TNA News-Now-Next: Project 2025 จะทำลายอเมริกา

เครดิตภาพ: kamalaharris.com

วอชิงตัน 1 ก.ย- ชาวอเมริกันได้ยินคำว่า Project 2025 มาระยะหนึ่งแล้ว คำนี้กล่าวขานกันมากขึ้น ๆ ในแวดวงการเมือง จนในการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตที่เพิ่งปิดฉากลง บรรดานักการเมืองรวมถึงผู้คนในฝ่ายเสรีนิยมได้นำ Project 2025 มาชำแหละเนื้อหาที่พวกเขาแสลงหูและสะพรึงกลัว เพื่อฉายภาพว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง กลับเข้าไปครองทำเนียบขาวเป็นอีกคำรบ


แม้นายทรัมป์และทีมหาเสียงจะพยายามอย่างหนักที่จะแยกตัวเองออกมา บอกว่า ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่เกี่ยวข้องกับ Project 2025 ถึงขนาดเรียกเนื้อหาบางข้อว่า เป็นเรื่องเหลวไหล แต่เมื่อถอดความไปทีละข้อ แล้วหันไปเทียบกับจุดยืนทั้งอดีตและปัจจุบันเรียกว่า แทบจะถอดแบบกันมาเลย 

Project 2025 คืออะไร


ทำไม Project 2025 ถึงแสลงหูชาวเดโมแครต? ทำไม นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีปัจจุบันถึงกับบอกว่า Project 2025 จะทำลายสหรัฐอเมริกา?

เครดิตภาพ: Heritage Foundation

Project 2025 อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเอกสารด้านนโยบาย ที่แปลตรงตัวได้ว่า “โครงการแห่งปี ค.ศ. 2025” เป็นเอกสาร 922 หน้าที่จัดทำขึ้นโดยองค์กรคลังสมองของฝ่ายอนุรักษนิยมที่ชื่อ มูลนิธิเฮอริเทจ (The Heritage Foundation) กลุ่มอนุรักษ์นิยมมากมายกว่า 100 กลุ่มได้ร่วมเสนอแผนนโยบายที่ละเอียดอ่อน เพื่อขับเคลื่อนแนวคิดและกระบวนการของพวกเขา

หากไปดูแกนหลักในการจัดทำ Project 2025 ปรากฎชื่อของอดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาลทรัมป์อย่างน้อย 140 คน เช่น นายพอล แดนส์ ซี่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ของสำนักงานบริหารบุคลากรในรัฐบาลทรัมป์ เป็นผู้อำนวยการของโครงการนี้ แล้วยังมีนายสเปนเซอร์ เครทเชียน อดีตผู้ช่วยพิเศษของนายทรัมป์เป็นรองผู้อำนวยการด้วย แต่พอข้อมูลนี้ออกมา นายแดนส์ประกาศเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า จะออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการและจากมูลนิธิเฮอริเทจ


เครดิตภาพ: Heritage Foundation

คราวนี้เมื่อเจาะจงลงไป Project 2025 ประกอบด้วย 4 เสาหลัก คือ

1. แนวทางนโยบายสำหรับประธานาธิบดีคนต่อไป

2. เครือข่ายบุคคลที่สามารถทำงานให้กับรัฐบาลต่อไปได้ โดยคัดเลือกจากผู้สมัครที่ผ่านคุณสมบัติเรื่องจุดยืนทางการเมืองที่สอดคล้องกับสายอนุรักษนิยม

3. โครงการฝึกอบรมเพื่อเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร และ

4. โครงงานเพื่อรัฐบาลใหม่ดำเนินการทันทีใน 180 วันแรก  

Project 2025 จึงวาดหวังให้วางอยู่บนโต้ะทำงานในวันแรกที่ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันคนต่อไปเข้าทำหน้าที่ เพื่อดำเนินการมุ่งสู่อเมริกาในอุดมคติของพวกเขา เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2025 ก็คือปีที่ประธานาธิบดีคนต่อไปจะเริ่มวาระการดำรงตำแหน่ง ซึ่งตามปฏิทินการเมืองก็คือวันที่ 20 มกราคม 2025 ที่ผู้ชนะการเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในพิธีที่เป็นประเพณีการเมืองมาช้านาน 

ว่ากันว่า เบื้องหลังการถ่ายทำอย่างหนึ่ง คือ ต้องการให้วาระการดำรงตำแหน่งที่ 2 ของทรัมป์มีลู่ทางชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากกว่าวาระแรก

เนื้อหาของนโยบายอยู่ในเสาหลักเรียกว่า เป็น “Mandate for Leadership 2025: The Conservative Promise” เรามาไล่เรียงกันเรื่องหลักๆ ไปทีละเรื่องทีละประเด็นกันเลย

เครดิตภาพ: Project2025

ตรวจคนเข้าเมืองเข้ม

นโยบายตรวจคนเข้าเมืองเรื่องผู้อพยพ เป็นประเด็นเผชิญหน้าระหว่างสองพรรคและสองขั้วการเมืองที่ยังเป็นจุดเดือดในหลายประเทศ ด้วยเพราะปัญหานี้เป็นปัญหาระดับโลก ฝ่ายอนุรักษนิยมในแต่ละประเทศพยายามกีดกันเพิ่มมาตรการให้เข้มงวด สำหรับนายทรัมป์และสหรัฐนั้น ปัญหานี้ คือ ที่มาของนโยบายสร้างกำแพงกั้นพรมแดนเม็กซิโก ถือเป็นนโยบายที่ทั้งโดดเด่นและอื้อฉาวในครั้งที่เขาครองตำแหน่ง หากชนะเลือกตั้งอีก ทรัมป์ประกาศลั่นว่า จะเดินหน้าเพิ่มความมั่นคงชายแดน และคัดกรองการเข้าเมืองที่เข้มงวดยิ่งขึ้น พร้อม ๆ ไปกับปรามาสคู่แข่งและรัฐบาลปัจจุบันว่า ล้มเหลวเหลาะแหละ ละเลยป้องกันประเทศจากอาชญากร และผู้ที่เข้ามาแย่งงานชาวอเมริกัน รวมไปถึงการก่อสร้างกำแพงชายแดนอีกครั้ง การตรวจสอบวีซ่าที่เข้มงวดยิ่งขึ้นสำหรับผู้อพยพ และจัดการเนรเทศผู้ลักลอบเข้าเมืองขนานใหญ่

เขย่า NATO

Project 2025 กำหนดให้ปรับโครงสร้างของนาโต (NATO) เพื่อลดการสนับสนุนทางการเงินของอเมริกา และให้พันธมิตรนาโตในยุโรปรับผิดชอบมากขึ้น แบ่งเบาภาระและพึ่งพาตนเองมากขึ้น ตรงกับที่ทรัมป์มักวิพากษ์วิจารณ์นาโตมาโดยตลอด กล่าวหาประเทศอื่น ๆ ว่า เอาเปรียบ ส่งจ่ายเงินให้นาโตไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย และต้องพึ่งพาสหรัฐด้านกลาโหมมากเสียเหลือเกิน เคยแม้กระทั่งที่จะถอนสหรัฐออกจากนาโตที่สหรัฐก่อตั้งมาตั้งแต่ต้น   

มหามิตรรัสเซีย?

Project 2025 วางแนวคิดผ่อนปรนมาตรการลงโทษรัสเซียที่สหรัฐกำหนดขึ้นใช้ เพื่อตอบโต้ที่ยกทัพรุกรานยูเครน แล้วจะหันไปเพิ่มบทบาททางการทูตกับรัสเซีย ด้วยหลักการสร้างสมดุลระหว่างยุทธศาสตร์การแข่งขันและความร่วมมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเจรจาควบคุมอาวุธ

ทรัมป์-ปูตินประชุมสุดยอดที่เฮลซิงกิ ปี 2561

เข้าทางนายทรัมป์ที่มีสายใยที่กับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เจ้าตัวแสดงความชื่นชมนายปูตินหลายคราว จนถูกวิจารณ์ว่าเกินพอดี สำหรับสงครามยูเครน เขาตำหนิรัฐบาลไบเดน ว่า เป็นต้นเหตุให้สงครามปะทุ จึงเสนอแนวทางยุติสงครามคือ ให้ยูเครนยอมมอบคาบสมุทรไครเมียและยอมให้รัสเซียยึดครองดินแดนแนวชายแดนที่บุกเข้าไปยึด  เขาประกาศว่า เมื่อรับตำแหน่งแล้ว ตนจะสามารถยุติสงครามได้ภายใน 24 ชั่วโมง

คลังแสงนิวเคลียร์ให้ทันสมัย

ด้านการทหาร Project 2025 กำหนดเรื่องสำคัญด้านแสนยานุภาพด้านนิวเคลียร์ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาให้ทันสมัยจากโครงสร้างพื้นฐานเดิมที่มีมาตั้งแต่ยุคสงครามเย็น กำหนดลึกลงไปด้วยว่า ให้เร่งพัฒนา และผลิตขีปนาวุธข้ามทวีปและการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งนั่นเสี่ยงที่จะละเมิดสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ ซึ่งสหรัฐคือหนึ่งในผู้ลงนาม

ศึกประสานงากับจีน

สัมพันธ์จีน-สหรัฐ ที่ตกต่ำถึงขีดสุดในเวลานี้ เริ่มก่อตัวเห็นได้ชัดตั้งแต่นายทรัมป์ครองทำเนียบขาวเมื่อปี 2016 ด้วยวาทะกรรมและแนวทางต้านจีนหลายด้าน นำมาซึ่งสงครามการค้าระหว่างกัน

Project 2025 ก็กำหนดทิศทางนโยบายจีนไว้ ด้วยกลยุทธ์ต่อต้านอิทธิพลของจีนทั่วโลก รวมถึงการเสริมสร้างพันธมิตรในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกและสนับสนุนไต้หวัน ดังนั้นการเผชิญหน้าทางเศรษฐกิจจะรุนแรงขึ้น ส่งผลต่อเครือข่ายการค้าโลก ซึ่งอาจนำไปสู่ระเบียบระหว่างประเทศที่มีการแบ่งขั้วมากขึ้น ในการหาเสียงนายทรัมป์ยังคงแข็งกร้าวกับจีน ชี้นิ้วไปว่า จีนเอาเปรียบสหรัฐอย่างที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อนในประวัติศาสตร์ 

การค้าขายแบบอเมริกาต้องมาก่อน

นโยบายการค้าจะมุ่งเน้นไปที่การเจรจาข้อตกลงทางการค้าใหม่เพื่อให้เป็นประโยชน์สูงสุดต่อสหรัฐ  ตามแนวทาง America First ของทรัมป์ ที่คาดว่าจะกำหนดอัตราภาษีนำเข้าแบบครอบคลุม แม้แต่คู่ค้าสำคัญ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมของอเมริกา แต่อาจนำไปสู่มาตรการตอบโต้จากประเทศอื่น

โลกร้อนลวงโลก

Project 2025 ขยายความคิดของทรัมป์ที่ไม่เชื่อว่า วิกฤติโลกร้อนมีอยู่จริง เป็นเพียงคำลวงหลอกที่เป็นอุปสรรคขัดขวางความมั่งคั่ง

Project 2025 มีแผนยกเลิกกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เริ่มมาตั้งแต่สมัยรัฐบาบารัค โอบามา และต่อขยายในรัฐบาลปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้นยังกำหนดให้ส่งเสริมการผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลมากขึ้น สอดคล้องกับนายทรัมป์ที่มักวิพากษ์วิจารณ์ความตกลงปารีสครั้งประวัติศาสตร์ที่แทบทั้งโลกต้องทำงานกันอย่างหนักในการจัดทำขึ้นเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เขาเสนอให้สหรัฐปลดข้อผูกพันด้านสภาพภูมิอากาศระหว่างประเทศเพื่อส่งเสริมการผลิตพลังงานในประเทศแทน

ความตกลงปารีส เครดิตภาพ: Greenpeace UK

Project 2025 ยังล้วงลึกไปถึงข้อแนะนำด้านอาหารโดยกระทรวงเกษตรที่ใช้มากว่า 40 ปี ด้วยเหตุผลว่า ข้อแนะนำนี้มีการแทรกซึมประเด็นการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและความยั่งยืนอยู่ด้วย

สิทธิทำแท้ง

สิทธิการทำแท้งเป็นหัวข้อการเมืองที่เห็นต่างกันอย่างรุนแรง Project 2025 ไม่ได้แตะเรื่องละเอียดนี้ด้วยการออกข้อห้ามโดยตรง แต่เป็นการกำหนดให้องค์การอาหารและยา หรือเอฟดีเอ ยุติการรับรองยาแท้ง mifepristone รวมถึงกำหนดกฎควบคุมให้แน่นหนาขึ้น โดยนี่เป็นข้อเสนอของกลุ่มต่อต้านการทำแท้งที่ชื่อ The Alliance Defending Freedom ซึ่งเป็นหนึ่งในที่ปรึกษาโครงการ ผู้เคยยื่นร้องต่อศาลคัดค้านการรับรองยา mifepristone แต่ศาลฏีกาปฏิเสธ

LGBTQ

Project 2025 กล่าวถึงประเด็น LGBTQ เอาไว้ในหมวดว่าด้วยครอบครัว ซี่งกำหนดว่า โครงสร้างของครอบครัวในอุดมคติ คือ ชายและหญิงที่สมรสกัน เพราะเด็กทุกคนที่เกิดมามีสิทธิได้รับการเลี้ยงดูจากชายและหญิงที่ให้กำเนิด   ยิ่งไปกว่านั้นยังกำหนดว่า ควรนิยามการสมรสและครอบครัวด้วยการตั้งอยู่บนหลักการตามพระคัมภีร์ไบเบิล

ประเด็นปลีกย่อยเรื่องหนึ่งต้องย้อนไปดูสมัยรัฐบาลทรัมป์ที่ได้แบนคนข้ามเพศไม่ให้เข้าร่วมในกองทัพ จนรัฐบาลไบเดนได้ล้มเลิกไป หากนายทรัมป์กลับมาอีก Project 2025 กำหนดให้ตั้งข้อห้ามนี้ขึ้นมาอีกครั้ง 

ล้มหรือลดขนาดหน่วยงานรัฐ 

หน่วยงานรัฐที่ Project 2025 เห็นว่าไม่มีประโยชน์และยังเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา คือ องค์การบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA)  ที่มีประวัติยาวนานกว่า 200 ปี อยู่ภายใต้กระทรวงพาณิชย์ แต่ Project 2025 กำหนดว่า ควรตัดลดขนาดลง เพราะสำนักงานภายใต้ NOAA เช่น สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ และ สำนักงานบริการประมงทะเลแห่งชาติ ได้กลายเป็นหน่วยงานสร้างคำเตือนเรื่องโลกร้อน ซึ่งเป็นผลร้ายต่อความมั่งคั่งของชาติในอนาคต

เครดิตภาพ: NOAA

หน่วยงานสำคัญอีกแห่งหน่ง คือ กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิที่ก่อตั้งมาไม่นานหลังเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน Project 2025 กำหนดให้แยกส่วน หรือควบรวมกับกระทรวงอื่น ๆ  โดยเฉพาะส่วนที่กำกับดูแลเรื่องการตรวจคนเข้าเมือง

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า Project 2025 มีแนวคิดยุบกระทรวงการศึกษา เริ่มจากล้มเลิกโครงการการศึกษาที่ไม่สร้างรายได้และการศึกษาฟรีในช่วงปฐมวัย และท้ายที่สุดกระทรวงศึกษาธิการของรัฐบาลกลางก็ควรถูกยุบ เทียบเคียงได้กับคำหาเสียงของทรัมป์ที่บอกว่า ควรยุบกระทรวงการศึกษาเช่นกัน

แม้แต่สำนักงานปกป้องผู้บริโภคทางการเงินที่มีไว้ป้องกันชาวอเมริกันจากการหลอกลวงในการซื้อขายหลักทรัพย์ ยังต้องการให้ยุบเลิกไปด้วย

อำนาจนิยมในประเทศต้นแบบเสรีนิยม

เนื้อหาด้านการบริหารงานแผ่นดินยังรวมถึงการย้ายกระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั้งหมด เช่น สำนักงานสืบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ ไปอยู่ภายใต้การกำกับควบคุมของประธานาธิบดีโดยตรง แล้วยังจะชำแหละเอฟบีไอออกมาตัดลดหน่วยงานและลดความเป็นอิสระลง ซึ่งจะทำให้นายทรัมป์มีอำนาจมากขึ้นและหลายคนมองไปไกลว่า จะทำให้เขาหลบเลี่ยงการดำเนินคดีจากเรื่องต่าง ๆ ที่เป็นชนักปักหลักอย่างแน่นอน

เครดิตภาพ: FBI

ตามเสาหลักที่ 2 ของ Project 2025 เรื่องตั้งเครือข่ายบุคคลากรรัฐบาล ที่คัดเอาผู้ที่มีจุดยืนการเมืองตรงกัน ก็เป็นการทำลายความเป็นกลางทางการเมืองในรัฐบาลกลาง นำบุคคลมาสวมตำแหน่งทางการเมืองที่จะมาคอย Say Yes ให้กับทรัมป์ในทุกเรื่องทุกอย่าง ตั้งแต่สุขภาพไปจนถึงการศึกษาและสภาพอากาศ ทั้งรัฐบาลจะขับเคลื่อนโดยอำนาจทางการเมืองสั่งตรงได้ ลงไปถึงผู้ที่ภักดีต่อทรัมป์ 

ดาบนั้นคืนสนอง

ในทางอุดมคติแล้วฝ่ายผู้สนับสนุนนายทรัมป์ควรจะได้ภาคภูมิใจกับ Project 2025 ที่เป็นเสมือนแผนนโยบายแม่บทในการบริหารงาน แต่ในความเป็นจริงกลับกลายเป็นว่า Project 2025 เป็นเสมือนอาวุธที่ถูกนำมาทิ่มแทงฝ่ายตนเสียเอง 

เห็นได้จากการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตระหว่างวันที่ 19 – 22 สิงหาคม ที่นครชิคาโก ผู้ปราศัยเรียงแถวขึ้นมาถล่ม Project 2025 และฉายภาพความเชื่อมโยงกับนายทรัมป์

นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคในการชิงทำเนียบขาว กล่าวบนเวทีว่า “เรารู้ได้เลยว่า หากทรัมป์ครองตำแหน่งอีกสมัยจะเป็นอย่างไร เพราะทุกอย่างจัดเรียงไว้แล้วใน Project 2025 ที่เขียนขึ้นโดยบรรดาที่ปรึกษาที่ใกล้ชิดที่สุดของเขา และมีใจความหลักเป็นการดึงประเทศให้ถอยกลับไปสู่อดีต” 

หลายคนรวมถึงนักแสดงตลก เคนัน ทอมสัน นำ Project 2025 จำลองขนาดใหญ่ขึ้นไปอธิบายนำเสนอ ภาพสะท้อนชีวิตชาวอเมริกันแต่ละกลุ่มอายุ อาชีพ ชนชั้นว่าจะได้รับผลร้ายอย่างไรจาก Project 2025

ก่อนที่นายโจ ไบเดน จะถอนตัวจากการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต  เขาได้ตั้งโต้ะแถลงเลยว่า นายทรัมป์จะปฏิเสธความเกี่ยวข้องไม่ได้เลย เพราะ Project 2025 ที่ทำให้ชาวอเมริกันทุกคนต้องกลัวนั้น เขียนขึ้นมาเพื่อทรัมป์  และ “มันจะทำลายอเมริกา”  

Final Thoughts: Project 2025 กับโลก

มาถึงตรงนี้น่าจะหมดคำถามว่า Project 2025 เกี่ยวโยงกับนายทรัมป์หรือไม่ สำนักข่าว CBS News ได้นำ Project 2025 มาวิเคราะห์เทียบเคียงกับนโยบายของนายทรัมป์ ทั้งในอดีตและจากการหาเสียงในปัจจุบัน พบกว่า มีอย่างน้อย 270 ข้อที่ตรงกัน  

หากทรัมป์ครองทำเนียบขาวอีกคราว แผนการ Project 2025 มีแนวโน้มที่จะเป็นจริง พลิกโฉมสหรัฐ แล้วย่อมลามไปกระทบระเบียบโลกเป็นอย่างมาก พันธมิตรนาโตกระวนกระวายกับความไม่แน่นอน ยูเครนย่อมตกที่นั่งลำบากยิ่งขึ้น ความตึงเครียดเรื่องการพัฒนาคลังแสงนิวเคลียร์จะกระตุ้นการแข่งขันทางอาวุธระหว่างมหาอำนาจ สงครามการค้ากับจีนอาจรุนแรงขึ้นขีดสุด กระทบต่อการค้าโลกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ นโยบายตรวจคนเข้าเมืองจะเข้มงวดขึ้น ที่สำคัญกระทบไปทุกหย่อมหญ้าแน่นอน หากสหรัฐผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ยกเลิกกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม Project 2025 จะมาพลิกโฉมอเมริกา และจะส่งผลต่อโลกทั้งใบหรือไม่ การเลือกตั้งวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ถึงจะมีคำตอบ.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ครม.เคาะเยียวยาผู้เสียชีวิตเหตุชายแดน รายละ 8-10 ล้าน

กรุงเทพฯ 5 ส.ค. – ครม. อนุมัติเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รายละ 8-10 ล้านบาท พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข่าวปลอม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการกระชุม ครม. วาระสำคัญของรัฐบาล “ก้าวผ่านสองวิกฤติ เดินหน้าไปด้วยกัน” โดยระบุว่า รัฐบาลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของครอบครัวทุกๆ ครอบครัว แม้ว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นจะประเมินเป็นมูลค่ามิได้ แต่รัฐบาลจะขอผนึกกำลังจากทุกภาคส่วน เพื่อชดเชยความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สิน และรายได้ของพี่น้องประชาชนทุกคนที่ได้รับผลกระทบ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเงินเยียวยาให้แก่ครอบครัวทหารที่เสียชีวิต รวมรายละ 10 ล้านบาท และครอบครัวประชาชนที่เสียชีวิต รวมรายละ 8 ล้านบาท พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อป้องกันข่าวปลอม ที่มุ่งหมายจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและความปลอดภัยของประชาชน รวมถึงสถานการณ์ที่ไทยเราต้องประสบกับมาตรการภาษีการค้าจากสหรัฐอเมริกา ขอยืนยันว่าได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างรอบคอบและต่อเนื่อง โดยยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ ส่วนการที่สหรัฐอเมริกาประกาศอัตราภาษีการค้าของไทยที่ร้อยละ 19 ทำให้ไทยยังคงมีศักยภาพแข่งขันได้ในเวทีโลก และยังคงความได้เปรียบประเทศคู่แข่งขันในภูมิภาค รัฐบาลจึงได้กำหนดมาตรการทางการเงิน ทั้งมาตรการ Soft loan มาตรการพักชำระหนี้ การส่งเสริมให้คนไทยใช้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศ และการตั้งงบประมาณเพื่อสนับสนุนและรองรับการปรับตัวของผู้ประกอบการไทย ทั้งรายใหญ่และรายย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความเข้มแข็งให้แก่พี่น้องเกษตรกรไทย เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ไปด้วยกันได้อย่างมั่นคง […]

“เป๊ก ผลิตโชค” ส่อโดนแจ้ง 2 ข้อหา รอผลตรวจเลือด 7 วัน

กทม. 5 ส.ค.-“เป๊ก ผลิตโชค” ส่อโดนแจ้ง 2 ข้อหา รอผลตรวจเลือด 7 วัน พิสูจน์หาสารเสพติดในร่างกาย พลตำรวจตรี ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยว่า ช่วงค่ำวานนี้ คนขับรถกระบะได้เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว โดยให้การว่า ตนกำลังจะขับรถกลับบ้าน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ อยู่ดีๆ “เป๊ก ผลิตโชค” ก็กระโดดขึ้นมาบนฝากระโปรงรถ ตอนนั้นรู้สึกตกใจ จึงเลี้ยวรถเข้าปั๊มน้ำมัน ลงมาพูดคุยกับ “เป๊ก” จากนั้น “เป๊ก” ก็เข้ามาสวมกอด ยกมือไหว้ แล้วเบนไปหานายชุติเทพ มีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน ตนก็ขึ้นรถแล้วขับออกไป และไม่ทราบว่ามีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น จนกระทั่งมาเปิดดูข่าว ส่วนคนขับรถแท็กซี่ที่ปรากฏภาพ “เป๊ก ผลิตโชค” ขึ้นไปเกาะบนหลังคารถ ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการติดต่อเข้ามาให้ปากคำ ด้าน “เป๊ก ผลิตโชค” ยังไม่ได้เริ่มสอบปากคำ เพราะยังอยู่ในการดูแลของทีมแพทย์ ซึ่งพนักงานสอบสวน ยินดีที่จะเข้าไปสอบปากคำที่โรงพยาบาล ถ้าหากแพทย์อนุญาต หรือ “เป๊ก ผลิตโชค” […]

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย