เปิดประวัติ “บังแจ็ค”-สตม.ห้ามเข้าประเทศ 10 ปี

กรุงเทพฯ 26 พ.ค. – เปิดประวัติ “บังแจ็ค” สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองห้าม “บังแจ็ค” เข้าประเทศ 10 ปี ในคดี Over Stay 450 วัน ถูกศาลสั่งเนรเทศพ้นไทยเมื่อปลายปี 2559


จากการตรวจสอบประวัติของ “บังแจ็ค” หรือ Mr.ZULQARNAIN HAIDER RAJA อายุ 35 ปี สัญชาติปากีสถาน เคยทำงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ย้ายมาอยู่ไทยตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 2011 เหตุผลที่มาอยู่ไทยเพราะชอบอาหารไทยและสาวไทย และอดีตเคยเป็นหนึ่งในสมาชิกแก๊งรถซิ่งของ “เบนซ์ เรซซิ่ง”

“บังแจ็ค” เคยถูกตำรวจจับกุมดำเนินคดีข้อหา OverStay หรืออยู่ในราชอาณาจักรเกินกฎหมายกำหนด 450 วัน เมื่อปี 2559 หลังถูกจับเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งฟ้องต่อศาล และศาลมีคำสั่งเนรเทศออกนอกราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2559 และอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยได้อีกครั้งในวันที่ 24 ธันวาคม 2569 หรือครบ 10 ปี หลังถูกเนรเทศ นับถึงตอนนี้เหลือเวลากว่า 4 ปี ที่บังแจ็คจะสามารถเดินทางกลับเข้ามาประเทศไทยได้ หากเข้ามาก่อนวันที่ 24 ธันาวาคม 2569 ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจะถูกปฏิเสธการเข้าเมืองโดยทันที หรือถ้าหากตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมแล้วพบว่ามีหมายจับก็จะถูกควบคุมตัวตามหมายจับทันที


หากบังแจ็คปฏิบัติตามเงื่อนไขจะกลับเข้ามาประเทศไทยหลังครบ 10 ปี ตามคำสั่งเนรเทศ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอาจหยิบยกพฤติการณ์ในอดีตของบังแจ็คขึ้นมาพิจารณา และปฏิเสธการเข้าเมือง ตามกฎหมายเข้าเมือง (มาตรา 12 อนุ 7) เนื่องจากเป็นบุคคลที่มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าเป็นบุคคลเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ

ชื่อของ “บังแจ็ค” ได้ยินมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะช่วงที่มีกระแสข่าวดังๆ ก่อนหน้านี้บังแจ็คเคยถูกกล่าวหาว่าขายไอโฟนแล้วโกงเงิน ไม่ยอมส่งของ พัวพันกับคดีใหญ่ ค้ายาเสพติด และฟอกเงิน อ้างว่า นิก คุณาธิป ยืมรถมอเตอร์ไซค์ไปขี่แล้วไม่คืน ชอบอัดคลิปโชว์ปืน AK-47 ขู่แฉคลิปน้องเนย อดีตแฟนสาวของ เก่ง ลายพราง ข่มขู่คนดังหลายคน ทั้ง เบนซ์ เรซซิ่ง, บุ๋ม ปนัดดา, แพท ณปภา, หนุ่ม กรรชัย และวัน อยู่บำรุง

จับโป๊ะ “บังแจ็ค” ไม่ได้อยู่แคลิฟอร์เนีย
ส่วนที่มาเกี่ยวข้องเรื่องคดีแตงโม เริ่มตั้งแต่ออกมาบอกว่าได้มีการพูดคุยทางแชทกับคนชื่อกระติก และโอนเงิน 3 แสนบาท เพื่อแลกข้อมูล และยังมีการสารภาพเรื่องรับงาน จากนั้นบังแจ็คก็มาไลฟ์พร้อมกับผ้าสีขาว ที่เจ้าตัวบอกว่าเป็นผ้าคลุมของแตงโมที่หายไป


จากนั้นก็เงียบหายไป มาเคลื่อนไหวอีกครั้งหลังได้รับโทรศัพท์ของแตงโมจากแม่ที่ส่งไปให้ โดยสื่อบ้านเราหลายสื่อได้โทรศัพท์สัมภาษณ์บังแจ็ค ซึ่งเจ้าตัวระบุว่าอยู่แคลิฟอร์เนีย แต่เพจดังอย่าง CSI LA ได้ออกมาแย้งว่าบังแจ็คไม่ได้อยู่แคลิฟอร์เนียอย่างที่กล่าวอ้าง แต่อยู่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ สังเกตจากสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะป้ายทะเบียนรถที่ไม่ตรงกับของรัฐแคลิฟอร์เนีย รวมทั้งสีของหัวดับเพลิงที่คนละสีกับของรัฐแคลิฟอร์เนีย และเห็นได้ชัดว่าเป็นเวลาเช้า แต่ที่แคลิฟอร์เนียตอนนั้นยังมืดอยู่

นอกจากนี้ยังพบว่าบังแจ็คไม่ได้ใช้ชื่อจริง ทั้งเวลาอยู่ที่นี่และที่เมืองไทย เพราะทางเพจได้ตรวจใบตรวจคนเข้าเมืองของไทย แลบัตร ID ของบังแจ็คที่นครนิวยอร์กแล้ว สรุปเป็นที่อยู่ปลอมและชื่อก็ปลอม โดยการสวมชื่อนักกีฬาชาวปากีสถาน ตอนนี้ทางเพจได้เริ่มประสานงานกับตำรวจแล้ว หากใครเจอหรือมีข้อมูลบังอีกส่งมาหลังไมค์ได้เลย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.ออกแถลงการณ์กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

30 ก.ค.- กองทัพบกออกแถลงการณ์ กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงเป็นครั้งที่สอง บ่อนทำลายการคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี ขอประณามการกระทำอันไม่รับผิดชอบ ย้ำจะดำเนินการอย่างเหมาะสม เด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตยไทย ตามที่รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการประกาศหยุดยิง เพื่อยุติการปะทะทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยข้อตกลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 นาฬิกา ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 นั้น กองทัพบกขอยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด โดยได้ระงับการใช้กำลังทุกรูปแบบ และลดกิจกรรมทางทหารในพื้นที่ เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งสันติภาพ ความไว้เนื้อเชื่อใจ และความร่วมมือที่สร้างสรรค์ระหว่างทั้งสองประเทศ อย่างไรก็ตาม กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ว่า ในวันที่ 29 – 30 กรกฎาคม 2568 กองทัพกัมพูชาได้กระทำการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้ง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ การกระทำของกองทัพกัมพูชาในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างร้ายแรง นับเป็นครั้งที่สองภายหลังจากที่ข้อตกลงมีผลบังคับใช้ และสะท้อนถึงพฤติกรรมที่ไม่เคารพต่อพันธกรณีระหว่างประเทศ ตลอดจนเป็นการบ่อนทำลายความพยายามในการคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความไว้วางใจที่ควรมีระหว่างสองประเทศ กองทัพบกขอประณามการกระทำอันไม่รับผิดชอบของกองทัพกัมพูชาอย่างถึงที่สุด และขอแจ้งให้ทราบว่า ฝ่ายไทยจะยังคงดำรงตนอยู่บนหลักแห่งความอดกลั้น สันติภาพ และมนุษยธรรมอย่างสูงสุด อย่างไรก็ดี หากมีการละเมิดต่อเนื่อง กองทัพบกจะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมและจำเป็นอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนไทยโดยไม่ละเว้น จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน -สำนักข่าวไทย

กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เปิดแนวปะทะพื้นที่ “อานม้า-ภูมะเขือ”

30 ก.ค. – กัมพูชากลับกลอก ละเมิดข้อตกลงอีก เปิดแนวปะทะ 2 พื้นที่ “อานม้า และภูมะเขือ” ขณะที่ ทบ.เผยทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็ก สลับระเบิดขว้าง เมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยก่อนอีกแล้ว ละเมิดข้อตกลงถึง 2 ครั้ง โดยเปิดแนวปะทะ 2 พื้นที่ที่ อานม้า และภูมะเขือ ทบ.เปิดเผยว่า ทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็กสลับระเบิดขว้าง โดยเมื่อเวลา 20.45 น. แหล่งข่าวฝ่ายมั่นคงรายงานว่า ช่องอานม้า มีเหตุปะทะ กัมพูชาเปิดฉากยิง หวังยึดพื้นที่ ฝ่ายไทยตอบโต้ ขณะที่ช่วงเวลา 22.19 น. พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบขั้นต้นเกิดเหตุปะทะที่ภูมะเขือ และช่องอานม้า โดยมีปืนเล็กกับระเบิดขว้างเข้ามาที่ฐานฝั่งไทย ประมาณ 30 นาที ขณะที่เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์ไม่ต้องนอน ตามคาด! กัมพูชาละเมิดอีกแล้ว อานม้าปะทะภูมะเขือ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสาน-กลาง-ตอ.ฝนตกหนัก กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วน กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบน มีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย