ปลัด สธ. แจงติดเชื้อโควิดซ้ำได้ ภูมิคุมกันช่วยลดรุนแรง

กรุงเทพฯ 18 พ.ย. – ปลัด สธ. แจงติดเชื้อโควิด ซ้ำได้ แต่ภูมิคุ้มกันจะช่วยลดความรุนแรงและเสียชีวิต แนะกลุ่มเสี่ยงรีบรับวัคซีนเข็มกระตุ้น ห่วงการติดเชื้ออาจเพิ่มขึ้นช่วงปลายปี


วันนี้ (18 พฤศจิกายน 2565) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงข้อมูลที่มีการเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียเรื่องการติดเชื้อโควิด-19 ซ้ำ เสี่ยงเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 2 เท่า และป่วยหนักมากกว่าเดิม 3 เท่า ว่า ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 แล้วสามารถติดเชื้อซ้ำได้ เนื่องจากภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติที่เกิดจากการติดเชื้อ หรือภูมิคุ้มกันที่ได้รับจากวัคซีนป้องกันโควิด-19 สามารถลดลงได้เมื่อระยะเวลาผ่านไป ดังนั้น การป้องกันการติดเชื้อที่ดี คือ การยังคงปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคล โดยเฉพาะการสวมหน้ากาก เมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ หรือมีผู้คนรวมตัวกันจำนวนมาก ล้างมือบ่อยๆ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีโอกาสติดเชื้อซ้ำ แต่เมื่อร่างกายเคยมีภูมิคุ้มกันแล้วก็จะช่วยลดความรุนแรงของโรคลง เห็นได้จากการที่ประเทศไทยมีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปแล้วกว่า 143 ล้านโดส และตั้งแต่การฉีดวัคซีนมีความครอบคลุมมากขึ้นสถานการณ์ ความรุนแรงของโรคโควิด-19 ก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง จนสามารถปรับลดจากโรคติดต่ออันตรายมาเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังได้

“จากข้อมูลสถานการณ์พบว่าผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาล ร้อยละของผู้ป่วยที่มีอาการหนัก มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีผู้ป่วยอาการหนัก 329 ราย อัตราครองเตียงระดับ 2-3 อยู่ที่ ร้อยละ 4.6 ถือว่าลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปรับเข้าสู่โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งขณะนั้นมีผู้ป่วยอาการหนัก 466 ราย ขณะที่ผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในสัปดาห์ที่ 45 (วันที่ 6-12 พฤศจิกายน 2565) มี 42 ราย เป็นกลุ่ม 608 ทั้งหมด และปัจจัยสำคัญคือ ไม่ได้รับวัคซีน ได้รับวัคซีนไม่ครบเข็มกระตุ้น รวมถึงรับเข็มกระตุ้นเกิน 3 เดือน” นพ.โอภาสกล่าว


นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า วัคซีนเข็มกระตุ้นจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดอาการรุนแรงและการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ได้ ยิ่งช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาว ประกอบกับประชาชนเริ่มผ่อนคลายการสวมหน้ากาก มีกิจกรรมรวมตัวจำนวนมากเนื่องจากเข้าใกล้เทศกาลช่วงปลายปี ทำให้ผู้คนมีโอกาสติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ซึ่งบางคนอาจจะติดเชื้อซ้ำได้ ดังนั้นผู้ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนเลยขอให้รีบมารับวัคซีนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุหรือกลุ่มเสี่ยงโรคเรื้อรัง หรือหากรับวัคซีนเข็มล่าสุดนานเกิน 3 เดือนขึ้นไป ก็ขอให้มารับเข็มกระตุ้นได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้น และปลอดภัยจากโรคโควิด-19 มากขึ้น .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง