯ 16 ธ.ค. – กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อกรณีมีหนังสือราชการส่งจากกรมสอบสวนคดีพิเศษปลอม เผยแพร่ในระบบอินเทอร์เน็ต หวั่นทำให้ประชาชนสับสนและเกิดความเสียหายต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ


กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ตรวจพบว่ามีการเผยแพร่เอกสารที่เป็นหนังสือราชการ (หนังสือภายนอก) ลับมาก ด่วนที่สุด ที่ ยธ 0807/1047 ลงวันที่ 15 ธันวาคม 2565 ระบุส่งจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนจิระ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ เรื่อง รอผลการสืบสวนและการดำเนินคดีจับกุมกลุ่มผู้ที่มีส่วนพัวพันกับคดีฟอกเงิน ระบุเนื้อหาเกี่ยวกับการสืบสวนเกี่ยวกับคดีฟอกเงิน และให้รักษาความลับของราชการ ลงนามโดย พลตำรวจตรี เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พร้อมมีตราประทับรูปครุฑ และระบุหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ ที่ท้ายหนังสือ มีหน่วยงานเจ้าของเรื่องคือ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โทรศัพท์ 02-219 3600 โทรสาร 02-219 390 นั้น

กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอชี้แจงว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารราชการปลอม ที่จัดทำขึ้นโดยยังไม่ทราบวัตถุประสงค์ แต่การเผยแพร่ดังกล่าวจะทำให้ประชาชนสับสนและเกิดความเสียหายต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้มีชื่อในเอกสาร และประชาชน รวมทั้งอาจเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 และความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และที่แก้เพิ่มเติมมาตรา 14 ในฐานะความผิดนำเข้าสู่คอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ซึ่งมีโทษจำคุกสูงถึง 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


ขณะที่นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งการให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว ดังนั้น จึงขอแจ้งเตือนไปยังผู้กระทำให้หยุดการดำเนินการ เพื่อมิให้ตนเองต้องตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา ทั้งนี้หนังสือราชการของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ถูกต้อง จะมีการบันทึกระบบย่อลิงค์ หรือ QR CODE ลงในหนังสือเพื่อให้สามารถสแกนและตรวจสอบย้อนกลับว่าเป็นเอกสารของกรมสอบสวนคดีพิเศษจริง หรือหากประชาชนมีข้อสงสัย สามารถโทรศัพท์มายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ สายด่วน 1202 (โทรฟรี) ในวัน เวลา ราชการ เพื่อตรวจสอบได้ และขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ระหว่างพัฒนาระบบการออกหมายเรียก และหนังสือเรียกตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 เพื่อให้สามารถตรวจสอบยืนยันผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศได้ เพื่อป้องกันปัญหาการแอบอ้างเอกสารราชการปลอมให้มีประสิทธิภาพ. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่