ซิดนีย์ 26 มิ.ย.- นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียเตือนว่า ข้อพิพาทการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐกำลังส่งผลกระทบไปถึงเศรษฐกิจประเทศขนาดเล็กและคุกคามเศรษฐกิจโลก
นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันกล่าวที่นครซิดนีย์ว่า ความสัมพันธ์ทวิภาคีที่สำคัญที่สุดในโลกคือความสัมพันธ์จีน-สหรัฐได้เข้าสู่ภาวะตึงเครียด ความตึงเครียดทางการค้าขยายตัว และผลกระทบที่เป็นลูกหลงกำลังแพร่ขยาย ระบบการค้าโลกกำลังถูกกดดันอย่างแท้จริง การคาดการณ์ตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกกำลังถูกปรับลดลง และผลกระทบจากความสัมพันธ์ที่เสื่อมทรามลงนี้จะไม่จำกัดเฉพาะสองมหาอำนาจอย่างจีนและสหรัฐเท่านั้น
นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียกล่าวเรื่องนี้ก่อนที่ผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ หรือจี 20 (G20) จะประชุมสุดยอดที่นครโอซากาของญี่ปุ่นในวันที่ 28-29 มิถุนายน ขณะที่ตลาดกำลังจับตาการหารือนอกรอบจี 20 ระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐว่าจะมีทางออกคลี่คลายสถานการณ์หรือไม่ สถาบันโลวีที่เป็นหน่วยงานวิชาการในอออสเตรเลียเผยผลสำรวจในวันนี้ว่า ชาวออสเตรเลียที่ตอบว่าไว้วางใจจีนมีเพียงร้อยละ 32 เท่านั้น ลดลงถึง 20 จุดจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ผู้ไว้วางใจประธานาธิบดีทรัมป์มีเพียงร้อยละ 25
รัฐบาลพรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีมอร์ริสันได้รับเลือกตั้งอีกสมัยเมื่อเดือนพฤษภาคมจากการหาเสียงรับปากว่าจะรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องมา 28 ปีต่อไป แต่สงครามการค้าจีน-สหรัฐทำให้เศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวลง นักเศรษฐศาสตร์ชี้ว่า โครงสร้างในประเทศที่อ่อนแอทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจยิ่งมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น.- สำนักข่าวไทย