ทรัมป์แจกเงินครอบครัวละ 32,000 บาท กระตุ้นเศรษฐกิจสู้โควิด-19

18 มี.ค. – ผู้นำสหรัฐประกาศแจกเงินชาวอเมริกันครอบครัวละ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 32,000 บาท) ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท่ามกลางภัยระบาดของโควิด-19 ส่วนสหภาพยุโรปห้ามนักเดินทางจากนอกกลุ่มสหภาพยุโรปเข้าพื้นที่นาน 30 วัน 


ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ประกาศเตรียมส่งเช็คเงินสดถึงชาวชาวอเมริกันทั่วประเทศ ครัวเรือนละ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 32,000 บาท) หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชะงักงันจากผลพวงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ชาวอเมริกันติดเชื้อแล้วทั่วประเทศมากราว 5,200 ราย ผู้เสียชีวิตมากกว่า 71 ราย


เงินนี้เป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งหมด 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรัฐบาลสหรัฐเตรียมแจกเงินทั้งหมดราว 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกันนี้ ผู้นำสหรัฐยังประกาศแผนเลื่อนการจ่ายภาษีให้แก่บริษัทและภาคประชาชน เป็นเวลา 90 วัน เพื่อบรรเทาผลกระทบทางธุรกิจจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 

ส่วนมาตรการอื่นๆ ได้แก่ เร่งกองทัพสร้างโรงพยาบาลสนามเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ผู้ป่วยจำนวนมาก ทั้งยังประกาศขอประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเดินทาง แต่ยังไม่จำกัดการเดินทางภายในประเทศ เพียงแต่อยากให้ชาวอเมริกันใช้เวลาอยู่ภายในบ้านพักให้มากขึ้น 


ส่วนความเคลื่อนไหวในพื้นที่สหภาพยุโรป เริ่มบังคับใช้มาตรการห้ามผู้คนนอกกลุ่มสหภาพยุโรปเดินทางเข้าพื้นที่ภายในช่วงเวลา 30 วัน นับตั้งแต่บัดนี้ หวังหยุดยั้งการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ซึ่งคร่าชีวิตชาวโลกแล้วราว 7,500 ราย ผู้ติดเชื้อมากราว 185,000 ราย มาตรการห้ามคนภายนอกเดินทางเข้าประเทศกลุ่มสหภาพยุโรป 26 ประเทศแล้ว ยังครอบคลุมถึงประเทศไอซ์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ นอร์เวย์ และสวิตเซอร์แลนด์ด้วย ส่วนชาวสหราชอาณาจักรจะไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้ 

ขณะที่สถานการณ์ล่าสุดของโควิด-19 ในยุโรป ฝรั่งเศสเริ่มมาตรการคุมเข้มปิดเมืองตั้งแต่เมื่อวานนี้ บังคับให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านเป็นเวลา 15 วัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค โดยอนุญาตให้ออกจากบ้านได้กรณีจำเป็นเท่านั้น ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่กว่า 100,000 นาย ออกตรวจตราทั่วประเทศ ฝ่าฝืนมีโทษปรับเงิน 135 ยูโร ตอนนี้ฝรั่งเศสมีผู้ติดเชื้อ 7,730 คน เสียชีวิต 175 คน และอีกกว่า 2,500 คนยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล

ที่อังกฤษมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 71 คน รัฐบาลต้องประกาศให้ผู้คนควรอยู่แต่ในบ้าน และหลีกเลี่ยงการเดินทางหากไม่จำเป็นจริงๆ พร้อมออกแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ 330,000 ล้านปอนด์ หวังช่วยผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 

ที่สเปนยังคงบังคับใช้มาตรการปิดเมืองในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ กระทบต่อประชากรกว่า 47 ล้านคน ขณะที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 11,178 คน พร้อมห้ามยวดยานจากฝรั่งเศสและโปรตุเกส 2 เพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศ ส่วนอิตาลีชาติที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในยุโรป ตอนนี้มากกว่า 26,000 คนแล้ว ผู้เสียชีวิตพุ่งทะลุ 2,500 คน ยังคงมาตรการปิดประเทศต่อไป ขณะที่รัฐบาลเตรียมเข้าอุ้มอลิตาเลีย สายการบินแห่งชาติด้วยเม็ดเงินช่วยเหลือ 670 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

เยอรมนี โควิด-19 กระทบธุรกิจค้าประเวณี

การแพร่ระบาดของโควิด-19 กระทบถึงธุรกิจค้าบริการทางเพศในพื้นที่กรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงเยอรมนี เจ้าของสถานบริการแห่งหนึ่งระบุว่า ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ลูกค้าหายไปมากถึงราว 50% แม้ในช่วงวันศุกร์ ซึ่งผู้คนจะเริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วง 1 ทุ่ม เพราะลูกค้าหวั่นติดโรคโควิด-19 ทั้งที่เจ้าของสถานบริการยืนยันปรับปรุงยกระดับเรื่องความสะอาดมากขึ้นแล้วก็ตาม รวมถึงมีการเปิดหน้าต่างสถานบริการบ่อยครั้งมากขึ้นเพื่อให้อากาศถ่ายเท

สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจซ่องโสเภณีในกรุงเบอร์ลิน ซึ่งได้รับอนุญาตดำเนินการถูกกฎหมายจำนวน 283 แห่ง คาดว่ามีผู้คนอยูในแวดวงค้าประเวณีทั่วประเทศเยอรมนีมากราว 100,000-200,000 คน ผู้ค้าบริการทางเพศส่วนใหญ่สมัครใจทำงานเอง ทั้งจะป้องกันตัวเองจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ด้วยตัวเอง

LOUIS VUITTON ผลิตเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ

ขณะที่ LVMH กลุ่มบริษัท LOUIS VUITTON ผู้ผลิตสินค้าแฟชั่นชั้นนำของฝรั่งเศส รวมถึงผู้ผลิตเครื่องสำอาง ต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การผลิตเครื่องสำอาง หันมาเน้นการผลิตเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในฝรั่งเศสและอีกหลายประเทศของยุโรป อย่างไรก็ตาม กระบวนการผลิตเจลแอลกอฮอล์ล้างมือนี้ บริษัทผู้ผลิต LOUIS VUITTON  ไม่ได้ทำเพื่อจำหน่าย แต่ดำเนินการเพื่อมอบให้รัฐบาลฝรั่งเศส นำไปแจกผู้คนช่วยเหลือบรรเทาสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งฝรั่งเศสพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วประเทศแล้ว 7,730 ราย ผู้เสียชีวิต 175 ราย โดยบริษัท LOUIS VUITTON ตั้งเป้าผลิตเจลแอลกอฮอลให้ได้มากถึง 12,000 ตัน ภายในช่วงสัปดาห์นี้ เพื่อนำแจกจ่ายให้โรงพยาบาลในพื้นที่กรุงปารีส 39 แห่ง. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย