TNA News-Now-Next: Project 2025 จะทำลายอเมริกา

เครดิตภาพ: kamalaharris.com

วอชิงตัน 1 ก.ย- ชาวอเมริกันได้ยินคำว่า Project 2025 มาระยะหนึ่งแล้ว คำนี้กล่าวขานกันมากขึ้น ๆ ในแวดวงการเมือง จนในการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตที่เพิ่งปิดฉากลง บรรดานักการเมืองรวมถึงผู้คนในฝ่ายเสรีนิยมได้นำ Project 2025 มาชำแหละเนื้อหาที่พวกเขาแสลงหูและสะพรึงกลัว เพื่อฉายภาพว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง กลับเข้าไปครองทำเนียบขาวเป็นอีกคำรบ


แม้นายทรัมป์และทีมหาเสียงจะพยายามอย่างหนักที่จะแยกตัวเองออกมา บอกว่า ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่เกี่ยวข้องกับ Project 2025 ถึงขนาดเรียกเนื้อหาบางข้อว่า เป็นเรื่องเหลวไหล แต่เมื่อถอดความไปทีละข้อ แล้วหันไปเทียบกับจุดยืนทั้งอดีตและปัจจุบันเรียกว่า แทบจะถอดแบบกันมาเลย 

Project 2025 คืออะไร


ทำไม Project 2025 ถึงแสลงหูชาวเดโมแครต? ทำไม นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีปัจจุบันถึงกับบอกว่า Project 2025 จะทำลายสหรัฐอเมริกา?

เครดิตภาพ: Heritage Foundation

Project 2025 อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเอกสารด้านนโยบาย ที่แปลตรงตัวได้ว่า “โครงการแห่งปี ค.ศ. 2025” เป็นเอกสาร 922 หน้าที่จัดทำขึ้นโดยองค์กรคลังสมองของฝ่ายอนุรักษนิยมที่ชื่อ มูลนิธิเฮอริเทจ (The Heritage Foundation) กลุ่มอนุรักษ์นิยมมากมายกว่า 100 กลุ่มได้ร่วมเสนอแผนนโยบายที่ละเอียดอ่อน เพื่อขับเคลื่อนแนวคิดและกระบวนการของพวกเขา

หากไปดูแกนหลักในการจัดทำ Project 2025 ปรากฎชื่อของอดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาลทรัมป์อย่างน้อย 140 คน เช่น นายพอล แดนส์ ซี่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ของสำนักงานบริหารบุคลากรในรัฐบาลทรัมป์ เป็นผู้อำนวยการของโครงการนี้ แล้วยังมีนายสเปนเซอร์ เครทเชียน อดีตผู้ช่วยพิเศษของนายทรัมป์เป็นรองผู้อำนวยการด้วย แต่พอข้อมูลนี้ออกมา นายแดนส์ประกาศเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า จะออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการและจากมูลนิธิเฮอริเทจ


เครดิตภาพ: Heritage Foundation

คราวนี้เมื่อเจาะจงลงไป Project 2025 ประกอบด้วย 4 เสาหลัก คือ

1. แนวทางนโยบายสำหรับประธานาธิบดีคนต่อไป

2. เครือข่ายบุคคลที่สามารถทำงานให้กับรัฐบาลต่อไปได้ โดยคัดเลือกจากผู้สมัครที่ผ่านคุณสมบัติเรื่องจุดยืนทางการเมืองที่สอดคล้องกับสายอนุรักษนิยม

3. โครงการฝึกอบรมเพื่อเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร และ

4. โครงงานเพื่อรัฐบาลใหม่ดำเนินการทันทีใน 180 วันแรก  

Project 2025 จึงวาดหวังให้วางอยู่บนโต้ะทำงานในวันแรกที่ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันคนต่อไปเข้าทำหน้าที่ เพื่อดำเนินการมุ่งสู่อเมริกาในอุดมคติของพวกเขา เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2025 ก็คือปีที่ประธานาธิบดีคนต่อไปจะเริ่มวาระการดำรงตำแหน่ง ซึ่งตามปฏิทินการเมืองก็คือวันที่ 20 มกราคม 2025 ที่ผู้ชนะการเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในพิธีที่เป็นประเพณีการเมืองมาช้านาน 

ว่ากันว่า เบื้องหลังการถ่ายทำอย่างหนึ่ง คือ ต้องการให้วาระการดำรงตำแหน่งที่ 2 ของทรัมป์มีลู่ทางชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากกว่าวาระแรก

เนื้อหาของนโยบายอยู่ในเสาหลักเรียกว่า เป็น “Mandate for Leadership 2025: The Conservative Promise” เรามาไล่เรียงกันเรื่องหลักๆ ไปทีละเรื่องทีละประเด็นกันเลย

เครดิตภาพ: Project2025

ตรวจคนเข้าเมืองเข้ม

นโยบายตรวจคนเข้าเมืองเรื่องผู้อพยพ เป็นประเด็นเผชิญหน้าระหว่างสองพรรคและสองขั้วการเมืองที่ยังเป็นจุดเดือดในหลายประเทศ ด้วยเพราะปัญหานี้เป็นปัญหาระดับโลก ฝ่ายอนุรักษนิยมในแต่ละประเทศพยายามกีดกันเพิ่มมาตรการให้เข้มงวด สำหรับนายทรัมป์และสหรัฐนั้น ปัญหานี้ คือ ที่มาของนโยบายสร้างกำแพงกั้นพรมแดนเม็กซิโก ถือเป็นนโยบายที่ทั้งโดดเด่นและอื้อฉาวในครั้งที่เขาครองตำแหน่ง หากชนะเลือกตั้งอีก ทรัมป์ประกาศลั่นว่า จะเดินหน้าเพิ่มความมั่นคงชายแดน และคัดกรองการเข้าเมืองที่เข้มงวดยิ่งขึ้น พร้อม ๆ ไปกับปรามาสคู่แข่งและรัฐบาลปัจจุบันว่า ล้มเหลวเหลาะแหละ ละเลยป้องกันประเทศจากอาชญากร และผู้ที่เข้ามาแย่งงานชาวอเมริกัน รวมไปถึงการก่อสร้างกำแพงชายแดนอีกครั้ง การตรวจสอบวีซ่าที่เข้มงวดยิ่งขึ้นสำหรับผู้อพยพ และจัดการเนรเทศผู้ลักลอบเข้าเมืองขนานใหญ่

เขย่า NATO

Project 2025 กำหนดให้ปรับโครงสร้างของนาโต (NATO) เพื่อลดการสนับสนุนทางการเงินของอเมริกา และให้พันธมิตรนาโตในยุโรปรับผิดชอบมากขึ้น แบ่งเบาภาระและพึ่งพาตนเองมากขึ้น ตรงกับที่ทรัมป์มักวิพากษ์วิจารณ์นาโตมาโดยตลอด กล่าวหาประเทศอื่น ๆ ว่า เอาเปรียบ ส่งจ่ายเงินให้นาโตไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย และต้องพึ่งพาสหรัฐด้านกลาโหมมากเสียเหลือเกิน เคยแม้กระทั่งที่จะถอนสหรัฐออกจากนาโตที่สหรัฐก่อตั้งมาตั้งแต่ต้น   

มหามิตรรัสเซีย?

Project 2025 วางแนวคิดผ่อนปรนมาตรการลงโทษรัสเซียที่สหรัฐกำหนดขึ้นใช้ เพื่อตอบโต้ที่ยกทัพรุกรานยูเครน แล้วจะหันไปเพิ่มบทบาททางการทูตกับรัสเซีย ด้วยหลักการสร้างสมดุลระหว่างยุทธศาสตร์การแข่งขันและความร่วมมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเจรจาควบคุมอาวุธ

ทรัมป์-ปูตินประชุมสุดยอดที่เฮลซิงกิ ปี 2561

เข้าทางนายทรัมป์ที่มีสายใยที่กับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เจ้าตัวแสดงความชื่นชมนายปูตินหลายคราว จนถูกวิจารณ์ว่าเกินพอดี สำหรับสงครามยูเครน เขาตำหนิรัฐบาลไบเดน ว่า เป็นต้นเหตุให้สงครามปะทุ จึงเสนอแนวทางยุติสงครามคือ ให้ยูเครนยอมมอบคาบสมุทรไครเมียและยอมให้รัสเซียยึดครองดินแดนแนวชายแดนที่บุกเข้าไปยึด  เขาประกาศว่า เมื่อรับตำแหน่งแล้ว ตนจะสามารถยุติสงครามได้ภายใน 24 ชั่วโมง

คลังแสงนิวเคลียร์ให้ทันสมัย

ด้านการทหาร Project 2025 กำหนดเรื่องสำคัญด้านแสนยานุภาพด้านนิวเคลียร์ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาให้ทันสมัยจากโครงสร้างพื้นฐานเดิมที่มีมาตั้งแต่ยุคสงครามเย็น กำหนดลึกลงไปด้วยว่า ให้เร่งพัฒนา และผลิตขีปนาวุธข้ามทวีปและการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งนั่นเสี่ยงที่จะละเมิดสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ ซึ่งสหรัฐคือหนึ่งในผู้ลงนาม

ศึกประสานงากับจีน

สัมพันธ์จีน-สหรัฐ ที่ตกต่ำถึงขีดสุดในเวลานี้ เริ่มก่อตัวเห็นได้ชัดตั้งแต่นายทรัมป์ครองทำเนียบขาวเมื่อปี 2016 ด้วยวาทะกรรมและแนวทางต้านจีนหลายด้าน นำมาซึ่งสงครามการค้าระหว่างกัน

Project 2025 ก็กำหนดทิศทางนโยบายจีนไว้ ด้วยกลยุทธ์ต่อต้านอิทธิพลของจีนทั่วโลก รวมถึงการเสริมสร้างพันธมิตรในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกและสนับสนุนไต้หวัน ดังนั้นการเผชิญหน้าทางเศรษฐกิจจะรุนแรงขึ้น ส่งผลต่อเครือข่ายการค้าโลก ซึ่งอาจนำไปสู่ระเบียบระหว่างประเทศที่มีการแบ่งขั้วมากขึ้น ในการหาเสียงนายทรัมป์ยังคงแข็งกร้าวกับจีน ชี้นิ้วไปว่า จีนเอาเปรียบสหรัฐอย่างที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อนในประวัติศาสตร์ 

การค้าขายแบบอเมริกาต้องมาก่อน

นโยบายการค้าจะมุ่งเน้นไปที่การเจรจาข้อตกลงทางการค้าใหม่เพื่อให้เป็นประโยชน์สูงสุดต่อสหรัฐ  ตามแนวทาง America First ของทรัมป์ ที่คาดว่าจะกำหนดอัตราภาษีนำเข้าแบบครอบคลุม แม้แต่คู่ค้าสำคัญ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมของอเมริกา แต่อาจนำไปสู่มาตรการตอบโต้จากประเทศอื่น

โลกร้อนลวงโลก

Project 2025 ขยายความคิดของทรัมป์ที่ไม่เชื่อว่า วิกฤติโลกร้อนมีอยู่จริง เป็นเพียงคำลวงหลอกที่เป็นอุปสรรคขัดขวางความมั่งคั่ง

Project 2025 มีแผนยกเลิกกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เริ่มมาตั้งแต่สมัยรัฐบาบารัค โอบามา และต่อขยายในรัฐบาลปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้นยังกำหนดให้ส่งเสริมการผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลมากขึ้น สอดคล้องกับนายทรัมป์ที่มักวิพากษ์วิจารณ์ความตกลงปารีสครั้งประวัติศาสตร์ที่แทบทั้งโลกต้องทำงานกันอย่างหนักในการจัดทำขึ้นเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เขาเสนอให้สหรัฐปลดข้อผูกพันด้านสภาพภูมิอากาศระหว่างประเทศเพื่อส่งเสริมการผลิตพลังงานในประเทศแทน

ความตกลงปารีส เครดิตภาพ: Greenpeace UK

Project 2025 ยังล้วงลึกไปถึงข้อแนะนำด้านอาหารโดยกระทรวงเกษตรที่ใช้มากว่า 40 ปี ด้วยเหตุผลว่า ข้อแนะนำนี้มีการแทรกซึมประเด็นการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและความยั่งยืนอยู่ด้วย

สิทธิทำแท้ง

สิทธิการทำแท้งเป็นหัวข้อการเมืองที่เห็นต่างกันอย่างรุนแรง Project 2025 ไม่ได้แตะเรื่องละเอียดนี้ด้วยการออกข้อห้ามโดยตรง แต่เป็นการกำหนดให้องค์การอาหารและยา หรือเอฟดีเอ ยุติการรับรองยาแท้ง mifepristone รวมถึงกำหนดกฎควบคุมให้แน่นหนาขึ้น โดยนี่เป็นข้อเสนอของกลุ่มต่อต้านการทำแท้งที่ชื่อ The Alliance Defending Freedom ซึ่งเป็นหนึ่งในที่ปรึกษาโครงการ ผู้เคยยื่นร้องต่อศาลคัดค้านการรับรองยา mifepristone แต่ศาลฏีกาปฏิเสธ

LGBTQ

Project 2025 กล่าวถึงประเด็น LGBTQ เอาไว้ในหมวดว่าด้วยครอบครัว ซี่งกำหนดว่า โครงสร้างของครอบครัวในอุดมคติ คือ ชายและหญิงที่สมรสกัน เพราะเด็กทุกคนที่เกิดมามีสิทธิได้รับการเลี้ยงดูจากชายและหญิงที่ให้กำเนิด   ยิ่งไปกว่านั้นยังกำหนดว่า ควรนิยามการสมรสและครอบครัวด้วยการตั้งอยู่บนหลักการตามพระคัมภีร์ไบเบิล

ประเด็นปลีกย่อยเรื่องหนึ่งต้องย้อนไปดูสมัยรัฐบาลทรัมป์ที่ได้แบนคนข้ามเพศไม่ให้เข้าร่วมในกองทัพ จนรัฐบาลไบเดนได้ล้มเลิกไป หากนายทรัมป์กลับมาอีก Project 2025 กำหนดให้ตั้งข้อห้ามนี้ขึ้นมาอีกครั้ง 

ล้มหรือลดขนาดหน่วยงานรัฐ 

หน่วยงานรัฐที่ Project 2025 เห็นว่าไม่มีประโยชน์และยังเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา คือ องค์การบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA)  ที่มีประวัติยาวนานกว่า 200 ปี อยู่ภายใต้กระทรวงพาณิชย์ แต่ Project 2025 กำหนดว่า ควรตัดลดขนาดลง เพราะสำนักงานภายใต้ NOAA เช่น สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ และ สำนักงานบริการประมงทะเลแห่งชาติ ได้กลายเป็นหน่วยงานสร้างคำเตือนเรื่องโลกร้อน ซึ่งเป็นผลร้ายต่อความมั่งคั่งของชาติในอนาคต

เครดิตภาพ: NOAA

หน่วยงานสำคัญอีกแห่งหน่ง คือ กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิที่ก่อตั้งมาไม่นานหลังเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน Project 2025 กำหนดให้แยกส่วน หรือควบรวมกับกระทรวงอื่น ๆ  โดยเฉพาะส่วนที่กำกับดูแลเรื่องการตรวจคนเข้าเมือง

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า Project 2025 มีแนวคิดยุบกระทรวงการศึกษา เริ่มจากล้มเลิกโครงการการศึกษาที่ไม่สร้างรายได้และการศึกษาฟรีในช่วงปฐมวัย และท้ายที่สุดกระทรวงศึกษาธิการของรัฐบาลกลางก็ควรถูกยุบ เทียบเคียงได้กับคำหาเสียงของทรัมป์ที่บอกว่า ควรยุบกระทรวงการศึกษาเช่นกัน

แม้แต่สำนักงานปกป้องผู้บริโภคทางการเงินที่มีไว้ป้องกันชาวอเมริกันจากการหลอกลวงในการซื้อขายหลักทรัพย์ ยังต้องการให้ยุบเลิกไปด้วย

อำนาจนิยมในประเทศต้นแบบเสรีนิยม

เนื้อหาด้านการบริหารงานแผ่นดินยังรวมถึงการย้ายกระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั้งหมด เช่น สำนักงานสืบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ ไปอยู่ภายใต้การกำกับควบคุมของประธานาธิบดีโดยตรง แล้วยังจะชำแหละเอฟบีไอออกมาตัดลดหน่วยงานและลดความเป็นอิสระลง ซึ่งจะทำให้นายทรัมป์มีอำนาจมากขึ้นและหลายคนมองไปไกลว่า จะทำให้เขาหลบเลี่ยงการดำเนินคดีจากเรื่องต่าง ๆ ที่เป็นชนักปักหลักอย่างแน่นอน

เครดิตภาพ: FBI

ตามเสาหลักที่ 2 ของ Project 2025 เรื่องตั้งเครือข่ายบุคคลากรรัฐบาล ที่คัดเอาผู้ที่มีจุดยืนการเมืองตรงกัน ก็เป็นการทำลายความเป็นกลางทางการเมืองในรัฐบาลกลาง นำบุคคลมาสวมตำแหน่งทางการเมืองที่จะมาคอย Say Yes ให้กับทรัมป์ในทุกเรื่องทุกอย่าง ตั้งแต่สุขภาพไปจนถึงการศึกษาและสภาพอากาศ ทั้งรัฐบาลจะขับเคลื่อนโดยอำนาจทางการเมืองสั่งตรงได้ ลงไปถึงผู้ที่ภักดีต่อทรัมป์ 

ดาบนั้นคืนสนอง

ในทางอุดมคติแล้วฝ่ายผู้สนับสนุนนายทรัมป์ควรจะได้ภาคภูมิใจกับ Project 2025 ที่เป็นเสมือนแผนนโยบายแม่บทในการบริหารงาน แต่ในความเป็นจริงกลับกลายเป็นว่า Project 2025 เป็นเสมือนอาวุธที่ถูกนำมาทิ่มแทงฝ่ายตนเสียเอง 

เห็นได้จากการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตระหว่างวันที่ 19 – 22 สิงหาคม ที่นครชิคาโก ผู้ปราศัยเรียงแถวขึ้นมาถล่ม Project 2025 และฉายภาพความเชื่อมโยงกับนายทรัมป์

นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคในการชิงทำเนียบขาว กล่าวบนเวทีว่า “เรารู้ได้เลยว่า หากทรัมป์ครองตำแหน่งอีกสมัยจะเป็นอย่างไร เพราะทุกอย่างจัดเรียงไว้แล้วใน Project 2025 ที่เขียนขึ้นโดยบรรดาที่ปรึกษาที่ใกล้ชิดที่สุดของเขา และมีใจความหลักเป็นการดึงประเทศให้ถอยกลับไปสู่อดีต” 

หลายคนรวมถึงนักแสดงตลก เคนัน ทอมสัน นำ Project 2025 จำลองขนาดใหญ่ขึ้นไปอธิบายนำเสนอ ภาพสะท้อนชีวิตชาวอเมริกันแต่ละกลุ่มอายุ อาชีพ ชนชั้นว่าจะได้รับผลร้ายอย่างไรจาก Project 2025

ก่อนที่นายโจ ไบเดน จะถอนตัวจากการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต  เขาได้ตั้งโต้ะแถลงเลยว่า นายทรัมป์จะปฏิเสธความเกี่ยวข้องไม่ได้เลย เพราะ Project 2025 ที่ทำให้ชาวอเมริกันทุกคนต้องกลัวนั้น เขียนขึ้นมาเพื่อทรัมป์  และ “มันจะทำลายอเมริกา”  

Final Thoughts: Project 2025 กับโลก

มาถึงตรงนี้น่าจะหมดคำถามว่า Project 2025 เกี่ยวโยงกับนายทรัมป์หรือไม่ สำนักข่าว CBS News ได้นำ Project 2025 มาวิเคราะห์เทียบเคียงกับนโยบายของนายทรัมป์ ทั้งในอดีตและจากการหาเสียงในปัจจุบัน พบกว่า มีอย่างน้อย 270 ข้อที่ตรงกัน  

หากทรัมป์ครองทำเนียบขาวอีกคราว แผนการ Project 2025 มีแนวโน้มที่จะเป็นจริง พลิกโฉมสหรัฐ แล้วย่อมลามไปกระทบระเบียบโลกเป็นอย่างมาก พันธมิตรนาโตกระวนกระวายกับความไม่แน่นอน ยูเครนย่อมตกที่นั่งลำบากยิ่งขึ้น ความตึงเครียดเรื่องการพัฒนาคลังแสงนิวเคลียร์จะกระตุ้นการแข่งขันทางอาวุธระหว่างมหาอำนาจ สงครามการค้ากับจีนอาจรุนแรงขึ้นขีดสุด กระทบต่อการค้าโลกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ นโยบายตรวจคนเข้าเมืองจะเข้มงวดขึ้น ที่สำคัญกระทบไปทุกหย่อมหญ้าแน่นอน หากสหรัฐผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ยกเลิกกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม Project 2025 จะมาพลิกโฉมอเมริกา และจะส่งผลต่อโลกทั้งใบหรือไม่ การเลือกตั้งวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ถึงจะมีคำตอบ.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]