20 มิถุนายน 2568
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล
ข้อมูลน่าสงสัย :
มีข้อมูลน่าสงสัยเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ เมื่อมีการแชร์ข้อมูลล้อเลียนสมาคมโรคมะเร็งของประเทศแคนาดา ที่แนะนำให้สตรีข้ามเพศตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ทั้ง ๆ ที่คนเหล่านั้นไม่มีมดลูก

บทสรุป :
1.คำแนะนำไม่ได้ระบุถึงสตรีข้ามเพศที่ยังไม่ผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะเพศ
2.สตรีข้ามเพศที่ผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะเพศ (Bottom Surgery) มีความเสี่ยงเล็กน้อยต่อมะเร็งปากมดลูก
FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

ในความเป็นจริง คำแนะนำของสมาคมโรคมะเร็งของประเทศแคนาดา (Canadian Cancer Society) เน้นไปที่สตรีข้ามเพศที่ผ่านการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะเพศ (Bottom Surgery) แล้วเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับสตรีข้ามเพศที่ยังไม่เข้ารับการผ่าตัดแต่อย่างใด
การผ่าตัดแปลงเพศ จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ การผ่าตัดเต้านมหรือการผ่าตัดเสริมเต้านม (Top Surgery) และการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะเพศ (Bottom Surgery)
การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะเพศ (Bottom Surgery) ซึ่งรวมถึงการผ่าตัดอัณฑะ มดลูก และรังไข่ จะเริ่มหลังจากผู้เข้ารับการผ่าตัดมีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยผู้เข้ารับการผ่าตัดต้องผ่านการใช้ชีวิตแบบคนข้ามเพศและใช้ฮอร์โมนบำบัดอย่างน้อย 1 ปี และได้รับการวินิจฉัยจากจิตแพทย์ 2 รายว่ามีภาวะ Gender Dysphoria
ความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกหลังการผ่าตัดแปลงเพศ
ข้อมูลจากศูนย์วิจัยมะเร็ง Cancer Research UK ระบุว่าการผ่าตัดสร้างอวัยวะเพศหญิงเทียมไม่สามารถจำลองโครงสร้างเซลล์ของปากมดลูกได้ แต่เนื้อเยื่อที่นำมาสร้างเป็นปากมดลูกเทียมและช่องคลอดเทียม ยังมีความเสี่ยงการเกิดมะเร็งปากมดลูกเล็กน้อย
ความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งรูปแบบการผ่าตัด ชนิดของเนื้อเยื่อที่ใช้สร้างเป็นปากมดลูกเทียมและช่องคลอดเทียม รวมถึงประวัติทางสุขภาพของแต่ละบุคคล จึงแนะนำให้สตรีข้ามเพศที่ผ่านการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะเพศปรึกษาแพทย์เพื่อการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอย่างเหมาะสม
เอดูอาร์โด ฟรังโก ผู้อำนวยการศูนย์ระบาดวิทยาโรคมะเร็ง มหาวิทยาลัยแม็คกิล ประเทศแคนาดา อธิบายว่า ความเสี่ยงมะเร็งของแต่ละคน มีปัจจัยตามเพศที่ถือกำเนิดและเพศสภาพหลังการผ่าตัดแปลงเพศ เช่น คนที่มีต่อมลูกหมาก มีความเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก ส่วนคนที่ผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะเพศชายเป็นหญิง ก็มีความเสี่ยงการเกิดมะเร็งที่อวัยวะเพศหญิงเช่นกัน
แคเธอรีน ฟลัด แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนรีเวชทางเดินปัสสาวะ มหาวิทยาลัยอัลเบอร์ตา ชี้แจงว่า สตรีข้ามเพศที่ผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกแบบ Pap แต่แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส HPV เนื่องจากสตรีข้ามเพศไม่ได้รับวัคซีน HPV ตอนเป็นเด็ก ซึ่งการติดเชื้อไวรัส HPV สามารถนำไปสู่การเกิดมะเร็งหลายชนิด
ข้อมูลอ้างอิง :
https://apnews.com/article/fact-check-cervical-cancer-trans-testing-249098855574
https://factcheck.afp.com/doc.afp.com.33BX23L
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter