TNA News-Now-Next: Project 2025 จะทำลายอเมริกา

เครดิตภาพ: kamalaharris.com

วอชิงตัน 1 ก.ย- ชาวอเมริกันได้ยินคำว่า Project 2025 มาระยะหนึ่งแล้ว คำนี้กล่าวขานกันมากขึ้น ๆ ในแวดวงการเมือง จนในการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตที่เพิ่งปิดฉากลง บรรดานักการเมืองรวมถึงผู้คนในฝ่ายเสรีนิยมได้นำ Project 2025 มาชำแหละเนื้อหาที่พวกเขาแสลงหูและสะพรึงกลัว เพื่อฉายภาพว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง กลับเข้าไปครองทำเนียบขาวเป็นอีกคำรบ


แม้นายทรัมป์และทีมหาเสียงจะพยายามอย่างหนักที่จะแยกตัวเองออกมา บอกว่า ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่เกี่ยวข้องกับ Project 2025 ถึงขนาดเรียกเนื้อหาบางข้อว่า เป็นเรื่องเหลวไหล แต่เมื่อถอดความไปทีละข้อ แล้วหันไปเทียบกับจุดยืนทั้งอดีตและปัจจุบันเรียกว่า แทบจะถอดแบบกันมาเลย 

Project 2025 คืออะไร


ทำไม Project 2025 ถึงแสลงหูชาวเดโมแครต? ทำไม นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีปัจจุบันถึงกับบอกว่า Project 2025 จะทำลายสหรัฐอเมริกา?

เครดิตภาพ: Heritage Foundation

Project 2025 อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเอกสารด้านนโยบาย ที่แปลตรงตัวได้ว่า “โครงการแห่งปี ค.ศ. 2025” เป็นเอกสาร 922 หน้าที่จัดทำขึ้นโดยองค์กรคลังสมองของฝ่ายอนุรักษนิยมที่ชื่อ มูลนิธิเฮอริเทจ (The Heritage Foundation) กลุ่มอนุรักษ์นิยมมากมายกว่า 100 กลุ่มได้ร่วมเสนอแผนนโยบายที่ละเอียดอ่อน เพื่อขับเคลื่อนแนวคิดและกระบวนการของพวกเขา

หากไปดูแกนหลักในการจัดทำ Project 2025 ปรากฎชื่อของอดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาลทรัมป์อย่างน้อย 140 คน เช่น นายพอล แดนส์ ซี่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ของสำนักงานบริหารบุคลากรในรัฐบาลทรัมป์ เป็นผู้อำนวยการของโครงการนี้ แล้วยังมีนายสเปนเซอร์ เครทเชียน อดีตผู้ช่วยพิเศษของนายทรัมป์เป็นรองผู้อำนวยการด้วย แต่พอข้อมูลนี้ออกมา นายแดนส์ประกาศเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า จะออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการและจากมูลนิธิเฮอริเทจ


เครดิตภาพ: Heritage Foundation

คราวนี้เมื่อเจาะจงลงไป Project 2025 ประกอบด้วย 4 เสาหลัก คือ

1. แนวทางนโยบายสำหรับประธานาธิบดีคนต่อไป

2. เครือข่ายบุคคลที่สามารถทำงานให้กับรัฐบาลต่อไปได้ โดยคัดเลือกจากผู้สมัครที่ผ่านคุณสมบัติเรื่องจุดยืนทางการเมืองที่สอดคล้องกับสายอนุรักษนิยม

3. โครงการฝึกอบรมเพื่อเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร และ

4. โครงงานเพื่อรัฐบาลใหม่ดำเนินการทันทีใน 180 วันแรก  

Project 2025 จึงวาดหวังให้วางอยู่บนโต้ะทำงานในวันแรกที่ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันคนต่อไปเข้าทำหน้าที่ เพื่อดำเนินการมุ่งสู่อเมริกาในอุดมคติของพวกเขา เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2025 ก็คือปีที่ประธานาธิบดีคนต่อไปจะเริ่มวาระการดำรงตำแหน่ง ซึ่งตามปฏิทินการเมืองก็คือวันที่ 20 มกราคม 2025 ที่ผู้ชนะการเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในพิธีที่เป็นประเพณีการเมืองมาช้านาน 

ว่ากันว่า เบื้องหลังการถ่ายทำอย่างหนึ่ง คือ ต้องการให้วาระการดำรงตำแหน่งที่ 2 ของทรัมป์มีลู่ทางชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากกว่าวาระแรก

เนื้อหาของนโยบายอยู่ในเสาหลักเรียกว่า เป็น “Mandate for Leadership 2025: The Conservative Promise” เรามาไล่เรียงกันเรื่องหลักๆ ไปทีละเรื่องทีละประเด็นกันเลย

เครดิตภาพ: Project2025

ตรวจคนเข้าเมืองเข้ม

นโยบายตรวจคนเข้าเมืองเรื่องผู้อพยพ เป็นประเด็นเผชิญหน้าระหว่างสองพรรคและสองขั้วการเมืองที่ยังเป็นจุดเดือดในหลายประเทศ ด้วยเพราะปัญหานี้เป็นปัญหาระดับโลก ฝ่ายอนุรักษนิยมในแต่ละประเทศพยายามกีดกันเพิ่มมาตรการให้เข้มงวด สำหรับนายทรัมป์และสหรัฐนั้น ปัญหานี้ คือ ที่มาของนโยบายสร้างกำแพงกั้นพรมแดนเม็กซิโก ถือเป็นนโยบายที่ทั้งโดดเด่นและอื้อฉาวในครั้งที่เขาครองตำแหน่ง หากชนะเลือกตั้งอีก ทรัมป์ประกาศลั่นว่า จะเดินหน้าเพิ่มความมั่นคงชายแดน และคัดกรองการเข้าเมืองที่เข้มงวดยิ่งขึ้น พร้อม ๆ ไปกับปรามาสคู่แข่งและรัฐบาลปัจจุบันว่า ล้มเหลวเหลาะแหละ ละเลยป้องกันประเทศจากอาชญากร และผู้ที่เข้ามาแย่งงานชาวอเมริกัน รวมไปถึงการก่อสร้างกำแพงชายแดนอีกครั้ง การตรวจสอบวีซ่าที่เข้มงวดยิ่งขึ้นสำหรับผู้อพยพ และจัดการเนรเทศผู้ลักลอบเข้าเมืองขนานใหญ่

เขย่า NATO

Project 2025 กำหนดให้ปรับโครงสร้างของนาโต (NATO) เพื่อลดการสนับสนุนทางการเงินของอเมริกา และให้พันธมิตรนาโตในยุโรปรับผิดชอบมากขึ้น แบ่งเบาภาระและพึ่งพาตนเองมากขึ้น ตรงกับที่ทรัมป์มักวิพากษ์วิจารณ์นาโตมาโดยตลอด กล่าวหาประเทศอื่น ๆ ว่า เอาเปรียบ ส่งจ่ายเงินให้นาโตไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย และต้องพึ่งพาสหรัฐด้านกลาโหมมากเสียเหลือเกิน เคยแม้กระทั่งที่จะถอนสหรัฐออกจากนาโตที่สหรัฐก่อตั้งมาตั้งแต่ต้น   

มหามิตรรัสเซีย?

Project 2025 วางแนวคิดผ่อนปรนมาตรการลงโทษรัสเซียที่สหรัฐกำหนดขึ้นใช้ เพื่อตอบโต้ที่ยกทัพรุกรานยูเครน แล้วจะหันไปเพิ่มบทบาททางการทูตกับรัสเซีย ด้วยหลักการสร้างสมดุลระหว่างยุทธศาสตร์การแข่งขันและความร่วมมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเจรจาควบคุมอาวุธ

ทรัมป์-ปูตินประชุมสุดยอดที่เฮลซิงกิ ปี 2561

เข้าทางนายทรัมป์ที่มีสายใยที่กับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เจ้าตัวแสดงความชื่นชมนายปูตินหลายคราว จนถูกวิจารณ์ว่าเกินพอดี สำหรับสงครามยูเครน เขาตำหนิรัฐบาลไบเดน ว่า เป็นต้นเหตุให้สงครามปะทุ จึงเสนอแนวทางยุติสงครามคือ ให้ยูเครนยอมมอบคาบสมุทรไครเมียและยอมให้รัสเซียยึดครองดินแดนแนวชายแดนที่บุกเข้าไปยึด  เขาประกาศว่า เมื่อรับตำแหน่งแล้ว ตนจะสามารถยุติสงครามได้ภายใน 24 ชั่วโมง

คลังแสงนิวเคลียร์ให้ทันสมัย

ด้านการทหาร Project 2025 กำหนดเรื่องสำคัญด้านแสนยานุภาพด้านนิวเคลียร์ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาให้ทันสมัยจากโครงสร้างพื้นฐานเดิมที่มีมาตั้งแต่ยุคสงครามเย็น กำหนดลึกลงไปด้วยว่า ให้เร่งพัฒนา และผลิตขีปนาวุธข้ามทวีปและการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งนั่นเสี่ยงที่จะละเมิดสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ ซึ่งสหรัฐคือหนึ่งในผู้ลงนาม

ศึกประสานงากับจีน

สัมพันธ์จีน-สหรัฐ ที่ตกต่ำถึงขีดสุดในเวลานี้ เริ่มก่อตัวเห็นได้ชัดตั้งแต่นายทรัมป์ครองทำเนียบขาวเมื่อปี 2016 ด้วยวาทะกรรมและแนวทางต้านจีนหลายด้าน นำมาซึ่งสงครามการค้าระหว่างกัน

Project 2025 ก็กำหนดทิศทางนโยบายจีนไว้ ด้วยกลยุทธ์ต่อต้านอิทธิพลของจีนทั่วโลก รวมถึงการเสริมสร้างพันธมิตรในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกและสนับสนุนไต้หวัน ดังนั้นการเผชิญหน้าทางเศรษฐกิจจะรุนแรงขึ้น ส่งผลต่อเครือข่ายการค้าโลก ซึ่งอาจนำไปสู่ระเบียบระหว่างประเทศที่มีการแบ่งขั้วมากขึ้น ในการหาเสียงนายทรัมป์ยังคงแข็งกร้าวกับจีน ชี้นิ้วไปว่า จีนเอาเปรียบสหรัฐอย่างที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อนในประวัติศาสตร์ 

การค้าขายแบบอเมริกาต้องมาก่อน

นโยบายการค้าจะมุ่งเน้นไปที่การเจรจาข้อตกลงทางการค้าใหม่เพื่อให้เป็นประโยชน์สูงสุดต่อสหรัฐ  ตามแนวทาง America First ของทรัมป์ ที่คาดว่าจะกำหนดอัตราภาษีนำเข้าแบบครอบคลุม แม้แต่คู่ค้าสำคัญ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมของอเมริกา แต่อาจนำไปสู่มาตรการตอบโต้จากประเทศอื่น

โลกร้อนลวงโลก

Project 2025 ขยายความคิดของทรัมป์ที่ไม่เชื่อว่า วิกฤติโลกร้อนมีอยู่จริง เป็นเพียงคำลวงหลอกที่เป็นอุปสรรคขัดขวางความมั่งคั่ง

Project 2025 มีแผนยกเลิกกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เริ่มมาตั้งแต่สมัยรัฐบาบารัค โอบามา และต่อขยายในรัฐบาลปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้นยังกำหนดให้ส่งเสริมการผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลมากขึ้น สอดคล้องกับนายทรัมป์ที่มักวิพากษ์วิจารณ์ความตกลงปารีสครั้งประวัติศาสตร์ที่แทบทั้งโลกต้องทำงานกันอย่างหนักในการจัดทำขึ้นเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เขาเสนอให้สหรัฐปลดข้อผูกพันด้านสภาพภูมิอากาศระหว่างประเทศเพื่อส่งเสริมการผลิตพลังงานในประเทศแทน

ความตกลงปารีส เครดิตภาพ: Greenpeace UK

Project 2025 ยังล้วงลึกไปถึงข้อแนะนำด้านอาหารโดยกระทรวงเกษตรที่ใช้มากว่า 40 ปี ด้วยเหตุผลว่า ข้อแนะนำนี้มีการแทรกซึมประเด็นการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและความยั่งยืนอยู่ด้วย

สิทธิทำแท้ง

สิทธิการทำแท้งเป็นหัวข้อการเมืองที่เห็นต่างกันอย่างรุนแรง Project 2025 ไม่ได้แตะเรื่องละเอียดนี้ด้วยการออกข้อห้ามโดยตรง แต่เป็นการกำหนดให้องค์การอาหารและยา หรือเอฟดีเอ ยุติการรับรองยาแท้ง mifepristone รวมถึงกำหนดกฎควบคุมให้แน่นหนาขึ้น โดยนี่เป็นข้อเสนอของกลุ่มต่อต้านการทำแท้งที่ชื่อ The Alliance Defending Freedom ซึ่งเป็นหนึ่งในที่ปรึกษาโครงการ ผู้เคยยื่นร้องต่อศาลคัดค้านการรับรองยา mifepristone แต่ศาลฏีกาปฏิเสธ

LGBTQ

Project 2025 กล่าวถึงประเด็น LGBTQ เอาไว้ในหมวดว่าด้วยครอบครัว ซี่งกำหนดว่า โครงสร้างของครอบครัวในอุดมคติ คือ ชายและหญิงที่สมรสกัน เพราะเด็กทุกคนที่เกิดมามีสิทธิได้รับการเลี้ยงดูจากชายและหญิงที่ให้กำเนิด   ยิ่งไปกว่านั้นยังกำหนดว่า ควรนิยามการสมรสและครอบครัวด้วยการตั้งอยู่บนหลักการตามพระคัมภีร์ไบเบิล

ประเด็นปลีกย่อยเรื่องหนึ่งต้องย้อนไปดูสมัยรัฐบาลทรัมป์ที่ได้แบนคนข้ามเพศไม่ให้เข้าร่วมในกองทัพ จนรัฐบาลไบเดนได้ล้มเลิกไป หากนายทรัมป์กลับมาอีก Project 2025 กำหนดให้ตั้งข้อห้ามนี้ขึ้นมาอีกครั้ง 

ล้มหรือลดขนาดหน่วยงานรัฐ 

หน่วยงานรัฐที่ Project 2025 เห็นว่าไม่มีประโยชน์และยังเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา คือ องค์การบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA)  ที่มีประวัติยาวนานกว่า 200 ปี อยู่ภายใต้กระทรวงพาณิชย์ แต่ Project 2025 กำหนดว่า ควรตัดลดขนาดลง เพราะสำนักงานภายใต้ NOAA เช่น สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ และ สำนักงานบริการประมงทะเลแห่งชาติ ได้กลายเป็นหน่วยงานสร้างคำเตือนเรื่องโลกร้อน ซึ่งเป็นผลร้ายต่อความมั่งคั่งของชาติในอนาคต

เครดิตภาพ: NOAA

หน่วยงานสำคัญอีกแห่งหน่ง คือ กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิที่ก่อตั้งมาไม่นานหลังเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน Project 2025 กำหนดให้แยกส่วน หรือควบรวมกับกระทรวงอื่น ๆ  โดยเฉพาะส่วนที่กำกับดูแลเรื่องการตรวจคนเข้าเมือง

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า Project 2025 มีแนวคิดยุบกระทรวงการศึกษา เริ่มจากล้มเลิกโครงการการศึกษาที่ไม่สร้างรายได้และการศึกษาฟรีในช่วงปฐมวัย และท้ายที่สุดกระทรวงศึกษาธิการของรัฐบาลกลางก็ควรถูกยุบ เทียบเคียงได้กับคำหาเสียงของทรัมป์ที่บอกว่า ควรยุบกระทรวงการศึกษาเช่นกัน

แม้แต่สำนักงานปกป้องผู้บริโภคทางการเงินที่มีไว้ป้องกันชาวอเมริกันจากการหลอกลวงในการซื้อขายหลักทรัพย์ ยังต้องการให้ยุบเลิกไปด้วย

อำนาจนิยมในประเทศต้นแบบเสรีนิยม

เนื้อหาด้านการบริหารงานแผ่นดินยังรวมถึงการย้ายกระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั้งหมด เช่น สำนักงานสืบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ ไปอยู่ภายใต้การกำกับควบคุมของประธานาธิบดีโดยตรง แล้วยังจะชำแหละเอฟบีไอออกมาตัดลดหน่วยงานและลดความเป็นอิสระลง ซึ่งจะทำให้นายทรัมป์มีอำนาจมากขึ้นและหลายคนมองไปไกลว่า จะทำให้เขาหลบเลี่ยงการดำเนินคดีจากเรื่องต่าง ๆ ที่เป็นชนักปักหลักอย่างแน่นอน

เครดิตภาพ: FBI

ตามเสาหลักที่ 2 ของ Project 2025 เรื่องตั้งเครือข่ายบุคคลากรรัฐบาล ที่คัดเอาผู้ที่มีจุดยืนการเมืองตรงกัน ก็เป็นการทำลายความเป็นกลางทางการเมืองในรัฐบาลกลาง นำบุคคลมาสวมตำแหน่งทางการเมืองที่จะมาคอย Say Yes ให้กับทรัมป์ในทุกเรื่องทุกอย่าง ตั้งแต่สุขภาพไปจนถึงการศึกษาและสภาพอากาศ ทั้งรัฐบาลจะขับเคลื่อนโดยอำนาจทางการเมืองสั่งตรงได้ ลงไปถึงผู้ที่ภักดีต่อทรัมป์ 

ดาบนั้นคืนสนอง

ในทางอุดมคติแล้วฝ่ายผู้สนับสนุนนายทรัมป์ควรจะได้ภาคภูมิใจกับ Project 2025 ที่เป็นเสมือนแผนนโยบายแม่บทในการบริหารงาน แต่ในความเป็นจริงกลับกลายเป็นว่า Project 2025 เป็นเสมือนอาวุธที่ถูกนำมาทิ่มแทงฝ่ายตนเสียเอง 

เห็นได้จากการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตระหว่างวันที่ 19 – 22 สิงหาคม ที่นครชิคาโก ผู้ปราศัยเรียงแถวขึ้นมาถล่ม Project 2025 และฉายภาพความเชื่อมโยงกับนายทรัมป์

นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคในการชิงทำเนียบขาว กล่าวบนเวทีว่า “เรารู้ได้เลยว่า หากทรัมป์ครองตำแหน่งอีกสมัยจะเป็นอย่างไร เพราะทุกอย่างจัดเรียงไว้แล้วใน Project 2025 ที่เขียนขึ้นโดยบรรดาที่ปรึกษาที่ใกล้ชิดที่สุดของเขา และมีใจความหลักเป็นการดึงประเทศให้ถอยกลับไปสู่อดีต” 

หลายคนรวมถึงนักแสดงตลก เคนัน ทอมสัน นำ Project 2025 จำลองขนาดใหญ่ขึ้นไปอธิบายนำเสนอ ภาพสะท้อนชีวิตชาวอเมริกันแต่ละกลุ่มอายุ อาชีพ ชนชั้นว่าจะได้รับผลร้ายอย่างไรจาก Project 2025

ก่อนที่นายโจ ไบเดน จะถอนตัวจากการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต  เขาได้ตั้งโต้ะแถลงเลยว่า นายทรัมป์จะปฏิเสธความเกี่ยวข้องไม่ได้เลย เพราะ Project 2025 ที่ทำให้ชาวอเมริกันทุกคนต้องกลัวนั้น เขียนขึ้นมาเพื่อทรัมป์  และ “มันจะทำลายอเมริกา”  

Final Thoughts: Project 2025 กับโลก

มาถึงตรงนี้น่าจะหมดคำถามว่า Project 2025 เกี่ยวโยงกับนายทรัมป์หรือไม่ สำนักข่าว CBS News ได้นำ Project 2025 มาวิเคราะห์เทียบเคียงกับนโยบายของนายทรัมป์ ทั้งในอดีตและจากการหาเสียงในปัจจุบัน พบกว่า มีอย่างน้อย 270 ข้อที่ตรงกัน  

หากทรัมป์ครองทำเนียบขาวอีกคราว แผนการ Project 2025 มีแนวโน้มที่จะเป็นจริง พลิกโฉมสหรัฐ แล้วย่อมลามไปกระทบระเบียบโลกเป็นอย่างมาก พันธมิตรนาโตกระวนกระวายกับความไม่แน่นอน ยูเครนย่อมตกที่นั่งลำบากยิ่งขึ้น ความตึงเครียดเรื่องการพัฒนาคลังแสงนิวเคลียร์จะกระตุ้นการแข่งขันทางอาวุธระหว่างมหาอำนาจ สงครามการค้ากับจีนอาจรุนแรงขึ้นขีดสุด กระทบต่อการค้าโลกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ นโยบายตรวจคนเข้าเมืองจะเข้มงวดขึ้น ที่สำคัญกระทบไปทุกหย่อมหญ้าแน่นอน หากสหรัฐผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ยกเลิกกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม Project 2025 จะมาพลิกโฉมอเมริกา และจะส่งผลต่อโลกทั้งใบหรือไม่ การเลือกตั้งวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ถึงจะมีคำตอบ.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]

ตรวจความพร้อมรบ

แม่ทัพภาค 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2

กาญจนบุรี 3 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 1 ตรวจความพร้อมรบ พล.ร.9 กองกำลังสุรสีห์ ตามแผนเผชิญเหตุ ทบ. พร้อมเสริมกำลังทัพภาค 2 ชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่สนามฝึกทางยุทธวิธี พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาค 1 เดินทางไปตรวจความพร้อมหน่วย ตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก ทั้งหน่วย กรมทหารราบเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 และกองพันพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF กองทัพภาคที่ 1 โดยมี พล.ต.อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 ให้ต้อนรับ พล.ร.9 ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก ให้จัดกำลังเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกองทัพบก ในการใช้กำลังตามแผนเผชิญเหตุของกองทัพบก เข้าในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้การสนับสนุนเสริมกำลังรบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบกองทัพภาคที่ 1 โดยหน่วยเตรียมกำลังได้ตรวจสภาพความพร้อมรบตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบความพร้อมของกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจในทุกพื้นที่ที่ได้รับมอบภารกิจจากกองทัพบก ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ให้โอวาสกำลังพล ในการเตรียมความพร้อมในทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบก โดยขอให้มีความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน […]

หลวงปู่ศิลา

“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สนับสนุนภารกิจกองกำลังชายแดน

นครราชสีมา 3 มิ.ย.-“หลวงปู่ศิลา” มอบเงินบริจาคให้ มทภ.2 สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ในการดูแลประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจันโท) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน จ.กาฬสินธุ์ และคณะศิษย์และมูลนิธิธรรมะอุทยาน พร้อมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ มอบเงินบริจาค จำนวน 2,017,860 บาท และข้าวสารจำนวน 1,500 กิโลกรัม ให้กับกองทัพภาคที่ 2 เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือกองกำลังทหารชายแดน โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้รับมอบ ที่กองบัญชาการ ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา สำหรับเงินทั้งหมดนี้ จะได้นำไปจัดสร้างที่พักในฐานที่มั่นของกองกำลังสุรนารี ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ตามแนวชายแดน รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ที่ยังขาดอยู่ ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ รวมถึงการจัดหาเครื่องมือต่างๆที่สามารถใช้ได้ภายในฐานปฏิบัติการเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหาร ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แถวชายแดน. -313 สำนักข่าวไทย