โตเกียว 18 พ.ย.- อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นในเดือนตุลาคมปีนี้แตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี เป็นผลจากราคาเชื้อเพลิงปรับตัวสูงขึ้นและเงินเยนอ่อนค่าลง เพิ่มแรงกดดันให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นหรือบีโอเจ (BOJ) ต้องทบทวนนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายสุดขีด
ข้อมูลของรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานซึ่งไม่รวมอาหารสดที่มีความผันผวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6 ต่อปีในเดือนตุลาคม สูงที่สุดนับจากปี 2525 แต่ยังคงต่ำกว่าหลายประเทศรวมทั้งสหรัฐ นายฮิโรกาซุ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นตอบข้อถามเรื่องตัวเลขเงินเฟ้อว่า ราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นเชื่อมโยงกับสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันอย่างอาหารและสาธารณูปโภค เนื่องจากวัตถุดิบมีราคาสูงขึ้นและเงินเยนอ่อนค่าลง รัฐบาลจะปกป้องความเป็นอยู่ของประชาชน ด้วยการบรรจุนโยบายที่มุ่งแก้ปัญหาราคาพลังงานและอาหารสูงขึ้นไว้ในมาตรการบรรเทาทุกข์ และจะผลักดันงบประมาณพิเศษดังกล่าวออกมาโดยเร็วที่สุด รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเมื่อเดือนตุลาคมว่า จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 260,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9.32 ล้านล้านบาท) ซึ่งมีมาตรการอุดหนุนค่าไฟฟ้ารวมอยู่ด้วย
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นมา 14 เดือนติดต่อกันแล้ว เพิ่มแรงกดดันให้บีโอเจต้องทบทวนนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายสุดขีดที่ใช้มานาน บีโอเจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำมากหวังกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหวี่ยงไปมาระหว่างภาวะเงินเฟ้อต่ำและภาวะเงินฝืดมาตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1990 และแม้ว่าเงินเฟ้อในขณะนี้สูงกว่าเป้าหมายร้อยละ 2 ที่บีโอเจกำหนดไว้ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา บีโอเจยังคงมองว่า ราคาสินค้าแพงขึ้นในขณะนี้เป็นเรื่องชั่วคราว จึงไม่จำเป็นต้องทบทวนนโยบาย.-สำนักข่าวไทย