แคนเบอร์รา 8 ก.พ.- ออสเตรเลียมั่นใจว่า วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของแอสตราเซนเนกาได้ผล หลังจากแอฟริกาใต้ระงับการฉีดเพราะมีประสิทธิภาพจำกัดในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสปรับปรุงสายพันธุ์ในแอฟริกาใต้
นายเกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลียแถลงวันนี้ว่า ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานชี้ว่าวัคซีนของแอสตราเซนเนกาหรือของไฟเซอร์มีประสิทธิภาพลดลงในการป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิต ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลักของการฉีดวัคซีนเพื่อปกป้องชีวิตผู้คน
รอยเตอร์คาดการณ์ว่า ออสเตรเลียจะอนุมัติให้ใช้วัคซีนของแอสตราเซนเนกาในอีกไม่กี่วัน หลังจากอนุมัติให้ใช้วัคซีนของไฟเซอร์ไปเมื่อเดือนก่อนและเตรียมจะใช้ในเดือนนี้ อย่างไรก็ดี ความสำเร็จในการดำเนินโครงการฉีดวัคซีนฝากไว้กับวัคซีนของแอสตราเซนเนกา เนื่องจากออสเตรเลียสั่งไว้ 53 ล้านโดส ส่วนใหญ่จะผลิตในประเทศ ส่วนวัคซีนของไฟเซอร์ได้รับแล้วไม่ถึงครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งประเทศเกือบ 26 ล้านคน รอยเตอร์มองด้วยว่า ออสเตรเลียไม่ถูกกดดันให้เริ่มโครงการฉีดวัคซีนมากนัก เนื่องจากสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดี วันนี้แจ้งพบผู้ป่วยใหม่ในประเทศเพียงรายเดียว ยอดผู้ป่วยสะสมกว่า 28,800 คน เสียชีวิต 909 คน
แอฟริกาใต้ประกาศเมื่อวานนี้ว่า จะระงับการฉีดวัคซีนของแอสตราเซนเนกาโดยอ้างข้อมูลว่า ลดการป่วยปานกลางถึงป่วยหนักจากการติดเชื้อปรับปรุงสายพันธุ์ 501Y.V2 ได้เพียงร้อยละ 22 เท่านั้นเมื่อเทียบกับวัคซีนหลอก เป็นเชื้อที่ทำให้แอฟริกาใต้เกิดการระบาดระลอกสองตั้งแต่ปลายปีก่อน ทั้งที่ก่อนหน้าเชื้อนี้จะระบาดในวงกว้าง วัคซีนนี้มีประสิทธิภาพราวร้อยละ 75.-สำนักข่าวไทย