กัวลาลัมเปอร์ 7 ต.ค.- ประธานคณะกรรมาธิการปราบปรามทุจริตมาเลเซียหรือเอ็มเอซีซี (MACC) เผยว่า ได้สั่งปรับน้องชายอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัก พร้อมพวกและบริษัทโทษฐานรับเงินจากกองทุนพัฒนามาเลเซียหรือ 1MDB ที่ขณะนี้ปิดตัวไปแล้ว
ประธานเอ็มเอซีซีแถลงว่า ได้แจ้งความรวมกับบุคคลและนิติบุคคลเหล่านี้ให้จ่ายค่าปรับที่อาจสูงถึง 2.5 เท่าของเงินที่ได้รับจาก 1MDB แต่ไม่เปิดเผยมูลค่าของค่าปรับ โดยระบุเพียงว่า บุคคลและนิติบุคคลรวมทั้งหมด 80 ราย ได้รับเงินไป 420 ล้านริงกิต (ราว 3,050 ล้านบาท) มีนายนาซีร์ ราซัก น้องชายคนสุดท้องวัย 52 ปีของอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบวัย 66 ปี และนายชาห์รีร์ อับดุล ซาหมัดรวมอยู่ด้วย นายนาซีร์เคยเป็นประธานซีไอเอ็มบี ธนาคารใหญ่อันดับสองของมาเลเซีย รับเงินจาก 1MDB เป็นเช็คมูลค่า 25.7 ล้านริงกิต (ราว 186.67 ล้านบาท) ส่วนนายชาห์รีร์เคยเป็นประธานเฟลดา สำนักงานน้ำมันปาล์มของรัฐและรัฐมนตรีในรัฐบาลนายนาจิบ เอ็มเอซีซีเผยด้วยว่า เงินจาก 1MDB ถูกแจกจ่ายไปยังบริษัท พรรคการเมืองและองค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลผสมนายนาจิบ ทางการได้เปิดการสอบสวนบุคคลและนิติบุคคลทั้ง 80 รายนี้แล้ว
เจ้าหน้าที่สอบสวนของมาเลเซียและสหรัฐเผยว่า 1MDB ที่นายนาจิบก่อตั้งขึ้นในปี 2552 เพื่อเป็นกองทุนการลงทุนของรัฐ ถูกยักยอกเงินไป 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 136,992 ล้านบาท) นายนาจิบซึ่งพ่ายเลือกตั้งเมื่อปีก่อนถูกตั้งข้อหารับสินบนและฟอกเงินหลายกระทงเกี่ยวกับเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 30,442 ล้านบาท) ที่ได้รับจากกองทุนนี้ เขาให้การปฏิเสธ ด้านกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ยื่นอายัดทรัพย์แล้วประมาณ 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 51,752 ล้านบาท) นับตั้งแต่ปี 2559 กับทรัพย์สินที่ซื้อด้วยเงินที่ยักยอกจาก 1MDB.- สำนักข่าวไทย