ชัวร์ก่อนแชร์: วัคซีนโควิด-19 ทำให้เด็กข้ามเพศ จริงหรือ?

18 มิถุนายน 2568
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลน่าสงสัย :

มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ในต่างประเทศ เมื่อมีการเผยแพร่ความเชื่อว่า สาเหตุที่ประชากรหลากหลายทางเพศและคนข้ามเพศเพิ่มขึ้นในสังคม เป็นผลจากการรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด-19 เนื่องจากวัคซีนโควิด-19 ชนิด mRNA พัฒนาจากเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์ เมื่อฉีดเข้าไปแล้วดีเอ็นเอของตัวอ่อนมนุษย์ซึ่งมีเพศที่แตกต่างจากเพศของผู้รับวัคซีน จะเข้าไปเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของผู้รับวัคซีน ทำให้ผู้รับวัคซีนมีพฤติกรรมทางเพศเบี่ยงเบนในที่สุด


รวมถึงข้ออ้างที่ว่าวัคซีนจะเข้าไปกระตุ้นยีนเกย์ที่ซ่อนอยู่ในตัวผู้รับวัคซีนซึ่งถ่ายทอดทางพันธุกรรมมาจากพ่อแม่ ทำให้ผู้รับวัคซีนมีพฤติกรรมทางเพศเบี่ยงเบนเช่นกัน

ซึ่งการกล่าวอ้างทั้งหมด ได้รับการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญว่าไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย

บทสรุป :


1.มนุษย์ไม่มียีนเกย์
2.ความเบี่ยงเบนทางเพศเริ่มตั้งแต่เป็นตัวอ่อน
3.วัคซีนโควิด-19 เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมไม่ได้

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

วัคซีนโควิด-19 เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมไม่ได้

ดร.พอล ออฟฟิต แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนและกุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาล Children’s Hospital of Philadelphia อธิบายว่า เซลล์ตัวอ่อนมนุษย์ถูกนำมาใช้เพาะเลี้ยงเชื้อไวรัสเพื่อการพัฒนาวัคซีนหลายชนิด ทั้งวัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ วัคซีนอีสุกอีใส หรือหัดเยอรมัน

โอกาสที่ดีเอ็นเอตกค้างจากวัคซีนจะส่งผลต่อพันธุกรรมของผู้รับวัคซีนแทบเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากก่อนจะนำมาฉีดให้กับประชาชน จะต้องผ่านกระบวนการทำให้วัคซีนมีความบริสุทธิ์ ซึ่งปริมาณดีเอ็นเอตกค้างจากเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์ที่หลงเหลืออยู่ในวัคซีนมีขนาดเล็กมาก หรือประมาณพิโกกรัมหรือ 1 ในล้านล้านกรัม

นอกจากนี้ หากเข้าสู่ร่างกาย ดีเอ็นเอตกค้างเหล่านั้นก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของผู้รับวัคซีน เนื่องจากเป็นเพียงชิ้นส่วนของรหัสพันธุกรรม ไม่ใช่ดีเอ็นเอที่สมบูรณ์ หรือต่อให้เป็นดีเอ็นเอที่สมบูรณ์ การจะเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของผู้รับวัคซีน ดีเอ็นเอดังกล่าวต้องเข้าไปยังนิวเคลียสของเซลล์ ซึ่งดีเอ็นเอเหล่านั้นไม่มีปัจจัยใด ๆ ที่จะสามารถเข้าไปยังนิวเคลียสของเซลล์ของผู้รับวัคซีนได้

ฟรานซิสโก ซานเซส ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยแอริโซนาสเตต ยืนยันว่า แนวคิดว่าดีเอ็นเอแปลกปลอมจากวัคซีนจะเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมมนุษย์และทำให้เบี่ยงเบนทางเพศเป็นข้ออ้างที่ไร้สาระมาก เพราะมนุษย์ได้รับดีเอ็นเอแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายตลอดเวลา ตั้งแต่การกินอาหารจนถึงการสัมผัสสารคัดหลั่งระหว่างการมีเพศสัมพันธ์

หากข้ออ้างดังกล่าวเป็นจริง จะต้องเห็นปรากฏการณ์ดังกล่าวในกลุ่มผู้รับบริจาคเลือดและอวัยวะ และจะทำให้การคัดกรองผู้บริจาคเลือดและอวัยวะมีความซับซ้อนมากกว่านี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เกิดขึ้น

มนุษย์ไม่มียีนเกย์

แม้จะมีการค้นหายีนจำเพาะที่เชื่อว่าอยู่เบื้องหลังการข้ามเพศในมนุษย์ แต่การศึกษาหลายทศวรรษก็ไม่พบว่ามียีนดังกล่าวแต่อย่างใด

ดร.เดวิด เวอร์โฮเวน ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัส และศาสตราจารย์ภาควิชาจุลชีววิทยาสัตวแพทย์และเวชศาสตร์ป้องกัน มหาวิทยาลัยไอโฮวาสเตต ยืนยันว่าในร่างกายมนุษย์ไม่มียีนเกย์แต่อย่างใด สิ่งเดียวที่วัคซีนเข้าไปกระตุ้นการทำงานของร่างกายคือการสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคต่าง ๆ เท่านั้น

ดร.เดวิด เวอร์โฮเวน มองว่าปัญหาการโต้แย้งประเด็นความหลากหลายทางเพศในสังคม สามารถแก้ได้ด้วยการให้สังคมหยุดมองว่าการเป็นคนข้ามเพศเป็นความผิดปกติหรือเป็นโรคติดต่อที่จำเป็นต้องป้องกันหรือหาทางรักษา และหันมายอมรับในความหลากหลาย ซึ่งน่าจะสร้างประโยชน์ให้กับสังคมโดยรวมได้มากกว่า

ความเบี่ยงเบนทางเพศเริ่มตั้งแต่เป็นตัวอ่อน

ราเชล เลวิน นักชีววิทยาและประสาทวิทยา มหาวิทยาลัยโพโมนาคอลเลจ อธิบายว่า ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ พิสูจน์ได้ว่าการเบี่ยงเบนทางเพศจะเกิดขึ้นหลังบุคคลนั้น ๆ ลืมตาดูโลก เพราะเป็นกระบวนการที่น่าจะเริ่มขึ้นตั้งแต่บุคคลนั้น ๆ ยังเป็นตัวอ่อนในครรภ์มารดา

งานวิจัยหลายชิ้นต่างอ้างสมมติฐาน Prenatal Androgen Hypothesis ที่คาดว่าการได้รับฮอร์โมนเพศชายชนิดแอนโดรเจนในระหว่างที่ตัวอ่อนกำลังพัฒนาสมอง ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นหลังการพัฒนาอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการเบี่ยงเบนทางเพศ

ราเชล เลวิน อธิบายถึงความเป็นไปได้ว่า หญิงข้ามเพศอาจเกิดจากการได้รับฮอร์โมนแอนโดรเจนน้อยเกินไประหว่างการพัฒนาสมองของตัวอ่อน ส่วนชายข้ามเพศอาจเกิดจากการได้รับฮอร์โมนแอนโดรเจนมากเกินไประหว่างการพัฒนาสมองของตัวอ่อน

นอกจากปริมาณของฮอร์โมน ปัจจัยยังมาจากการทำงานของตัวรับฮอร์โมนในเซลล์

ชายที่กลายเป็นหญิงข้ามเพศ อาจไม่ได้เกิดจากได้รับปริมาณฮอร์โมนแอนโดรเจนไม่เพียงพอ แต่อาจเป็นเพราะการทำงานของตัวรับฮอร์โมนแอนโดรเจนในสมองทำงานผิดปกติก็เป็นได้

ราเชล เลวิน ย้ำว่ากระบวนการทั้งหมด เกิดขึ้นก่อนที่มนุษย์จะลืมตาดูโลก ดังนั้นต่อให้ผู้หญิงได้รับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนจำนวนมาก ก็จะไม่ทำให้เธอกลายเป็นชายข้ามเพศ หรือผู้ชายที่มีภาวะขาดแคลนฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ก็ไม่ทำให้พวกเขากลายเป็นหญิงข้ามเพศเช่นกัน

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.factcheck.org/2023/06/scicheck-posts-make-false-claim-about-cause-of-gender-dysphoria/
https://www.businessinsider.com/qanon-conspiracy-theory-covid-19-vaccines-turn-kids-trans-gay-2021-2

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย