ซาโนฟี-จีเอสเค เริ่มทดลองวัคซีนโควิดระยะที่สามแล้ว

ปารีส 27 พ.ค. – ซาโนฟี บริษัทยาฝรั่งเศส และแกล็กโซสมิธไคลน์ หรือ จีเอสเค บริษัทยาอังกฤษ เริ่มการทดลองวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระยะที่สามหรือระยะสุดท้ายในมนุษย์เพื่อพัฒนาวัคซีนชนิดใช้ไวรัสเป็นพาหะ โดยคาดว่าจะผ่านการอนุมัติภายในสิ้นปีนี้ การทดลองวัคซีนดังกล่าวที่พัฒนาโดยซาโนฟีและจีเอสเคถือเป็นหนึ่งในการทดลองระยะที่สามที่รวมการทดสอบด้านวัคซีนเข็มกระตุ้นและเชื้อโควิดที่ปรับปรุงสายพันธุ์ใหม่ ในขณะที่บริษัทเวชภัณฑ์หลายแห่งต่างปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือเชื้อโควิดกลายพันธุ์ ซาโนฟีระบุในแถลงการณ์ว่า การทดลองระยะที่สามมีแนวทางแบ่งเป็น 2 ขั้นตอนคือ การศึกษาในขั้นแรกเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของสูตรวัคซีนที่มุ่งเน้นเชื้อโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิม ส่วนขั้นที่สองจะประเมินสูตรวัคซีนที่มุ่งไปยังเชื้อโควิดสายพันธุ์ B.1.351 ที่พบการระบาดครั้งแรกในแอฟริกาใต้ หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ เชื้อโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้ นอกจากนี้ หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า แอนติบอดีที่สร้างขึ้นจากเชื้อโควิดสายพันธุ์ดังกล่าวอาจทำให้เกิดการป้องกันข้ามสายพันธุ์ในวงกว้างต่อเชื้อโควิดกลายพันธุ์อื่น ๆ อีกด้วย ในขณะเดียวกัน ซาโนฟีและจีเอสเคยังระบุว่า การทดลองระยะที่สามจะเป็นการทดลองแบบอำพรางสองฝ่าย การศึกษาควบคุมด้วยยาหลอก รวมถึงการทดลองในกลุ่มอาสาสมัครวัยผู้ใหญ่กว่า 35,000 คนในสหรัฐ ทวีปเอเชีย แอฟริกา และภูมิภาคลาตินอเมริกา รูปแบบการทดลองในระยะที่สามจะดำเนินการในหลากหลายพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ และช่วยให้เกิดการประเมินประสิทธิภาพของวัคซีนต่อสายพันธุ์ที่หลากหลาย ซาโนฟียังยืนยันว่า จะเริ่มการศึกษาทางคลินิกในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าเพื่อประเมินประสิทธิภาพของวัคซีนที่กำลังพัฒนาให้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยที่ผู้ฉีดวัคซีนไม่จำเป็นต้องได้รับวัคซีนชนิดนี้มาก่อน.-สำนักข่าวไทย

ฟิลิปปินส์พบผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้เพิ่ม 52 ราย

ฟิลิปปินส์พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกาใต้ที่แพร่เชื้อรวดเร็วเพิ่มอีก 52 คน และต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหม่ในการควบคุมการระบาดที่รุนแรง

ทวีปแอฟริกามียอดผู้เสียชีวิตจากโควิดทะลุ 100,000 คน

โยฮันเนสเบิร์ก 19 ก.พ. – ทวีปแอฟริกามียอดผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทะลุ 100,000 คนแล้ว แม้ยอดผู้เสียชีวิตดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำกว่าทวีปอื่น ๆ แต่ก็เป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังเกิดการระบาดระลอก 2 จนทำให้เกิดปัญหาโรงพยาบาลเกิดความตึงตัว สำนักข่าวรอยเตอร์สบันทึกสถิติตัวเลขเกี่ยวกับโควิด-19 ซึ่งพบว่า ทวีปแอฟริการายงานยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 100,354 คน เทียบกับทวีปอเมริกาเหนือที่มีกว่า 500,000 คน และทวีปยุโรปที่มีเกือบ 900,000 คน แม้ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในทวีปแอฟริกาจะน้อยกว่าอีกสองทวีป แต่กลับมีจำนวนเพิ่มสูงอย่างรวดเร็วทั่วทวีป โดยเฉพาะในแอฟริกาใต้ที่มียอดผู้เสียชีวิตเกือบครึ่งหนึ่งของทั้งหมด และกำลังเผชิญกับการระบาดระลอก 2 จากเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ที่แพร่เชื้อเร็วที่ทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อล้นโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ประสานงานโครงการฉีดวัคซีนขององค์การอนามัยโลกประจำทวีปแอฟริกากล่าวว่า ยอดผู้ป่วยติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ผู้ป่วยหลายรายมีอาการรุนแรง และบางประเทศก็รับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างยากลำบาก เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านการจัดซื้อถังออกซิเจนที่ส่งผลกระทบเชิงลบในแง่ของการจัดการผู้ป่วยติดเชื้อที่มีอาการรุนแรง ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า กลุ่มประเทศที่อยู่ใกล้กับแอฟริกาใต้ เช่น ซัมบับเว โมซัมบิก และมาลาวีพบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นด้วย และมีโอกาสที่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ 501Y.V2 ที่พบระบาดครั้งแรกในแอฟริกาใต้เมื่อปลายปีก่อนได้แพร่กระจายไปทั่วภูมิภาคตอนใต้ของทวีปแอฟริกาแล้ว แม้ว่าจะต้องมีการตรวจหาลำดับจีโนมมากขึ้นเพื่อพิสูจน์ข้อสันนิษฐานก่อนก็ตาม ขณะนี้ แอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของทวีปแอฟริกามียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมเกือบ 1.5 ล้านคน และผู้เสียชีวิตราว 48,700 คน.-สำนักข่าวไทย

แอฟริกาใต้จะใช้วัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน

โจฮันเนสเบิร์ก 10 ก.พ. – แอฟริกาใต้จะฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่จะเป็นไปในรูปแบบของการศึกษาเพื่อนำไปใช้งานโดยร่วมมือกับสภาวิจัยทางการแพทย์ การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่แอฟริกาใต้ประกาศระงับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่พัฒนาโดยแอสตราเซเนกาและมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษ เนื่องจากข้อมูลผลการทดลองทางคลินิกขนาดเล็กชี้ว่า วัคซีนดังกล่าวไม่มีประสิทธิภาพป้องกันอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยถึงปานกลางจากเชื้อโควิดสายพันธุ์ 501Y.V2 ที่แพร่เชื้อเร็วและระบาดหนักในแอฟริกาใต้ นายซเวลี เอ็มคิเซ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของแอฟริกาใต้กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับผลการศึกษาประสิทธิภาพวัคซีนของแอสตราเซเนกา กระทรวงจะยังคงฉีดวัคซีนระยะที่หนึ่งให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขตามแผนที่วางไว้ โดยใช้วัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันแทนวัคซีนของแอสตราเซเนกา วัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันผ่านการทดสอบแล้วว่ามีประสิทธิภาพ และจะฉีดวัคซีนในรูปแบบของการศึกษาเพื่อนำไปใช้ โดยร่วมมือกับสภาวิจัยทางการแพทย์และสำนักงานสาธารณสุขแห่งชาติของแอฟริกาใต้ เขายังระบุเพิ่มเติมว่า แอฟริกาใต้ยังได้ทำข้อตกลงสั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากไฟเซอร์ รวมถึงกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับโมเดอร์นาอีกด้วย วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันมีประสิทธิภาพป้องกันอาการรุนแรงจากการติดเชื้อได้สูงถึงร้อยละ 89 และอาการระดับปานกลางถึงรุนแรงได้ร้อยละ 57 จากการทดลองในกลุ่มอาสาสมัครชาวแอฟริกาใต้ทั่วโลก โดยที่การศึกษาในระดับท้องถิ่นดังกล่าวมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ 501Y.V2 สูงถึงร้อยละ 95.-สำนักข่าวไทย

ออสเตรเลียมั่นใจวัคซีนอังกฤษได้ผล แม้แอฟริกาใต้ระงับ

แคนเบอร์รา 8 ก.พ.- ออสเตรเลียมั่นใจว่า วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของแอสตราเซนเนกาได้ผล หลังจากแอฟริกาใต้ระงับการฉีดเพราะมีประสิทธิภาพจำกัดในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสปรับปรุงสายพันธุ์ในแอฟริกาใต้ นายเกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลียแถลงวันนี้ว่า ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานชี้ว่าวัคซีนของแอสตราเซนเนกาหรือของไฟเซอร์มีประสิทธิภาพลดลงในการป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิต ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลักของการฉีดวัคซีนเพื่อปกป้องชีวิตผู้คน รอยเตอร์คาดการณ์ว่า ออสเตรเลียจะอนุมัติให้ใช้วัคซีนของแอสตราเซนเนกาในอีกไม่กี่วัน หลังจากอนุมัติให้ใช้วัคซีนของไฟเซอร์ไปเมื่อเดือนก่อนและเตรียมจะใช้ในเดือนนี้ อย่างไรก็ดี ความสำเร็จในการดำเนินโครงการฉีดวัคซีนฝากไว้กับวัคซีนของแอสตราเซนเนกา เนื่องจากออสเตรเลียสั่งไว้ 53 ล้านโดส ส่วนใหญ่จะผลิตในประเทศ ส่วนวัคซีนของไฟเซอร์ได้รับแล้วไม่ถึงครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งประเทศเกือบ 26 ล้านคน รอยเตอร์มองด้วยว่า ออสเตรเลียไม่ถูกกดดันให้เริ่มโครงการฉีดวัคซีนมากนัก เนื่องจากสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดี วันนี้แจ้งพบผู้ป่วยใหม่ในประเทศเพียงรายเดียว ยอดผู้ป่วยสะสมกว่า 28,800 คน เสียชีวิต 909 คน แอฟริกาใต้ประกาศเมื่อวานนี้ว่า จะระงับการฉีดวัคซีนของแอสตราเซนเนกาโดยอ้างข้อมูลว่า ลดการป่วยปานกลางถึงป่วยหนักจากการติดเชื้อปรับปรุงสายพันธุ์ 501Y.V2 ได้เพียงร้อยละ 22 เท่านั้นเมื่อเทียบกับวัคซีนหลอก เป็นเชื้อที่ทำให้แอฟริกาใต้เกิดการระบาดระลอกสองตั้งแต่ปลายปีก่อน ทั้งที่ก่อนหน้าเชื้อนี้จะระบาดในวงกว้าง วัคซีนนี้มีประสิทธิภาพราวร้อยละ 75.-สำนักข่าวไทย

เผยวัคซีนโควิดจีนป้องกันเชื้อโควิดแอฟริกาใต้ได้

ปักกิ่ง 3 ก.พ. – วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จำนวน 2 ขนานของจีนที่รวมถึงวัคซีนของซิโนฟาร์มสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์แพร่เชื้อเร็วที่พบการระบาดในแอฟริกาใต้ได้ แม้ว่าจะมีประสิทธิภาพลดลงจากเดิมก็ตาม คณะนักวิจัยของซิโนฟาร์ม บริษัทเวชภัณฑ์ของจีน และสถาบันจุลชีววิทยาของสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์ (CAS) ในเครือสถาบันวิจัยผลิตภัณฑ์ชีวภาพแห่งกรุงปักกิ่งเผยว่า ตัวอย่างเซรุ่มที่เก็บมาจากกลุ่มตัวอย่าง 12 คนที่ได้รับวัคซีน 2 ขนานที่พัฒนาโดยซิโนฟาร์มและฉงชิ่ง จื้อเฟย ไบโอโลจิคอล โปรดักส์มีประสิทธิภาพต่อต้านเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์แอฟริกาใต้ได้ อย่างไรก็ตาม วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้อยู่ในระดับต่ำกว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ดั้งเดิมและสายพันธุ์อังกฤษที่กำลังระบาดหนักในหลายพื้นที่ทั่วโลก คณะนักวิจัยยังระบุเพิ่มเติมว่า ประเด็นดังกล่าวควรได้รับการพิจารณาถึงผลกระทบด้านประสิทธิภาพทางคลินิกของวัคซีนเหล่านี้ ทั้งนี้ วัคซีนของซิโนฟาร์มได้รับอนุมัติใช้เป็นวงกว้างในจีนแล้ว และมีหลายประเทศนำไปฉีดให้แก่ประชาชน เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ขณะที่วัคซีนของจื้อเฟยกำลังอยู่ในการทดลองทางคลินิกขั้นท้ายในจีนและต่างประเทศ ในขณะเดียวกัน โนวาแวกซ์และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน บริษัทผู้ผลิตวัคซีนและบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐเผยข้อมูลจากการทดลองทางคลินิกเบื้องต้นว่า วัคซีนของทั้งสองบริษัทที่ฉีดให้กลุ่มอาสาสมัครในแอฟริกาใต้มีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาอยู่ในระดับต่ำอย่างมีนัยสำคัญ.-สำนักข่าวไทย

อังกฤษระงับเที่ยวบินจากยูเออีสกัดเชื้อโควิดแอฟริกาใต้

อังกฤษประกาศระงับเที่ยวบินจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพื่อป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่กลายพันธุ์ในแอฟริกาใต้ เท่ากับปิดเส้นทางการบินระหว่างประเทศที่พลุกพล่านที่สุดในโลกระหว่างกรุงลอนดอนกับนครดูไบ

วัคซีนโควิดโนวาแวกซ์ไม่ได้ผลกับสายพันธุ์แอฟริกา

วอชิงตัน 29 ม.ค.- โนวาแวกซ์ บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐแจ้งผลการทดลองวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระยะสามในอังกฤษว่า มีประสิทธิภาพร้อยละ 89.3 และมีประสิทธิภาพค่อนข้างสูงกับเชื้อไวรัสปรับปรุงสายพันธุ์ในอังกฤษ แต่ไม่ได้ผลมากนักกับเชื้อไวรัสปรับปรุงสายพันธุ์ในแอฟริกาใต้ นายสแตนลีย์ เอิร์ค ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอ (CEO) ของโนวาแวกซ์แจ้งว่า NVX-CoV2373 มีศักยภาพที่จะช่วยแก้ไขวิกฤตสาธารณสุขโลกในขณะนี้  บริษัทได้ทดลองในอังกฤษกับคนวัย 18-84 ปี จำนวน 15,000 คน ในจำนวนนี้ร้อยละ 27 อายุเกิน 65 ปี ผลการวิเคราะห์เบื้องต้นกับผู้ติดเชื้อ 62 คน เป็นกลุ่มที่ได้รับยาหลอก 56 คน และกลุ่มที่ได้รับวัคซีน 6 คนพบว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันร้อยละ 95.6 กับสายพันธุ์ดั้งเดิม และร้อยละ 85.6 กับสายพันธุ์ B.1.1.7 เป็นสายพันธุ์ปรับปรุงจากสายพันธุ์ดั้งเดิม พบครั้งแรกในอังกฤษและพบในผู้ป่วยกว่าครึ่งหนึ่ง อย่างไรก็ดี ผลการทดลองกับผู้ป่วย 4,400 คนเศษในแอฟริกาใต้ระหว่างเดือนกันยายนถึงกลางเดือนมกราคม ซึ่งเป็นช่วงที่สายพันธุ์ B.1.351  กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในประเทศนี้พบว่า […]

...