“กัณวีร์” ลั่นใครจะเชื่ออุยกูร์เต็มใจกลับจีน

รัฐสภา 28 ก.พ.-“กัณวีร์” ลั่นใครจะเชื่ออุยกูร์เต็มใจกลับจีน แฉหลักฐานจดหมาย 3 ฉบับ ยันไม่อยากกลับ ชี้ต้องติดตามผลกระทบจากเวทีโลก เล่าประวัติอ้างอิงเกือบได้ส่งชาวอุยกูร์ 400 คนไปตุรกีแล้ว แต่มีการแทรกแซงจากรัฐบาลจีน ยกการกลับมาตุภูมิโดยสมัครใจต้องเป็นการตัดสินใจของผู้ลี้ภัยเอง

นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม กล่างถึงจดหมายที่ชาวอุยกูร์ 48 คน รวมตัวกันและเขียนจดหมายฉบับหนึ่งส่งไปยัง UNHCR โดยส่งไปขอให้เข้ามาช่วยคุ้มครองระหว่างประเทศ หรือการพิจารณาสถานะผู้ลี้ภัย และระบุชัดไม่ต้องการกลับประเทศจีน เพราะหากกลับจะถูกประหัสประหาร การกักขัง การทรมาน ทำให้ชีวิตเผชิญกับอันตราย ถูกทำร้ายจนถึงชีวิต แต่จดหมายฉบับดังกล่าวไปไม่ถึง UNHCR และอ้างว่าชาวอุยกูร์ ถูกถ่ายรูปเชื่อว่าเป็นการเตรียมความพร้อมในการผลักดันกลับประเทศจีน จึงมีการประท้วงการอดอาหาร


ส่วนจดหมายฉบับที่สองเป็นของญาติ ชาวอุยกูร์ ที่ไปตั้งถิ่นฐานใหม่ประเทศที่สามตุรกี ส่งไปถึงนายกรัฐมนตรีของไทย ว่าขอให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา โดยหยิบยกกรณีบิดาของนายกรัฐมนตรีลี้ภัยไปในต่างประเทศมาชี้เห็น ขอให้มีการพิจารณารวมครอบครัวที่ประเทศใดก็ได้ และเป็นการส่งในช่วงต้นปี 2568

ส่วนจดหมายฉบับที่ 3 ส่งในช่วงต้นปี 2568 เนื้อหาขอร้องว่าอย่าให้ถูกผลักดันกลับประเทศจีน ขอให้มีชีวิตและอยู่ด้วยกันได้ ที่เรียกว่าเป็นจดหมาย SOS ซึ่งจดหมายทั้ง 3 ฉบับชัดเจนว่าชาวอุยกูร์ ไม่ได้สมัครใจ หรือเต็มใจที่จะเดินทางกลับประเทศจีน ด้วยยังกังวลอันตรายที่จะเกิดขึ้น และสะท้อนว่าการแถลงข่าวของรัฐบาล ที่กระทรวงยุติธรรมเมื่อวานนี้เป็นเท็จ อ้างว่าเดินทางกลับด้วยความสมัครใจ


นายกัณวีร์ระบุว่า การผลักดันเสร็จไปแล้วเรียบร้อย ขณะนี้ทำได้เพียงอย่างเดียวในคือการเรียกร้องเวทีระหว่างประเทศ ซึ่งมีการประณามจากเวทีระหว่างประเทศมาแล้ว ต่อกรณีการกดปราบข้ามชาติ และปัจจุบันชัดเจนว่าประเทศโลกมุสลิมมองประเทศไทยว่าผลักดันชาวอุยกูร์ กลับไปยังประเทศต้นกำเนิดแล้วถูกประหัตประหาร ต้องติดตามว่าจะเกิดผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างไร

ลองดูว่าความร่วมมือกับประเทศเสรีนิยมประชาธิปไตย ที่มองเรื่องนี้อย่างหนักหน่วงว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ แต่ไทยทำไปแล้ว จะมีการเกิดขึ้นหรือไม่ ความร่วมมือที่กำลังจะมีหรือมีอยู่แล้วจะมีมีผลกระทบอะไรบ้าง ทั้งความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การศึกษา นวัตกรรมจะมีผลกระทบแน่นอน

นายกัณวีร์กล่าวว่า ในช่วง 11 ปีที่ผ่านมา ในฐานะเคยทำงาน UNHCR ได้ติดตามมาโดยตลอด และมีการประสานผลักดันให้มีการตั้งถิ่นฐานใหม่ในประเทศที่สาม ซึ่งเอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทยเมื่อปี 2557 ประสานโดยตรงกับนายกรัฐมนตรีตุรกีในขณะนั้น ว่ามีชาวอุยกูร์กว่า 200 คน ต้องการตั้งถิ่นฐานใหม่ ซึ่งนายกรัฐรัฐมนตรีในยุคนั้นตอบรับทันทีภายใน 5 นาที ส่งเครื่องบินมารับชาวอุยกูร์ดังกล่าวไปตุรกีทันที โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการพิจารณาสถานะผู้ลี้ภัย


แต่รัฐบาลไทยในสมัยนั้น คือ รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แจ้งว่ายังมีชาวอุยกูร์ อีกกว่า 100 คน รวม เป็น 400 คน ขอเป็นเครื่องบินเช่าเหมาลำ 2 ลำ มารับได้หรือไม่ สุดท้ายมีการแทรกแซงจากรัฐบาลจีนห้ามส่งกลุ่มคนนี้ไปยังประเทศที่สามของโดยในปี 258 มีการตั้งถิ่นฐานใหม่ให้กับกลุ่มเด็กและผู้หญิงไปอยู่ตุรกี และมีการผลักดัน 109 คน กลับจีนซึ่งปัจจุบันยังไม่ทราบชะตากรรมว่าที่ใด และประเทศไทยทั้งที่ทราบถึงประวัติเหตุการณ์ดังกล่าว ยังไปทำให้เกิดเหตุการณ์ที่มีความเสี่ยงเกิดขึ้นอีก โดยชาวอุยกูร์ 40 คน มีความพยายามที่จะร้องขออย่าส่งกลับไปยังจีน แต่รัฐบาลยืนยันว่ากลุ่มคนดังกล่าวต้องการกลับจีน

ส่วนทางออกเรื่องนี้ รัฐบาลไทยจะต้องมีความรู้ความเข้าใจภารกิจด้านมนุษยธรรม และการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนของสถานการณ์ผู้ลี้ภัย โดยใช้มาตรฐานสากล โดยไทยเป็นสมาชิกในเวทีระหว่างประเทศ หากไทยไม่สามารถดำเนินการได้ก็จะเกิดผลกระทบตามมา แต่ปัญหาคือไทยไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร แต่ตัดสินใจผลักดันกลับไปประเทศจีน

นายกัณวีร์ ยังอ้างถึงคำแถลงการณ์ของรัฐบาลว่าสามารถติดตามชีวิตความเป็นอยู่ชาวอุยกูร์ได้ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมจะเดินทางไปเยี่ยม โดยเห็นว่าเหตุการณ์อาจจะซ้ำรอยในอดีต ที่สุดท้ายไม่สามารถจะติดตามได้ พร้อมกันนี้ได้อธิบายถึงขั้นตอนการเดินทางกลับมาตุภูมิโดยสมัครใจ ว่าผู้ลี้ภัยต้องตัดสินใจเอง ที่ต้องมีการดำเนินการ go and see come and tell หรือการมีตัวแทนเดินทางไปยังประเทศต้นกำเนิดว่าจะกลับไปอยู่ที่ใด และกลับมาบอกกลุ่มผู้ลี้ภัยบอกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและให้ผู้ลี้ภัยตัดสินใจด้วยตัวเอง

“รัฐไทยไม่สามารถไปบอกแทนว่าเค้าสมัครใจกับเอง ต้องให้เค้าเป็นคนพูด แต่นี่รัฐไทยทำอุ๊บอิ๊บ เงียบทุกอย่างเป็นภารกิจลับ และส่งกลับไปแล้วแล้วบอกว่าทุกคนอยากกลับเอง ใครจะเชื่อคำพูดของคุณเมื่อมีหลักฐาน ใกล้ยืนยันว่าเค้าอยากกลับเองในเมื่อหลักฐานอยู่ตรงนี้”.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ ออกประกาศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนวันนี้

กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศ เรื่อง การเข้าสู่ฤดูร้อนของประเทศไทย พ.ศ.2568 โดยคาดว่า อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 35-36 องศาเซลเซียส ซึ่งใกล้เคียงกับค่าปกติ แต่ร้อนน้อยกว่าปีที่ผ่านมา

นายกฯ คุยผู้นำจีนหลายระดับ ก่อนส่งกลับ 40 อุยกูร์

นายกฯ เผย คุยผู้นำจีนหลายระดับ ก่อนส่ง 40 ชาวอุยกูร์กลับจีน ให้คำมั่นทุกคนปลอดภัย ไม่ถูกดำเนินคดี ด้าน รมต.ไทย ติดตามความเป็นอยู่ได้ ยึดหลักสิทธิมนุษยชน ยัน ทุกคนสมัครใจ ลั่น ไม่มีประเทศที่สามขอรับตัว แม้แต่ประเทศที่ประณามไทย

‘ยีน แฮ็กแมน’ นักแสดงดังฮอลลีวูดเสียชีวิต

ยีน แฮ็กแมน นักแสดงระดับตำนานของฮอลลีวูด วัย 95 ปี ถูกพบว่าเสียชีวิตอยู่ในบ้านพักที่รัฐนิวเม็กซิโก พร้อมกับภรรยาและสุนัข 1 ตัวที่เลี้ยงไว้

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น-ฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น อากาศร้อนในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า