แคนเบอร์รา 15 ก.พ. – นายกรัฐมนตรีศรีลังกาให้คำมั่นจะไม่ดำเนินคดีกับบรรดาผู้ลี้ภัยในกลุ่มประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก หากตัดสินใจเดินทางกลับประเทศ
นายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห ของศรีลังกาแสดงความคิดเห็นระหว่างการพบปะหารือกับนายกรัฐมนตรีมัลคอล์ม เทิร์นบูล ของออสเตรเลียเกี่ยวกับความร่วมมือในการจัดการปัญหาลักลอบขนคนเข้าเมือง โดยระบุว่า กลุ่มผู้ลี้ภัยชาวศรีลังกาในต่างแดนกระทำความผิดละเมิดกฎหมาย และพยายามหลบหนีไปยังออสเตรเลีย แต่พวกเขาไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป พวกเขาจะได้รับการให้อภัยและไม่ถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย หากตัดสินใจเดินทางกลับประเทศ
รายงานระบุว่า ชาวศรีลังกา ชาวอิหร่าน และชาวอัฟกานิสถานเป็นกลุ่มผู้ลี้ภัยขนาดใหญ่ที่สุดที่อาศัยอยู่ในประเทศหมู่เกาะนาอูรูและปาปัวนิวกินีในมหาสมุทรแปซิฟิก 2 ประเทศนี้ถูกใช้เป็นแหล่งพักพิงของผู้ลี้ภัยกว่า 2,000 คน โดยมีรัฐบาลออสเตรเลียเป็นผู้ให้การสนับสนุนทางการเงิน ทั้งนี้ ออสเตรเลียไม่อนุญาตให้ผู้ลี้ภัยเดินทางเข้าไปตั้งถิ่นฐานภายในประเทศตนเอง
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ผู้ลี้ภัยชาวศรีลังกาในนาอูรูและปาปัวนิวกินียังคงไม่มั่นใจในความปลอดภัยในการเดินทางกลับประเทศ เนื่องจากพื้นที่ทางตอนเหนือยังอยู่ภายใต้การยึดครองของทหารและยังมีรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง ทางการศรีลังกาพยายามสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นภายในชาติ นับแต่สิ้นสุดสงครามกลางเมืองยืดเยื้อยาวนาน 26 ปี เมื่อปี 2552.-สำนักข่าวไทย