จันทบุรี 8 พ.ย.- กรมวิชาการเกษตรลุยแก้ปัญหาเพลี้ยแป้งลำไย ลงพื้นที่สวนและล้งภาคตะวันออก พร้อมคุมเข้มมาตรฐานการส่งออกไปจีน
ดร.ภัสชญภณ หมื่นแจ้ง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าวว่า กรมวิชาการเกษตรเร่งแก้ปัญหาเพลี้ยแป้งลำไยและควบคุมมาตรฐานการส่งออกไปยังจีน สืบเนื่องจากได้รับการแจ้งเตือนตรวจพบศัตรูพืชในผลไม้ส่งออกไปจีนอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับผลการตรวจประเมินการจัดการศัตรูพืชและมาตรการการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ในโรงคัดบรรจุผลไม้ส่งออกไปจีนเมื่อปี 2564 พบว่า ลำไยเป็นพืชหนึ่งที่จีนมีการแจ้งเตือนตรวจสอบศัตรูพืชมากที่สุด
ทั้งนี้นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และนายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตรกำชับให้เข้มงวดในการตรวจสอบคุณภาพลำไย การตรวจสอบศัตรูพืช เพื่อการออกใบรับรองสุขอนามัยพืช ดังนั้นจึงเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชถึงแนวทางการปฏิบัติการส่งออกลำไยให้ปลอดจากเพลี้ยแป้ง เพื่อรักษามาตรฐานการส่งออกผลไม้ของไทย
กรมวิชาการเกษตร ออกคำแนะนำในการป้องกันกำจัดเพลี้ยแป้งว่า เนื่องจากมดเป็นพาหะในการแพร่ระบาดของเพลี้ยแป้ง ดังนั้นควรป้องกันกำจัดมดไม่ให้ขึ้นต้น เช่น ใช้ผ้าชุบน้ำมันเครื่องที่ใช้แล้ว หรือผ้าชุบสารฆ่าแมลง มาลาไทออน อัตรา 20 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิต หรือ คาร์บาริล อัตรา 10 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร พันไว้ที่โคนต้นและวัสดุค้ำยันต่างๆ กำจัดวัชพืชในแปลงปลูกให้สะอาด โดยเฉพาะแห้วหมูและหญ้าคา โดยถอนต้นและขุดเหง้าที่อยูในดินออก หรือใช้สาร ฮาโลซัลฟูรอน-เมทิล เจ็ดสิบห้าเปอร์เซ็นต์ ดับบริวจี หรือ ไกลโฟเซต – ไอโซโพพิล แอมโมเนียม 48% พ่นระหว่างแถวไม้ผล พร้อมกับหมั่นสำรวจแปลงทุก 7 วัน โดยสามารถดูรายละเอียดวิธีการป้องกันกำจัดเพลี้ยแป้ง เพิ่มเติมได้ที่ https://youtu.be/BWUoo3thRDM
สำหรับวิธีการปฏิบัติในการเก็บเกี่ยวที่เหมาะสมก่อนส่งลำไยผลสดเข้าโรงคัดบรรจุเพื่อการส่งออก
ที่แนะนำเกษตรกร มีดังนี้ ที่แปลงต้องมีมาตรการการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีการตรวจคัดกรองคนงานที่จะเข้ามาในแปลงทุกครั้งที่ปฏิบัติงาน เมื่อสำรวจแล้วไม่พบเพลี้ยแป้งทำการหักช่อผลออกจากต้นแล้วใส่ในภาชนะ เพื่อป้องกันไม่ให้ช่อผลลำไยสัมผัสพื้นดินโดยตรง การคัดแยกต้องดำเนินการบนผ้าพลาสติกหรือผ้ายาง ถ้าพบเพลี้ยแป้ง หรือเพลี้ยหอย หรือราดำ หรือมด ที่ช่อผล ต้องแยกช่อผลนั้นออกทั้งช่อไม่นำมาคัดหรือตัดแต่ง ส่วนช่อผลที่พบอาการผลเน่าหรือผลแตกเกิน 30% ควรคัดทิ้งทั้งช่อ และควรมีตะกร้าใส่ช่อผลที่คัดทิ้งแยกต่างหากเพื่อไม่ให้ปะปนกับผลที่ยังไม่คัด ความยาวก้านของช่อผลลำไย ต้องทำการตัดแต่งความยาวก้านของช่อผลลำไยไม่เกิน 15 เซนติเมตร ซึ่งเป็นไปตามของกำหนดของจีน และในการขนส่งลำไยควรขนส่งด้วยพาหนะที่มีการปิดมิดชิด เพื่อป้องกันแมลงที่อาจมาทำลายซ้ำ และป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรค โดยสามารถดูรายละเอียดวิธีการปฏิบัติในการเก็บเกี่ยวที่เหมาะสมก่อนส่งลำไยผลสดเข้าโรงคัดบรรจุ เพิ่มเติมได้ที่ https://youtu.be/wAvf2O_DfL0
ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับการมอบใบรับรอง GAP ลำไยหมายเลขรหัสใหม่ให้แก่เกษตรกรพื้นที่ภาคตะวันออก 7 จังหวัด มีจำนวนแปลงที่ต้องเปลี่ยนรหัสรับรอง GAP ใหม่ 80,779 แปลง ซึ่งได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว 33,733 แปลง และอยู่ในระหว่างการดำเนินการอีก 47,046 แปลง ทั้งนี้ สวพ.6 ยืนยันว่า จะเสร็จสิ้น 100% ตามที่กรมกำหนดภายในวันที่ 31 ธ.ค. 65 นี้.-สำนักข่าวไทย